สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เตรียมแผนสำรองหากสนามแบงค็อก ฟุตซอล อารีนา ที่จะเป็นสังเวียนฟาดแข้งศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เสร็จไม่ทันกำหนด "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เผย ขอเลื่อนวันส่งมอบต่อฟีฟา เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีการขึ้นโครงหลังคาสนามแต่อย่างใด รับทราบเรื่องตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว
หลังจากที่หลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องสนามแบงค็อก ฟุตซอล อารีนา (หนองจอก) ที่จะใช้เป็นสังเวียนหลักในการฟาดแข้งการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ในระหว่างวันที่ 1-18 พ.ย. นี้ ว่าจะแล้วเสร็จไม่ทันกำหนด
ล่าสุด "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เผยถึงความคืบหน้าล่าสุดว่า ตอนนี้ดำเนินการแล้วเสร็จประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ "ตอนนี้ความคืบหน้าอยู่ที่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางคณะกรรมการสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ได้เดินทางมาตรวจพร้อมคอมเมนท์ว่ากลัวจะเสร็จไม่ทัน เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีการขึ้นโครงหลังคาเลย ทำให้กระทบต่อการทำงานในส่วนอื่นๆ เราจึงได้ขอเลื่อนการส่งมอบสนามให้กับฟีฟาจากเดิม 30 ก.ย. เป็นวันที่ 15 ต.ค. แทน"
"ซึ่งถ้าหากเสร็จไม่ทันจริงๆเราก็ได้มีแผนสำรองไว้แล้วคือใช้สนามอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก สนามอาคารนิมิบุตร และสนามที่โคราช แทน ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ จะมีก็แต่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยเท่านั้น พร้อมกันนี้เราจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะใช้สนามแห่งใดในพิธีเปิด-ปิดต่อไป ซึ่งตอนนี้ทางกทม.ก็ได้เร่งให้ผู้รับเหมาเร่งทำงานตลอดทั้ง 24 ช.ม. โดยแบ่งเป็น 3 กะ แต่ทั้งนี้ตนเกรงว่าสภาพฝนตกก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้างได้" พ่อบ้านบอลไทยกล่าว
พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าว MGR Sport จึงสอบถามไปว่าทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยทราบเรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าประเทศไทยจะได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ประจำปี 2012 โดย "บิ๊กเปี๊ยก" ได้ตอบกลับมาว่า น่าจะประมาณ 2 ปีที่แล้ว