กรุงเทพมหานคร เตรียมแผนสำรองใช้สนาม อินดอร์ สเตเดียม (หัวหมาก) เป็นสนามหลักในการแข่งขันศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ระหว่างวันที่ 1-18 พฤศจิกายน นี้ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ แทนหากสนาม แบงค็อก ฟุตซอล อารีนา (หนองจอก) เสร็จไม่ทันกำหนด “เจ๊มล” นฤมล ศิริวัฒน์ ประธานกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เผยใช้งบสูงถึง 1,239 ล้านบาท แต่เสร็จไม่ทันต้องรับผิดชอบทุกฝ่าย
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน 2555 ณ ห้องประชุม 309 อาคารรัฐสภา 2 เวลา 10.00 น.มีการประชุมคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เรื่องพิจารณาเรื่องความคืบหน้าของสนาม แบงค็อก ฟุตซอล อารีนา (หนองจอก) ที่จะใช้เป็นสนามหลักในการแข่งขันศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ระหว่างวันที่ 1-18 พฤศจิกายน นี้ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ กับทางกรุงเทพมหานคร โดยมี ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.และผู้ดูแลสนาม พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ กมลเวช ผู้ดูแลสนาม เขาร่วมชี้แจง
ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.และผู้ดูแลสนาม แบงค็อก ฟุตซอล อารีนา (หนองจอก) ได้เผยต่อที่ประชุม ว่า “ทางฟีฟา จะเดินทางมาตรวจสนามครั้งสุดท้าย ในวันที่ 9 ต.ค.นี้ ก่อนจะมีการส่งมอบสนามในวันที่ 20 ต.ค.ซึ่งเราได้ขอเลื่อนให้ช้ากว่ากำหนดเดิม คือ วันที่ 12 ต.ค.เนื่องจากสภาพสนามยังไม่เรียบร้อย และเราจะต้องทำให้เขาเชื่อมั่นว่าสนามจะต้องเสร็จทันแน่นอน รวมถึงในเรื่องของความปลอดภัย สปริงเกอร์ฉีดน้ำบนเพดาน และ สกอร์บอร์ดที่ได้มาตรฐาน”
“ซึ่งก่อนหน้านี้ ทาง ฟีฟา เคยบอกว่า ถ้าเสร็จทันจะถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก แต่ถ้าเกิดเสร็จไม่ทันทาง ฟีฟา ก็ได้เสนอแผนรองรับมาแล้ว คือใช้สนาม อินดอร์ สเตเดียม (หัวหมาก) ในพิธีเปิดและทำการแข่งขันแทนไปก่อน จนกว่าสนามที่หนองจอกจะพร้อม ส่วนแผนการประชาสัมพันธ์นั้น จะเริ่มในวันที่ 20 ก.ย.โดยจะมีการเปิดโรดโชว์ เรื่องสนามแข่งขันทุกสนาม ทั่วกรุงเทพฯ แต่เรื่องอื่นๆเช่น การขายบัตร และแปลนที่นั่ง นั้นต้องรออีกที” ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
ด้าน “เจ๊มล” นฤมล ศิริวัฒน์ ประธาน กมธ.กีฬา วุฒิสภา ได้เผยต่อที่ประชุมถึงเรื่องนี้ หลังได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจความคืบหน้าของการก่อสร้างว่า “ส่วนตัวก็เห็นด้วยหากจะต้องใช้สนามอินดอร์ สเตเดียม (หัวหมาก) แทน แต่ใจจริงอยากจะให้สนาม แบงค็อก ฟุตซอล อารีนา (หนองจอก) เสร็จทันกำหนดเพื่อเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ เพราะการที่สมาคมฟุตบอลฯใช้งบ 1,239 ล้านบาท ในการก่อสร้างนั้น ถือว่าเป็นเงินที่เยอะมาก หากเทียบกับเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่อยู่ในขณะนี้ และถ้าเสร็จไม่ทันกำหนดทางสมาคมฟุตบอลฯควรจะต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุด รวมถึงทุกฝ่ายควรจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน”