ปลดล็อกสแลมแรก “เมอร์เรย์” ซิวยูเอสฯ

เอเยนซี-แอนดี เมอร์เรย์ นักหวดลูกสักหลาดชาวสกอตติช ปลดล็อกคว้าแชมป์แกรนด์สแลมแรกในชีวิตมาครองได้สำเร็จ หลังฮึดเอาชนะ โนวัค ยอโควิช แชมป์เก่าจากเซอร์เบีย 3-2 เซต ศึกเทนนิสยูเอส โอเพน ประจำปี 2012 เมื่อวันอังคารที่ 11 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา

เคยเข้าชิงแกรนด์สแลมมาแล้ว 4 ครั้งก่อนหน้านี้ แต่สุดท้าย แอนดี เมอร์เรย์ ลงเอยด้วยการปราชัยให้ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในยูเอส โอเพน ปี 2008 แถมยังเจอ “เฟด-เอ็กซ์” ย้ำแผลศึกออสเตรเลียน โอเพน ปี 2010 ต่อด้วย วิมเบิลดัน ปี 2012 เช่นเดียวกับที่พ่าย โนวัค ยอโควิช ในออสเตรเลียน โอเพน เมื่อปี 2011

อย่างไรก็ตาม ในรอบชิงยูเอส โอเพน 2012 ณ สังเวียน ฟลัชชิง เมโดวส์ มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา เมอร์เรย์ พิชิตชัยเหนือ ยอโควิช มือ 2 ของโลกคนปัจจุบัน 3-2 เซต 7-6 (12/10), 7-5, 2-6, 3-6, 6-2 ประกาศศักดาครองแชมป์แกรนด์สแลมสมัยแรก ทั้งยังเป็นนักหวดจากสหราชอาณาจักรที่คว้าแชมป์เมเจอร์ได้ครั้งแรกในรอบ 76 ปี ต่อจาก เฟด เพอร์รี ซึ่งเคยเป็นแชมป์รายการนี้เมื่อปี 1936

ภายหลังการแข่งขัน เมอร์เรย์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ปลดเปลื้องได้เสียที นี่อาจเป็นคำพูดดีที่สุดที่ผมจะอธิบายความรู้สึกตัวเองได้ เพราะผมได้แต่คิดว่าการเป็นแชมป์แกรนด์สแลมจะเกิดขึ้นเมื่อใด วันนี้ผมมีความสุขยิ่งที่ผ่านมันไปได้ ก่อนแข่งหลายครั้งที่ผ่านมา ผมมักมีปัญหากับตัวเองก่อนเดินลงสนาม คิดว่า จะจัดการให้ผ่านไปได้อย่างไร ณ ตอนนี้ผมสามารถทิ้งสิ่งเหล่านั้นไว้เบื้องหลัง หวังว่าจะสามารถครองแชมป์แกรนด์สแลมได้มากยิ่งๆ ขึ้น”

นอกจากนี้ สตาร์วัย 25 ปี ยังไม่ลืมให้เครดิต “โนเล” ที่ฮึดไล่มาจนต้องเล่นกันถึง 5 เซต “โนวัค แข็งแกร่งมาก เขาสู้จนหยดสุดท้ายในทุกๆ แมตช์ ผมไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรให้ผ่านไปได้ แต่ท้ายที่สุดมันก็สำเร็จ”

ขณะที่ ยอโควิช แสดงความมีน้ำใจนักกีฬายกย่องแชมเปียนคนใหม่ว่า “แอนดี (เมอร์เรย์) คู่ควรกับการเป็นแชมป์แกรนด์สแลม ยูเอส โอเพน ในปีนี้มากกว่าใคร ส่วนผมความพ่ายแพ้เป็นสิ่งที่แย่เสมอ ผมผิดหวังที่ปราชัยในแมตช์นี้ แต่ผมรู้แก่ใจว่าได้ใส่ทุกอย่างลงไปแล้ว พยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อกลับมาให้ได้”

จากการเถลิงแชมป์หนนี้ทำให้ เมอร์เรย์ เก็บคะแนนในเอทีพี ทัวร์ เพิ่มเป็น 8,570 แต้ม แซงหน้า ราฟาเอล นาดาล หวดกล้ามโตจากสเปนขึ้นมารั้งอันดับ 3 โลก ไล่หลัง เฟเดอเรอร์ มือ 1 โลกคนปัจจุบันชาวสวิส 3,235 แต้ม ห่างจาก ยอโควิช แค่ 1,900 คะแนน

ทั้งนี้ จากโมเมนตัมที่กำลังเข้าทาง นับตั้งแต่เลือกให้ อีวาน เลนเดิล อดีตมือ 1 ของโลกชาวเช็กสัญชาติอเมริกัน เข้ามาทำหน้าที่โค้ชแทนมารดา (จูดี้) เมื่อช่วงต้นปี เมอร์เรย์ สามารถเข้าถึงรอบชิง 3 รายการใหญ่ในปี 2012 ประสบความสำเร็จซิวเหรียญทองกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงลอนดอน เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ต่อยอดด้วยสแลมแรกในชีวิต ดูเหมือนสัญชาตญาณการเป็นมือ 1 โลกค่อยๆ ซึมเข้าไปในกาย เมอร์เรย์ เข้าทุกขณะ

โดย เมอร์เรย์ ซึ่งเป็นเพียงนักหวดคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ต่อจาก เลนเดิล ที่เข้าชิงแกรนด์สแลม 4 หนและผิดหวังทั้งหมด ก่อนปลดล็อกสำเร็จ ให้เครดิตโค้ชดีกรีแชมป์เมเจอร์ 8 สมัย เป็นการทิ้งท้ายว่า “ก่อนหน้านี้ ที่ผมปราชัยในรอบชิงแกรนด์สแลม แม่ดูผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้ทุกคนมีความสุขไปกับผม ซึ่งผมคิดว่าตัวเองได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากเลนเดิล ทีละน้อย หลังจบแมตช์โค้ชวัย 52 ปี เดินเข้ามาให้ห้องแต่งตัวพร้อมกับพูดว่า ผมภูมิใจในตัวคุณจริงๆ คุณทำได้ดีมาก และเราก็สวมกอดดัน การได้ทำงานกับ เลนเดิล สนุกมาก ผมรับฟังเขาทุกอย่าง คิดว่า เขามีส่วนสำคัญทำให้ผมชนะแกรนด์สแลมนี้ หวังว่าเราจะทำงานร่วมกันได้ดีต่อไป”