“จุตินันท์” แนะทหารเล่นพาราลิมปิก

นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิกประเทศไทย ออกโรงเสนอแนะให้กองทัพ ส่งทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ จนร่างกายพิการ เข้าร่วมฝึกเพื่อแข่งขันกีฬาคนพิการทัวร์นาเมนต์ต่างๆ เชื่อว่า ทหารเหล่านั้นมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงพร้อมอยู่แล้ว พร้อมฝากคำถามถึงผู้เกี่ยวข้องว่าเหตุใดศูนย์ฝึกถึงยังไม่สามารถสร้างได้ และทำไมเงินรางวัลจากเหรียญที่นักกีฬาพาราลิมปิกได้ถึงน้อยกว่าโอลิมปิก

หลังจากที่ทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้า 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง จากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 14 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ผ่านมา

ล่าสุด นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิกประเทศไทย ได้เผยต่อผู้สื่อข่าว MGR Sport ว่า “ผมสนับสนุนนักกีฬาคนพิการมากว่า 8 ปี และพร้อมที่จะสนับสนุนต่อเรื่อยๆ แต่ที่สำคัญ อยากจะให้ภาครัฐเข้ามาช่วยในเรื่องศูนย์ฝึก เพราะเชื่อว่าถ้าหากมีการก่อสร้างแล้วเสร็จจะส่งผลดีอย่างมาก เราจะเป็นผู้นำคนพิการในประชาคมอาเซียนแน่นอน เนื่องจากเราจะสามารถจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการระดับอินเตอร์ได้ เมื่อมีนักกีฬาต่างชาติเดินทางเข้ามา ก็จะมีรายได้ตามเข้ามาด้วย เป็นการได้ประโยชน์ทุกฝ่าย”

พร้อมกันนี้ นายจุตินันท์ ได้เสนอแนะให้กองทัพส่งทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ จนร่างกายพิการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาคนพิการ “ที่จริงผมอยากนำรั้วของชาติ เหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บจนร่างกายพิการ จากการปฏิบัติหน้าที่ มาเป็นส่วนหนึ่งของทัพนักกีฬาด้วย เนื่องจากทหารเหล่านั้นมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและมีแรงใจที่ดีอยู่แล้ว ขาดแต่การผลักดันของกองทัพหรือผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น และเป็นการรับใช้ชาติในอีกรูปแบบแค่เปลี่ยนจากทหารมาเป็นนักกีฬา แต่สร้างความภูมิใจให้ประเทศเหมือนกัน”

ประธานมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิกประเทศไทย ยังทิ้งท้ายโดยฝากคำถามถึงผู้เกี่ยวข้องอีกว่า “ผมอยากจะฝากคำถามถึงผู้เกี่ยวข้องด้วยกัน 2 ข้อ คือ 1.เหตุใดศูนย์ฝึกถึงยังไม่สามารถสร้างได้ และ 2.ทำไมเงินรางวัลจากเหรียญที่นักกีฬาพาราลิมปิกได้ถึงน้อยกว่านักกีฬาโอลิมปิก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องการคำอธิบายไม่ใช่อ้างว่าเพราะผ่านการควอลิฟายได้มากกว่าและโอกาสได้เหรียญเยอะกว่า และอยากให้ช่วยเข้ามาสนับสนุนตั้งแต่ตอนต้น ไม่ใช่เพิ่งจะมาสนับสนุนกันตอนปลาย เพราะฉะนั้นอย่าถามว่าเป้าหมายครั้งต่อไปจะได้กี่เหรียญ เพราะถ้ายังไม่เข้ามาสนับสนุนตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์”