xs
xsm
sm
md
lg

“ลิเดีย โค”โปรน็อคเอาท์ เรื่องเรียนหนูต้องมาก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เก่งและต้องไม่ทิ้งเรื่องเรียน
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ลิเดีย โค โปรสาวน้อยลูกครึ่งชาวนิวซีแลนด์ เชื้อสายเกาหลีสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการกอล์ฟหญิง แอลพีจีเอ ทัวร์ ไปเป็นที่เรียบร้อยหลังสวมบทม้ามืดซิวแชมป์ “แคนาเดียน วีเมนส์ โอเพน 2012” ที่ประเทศแคนาดา มาครองแบบเหนือความคาดหมาย กลายเป็นที่รู้จักและถูกจับตามองจากบรรดาก้านเหล็กสาวรุ่นพี่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงเป็นที่น่าสนใจว่าเธอเองจะก้านขึ้นมาเทิร์นโปรอาชีพเลยหรือไม่

ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คหรืออาศัยจังหวะที่นักกอล์ฟมือดีรายอื่นๆ ฝีมือตกจึงหยิบถ้วยหูใบโตมาครองได้ แต่ตำแหน่งแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ ใบแรกของสาววัย 15 ปี แลกมาด้วยความสามารถอย่างแท้จริง โดยก่อนออกรอบวันสุดท้ายเจ้าตัวมีคะแนนนำอยู่เพียง 1 สโตรก และด้วยประสบการณ์ที่น้อยนิดบวกกับความกดดันมหาศาลในการตีวันที่ 4 เพื่อแชมป์ โค โชว์ความเหนือชั้นทำ 7 เบอร์ดี ในหลุม 10-13 และ 15 เสีย 2 โบกี เก็บเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์ เข้าป้ายรับแชมป์ที่สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 นำอันดับ 2 อย่าง ปาร์ค อินบี จากแดนกิมจิ ถึง 2 สโตรก

นอกจากสถิติเป็นแชมป์อายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง 15 ปี 4 เดือน กับอีก 2 วัน ลิเดีย ทำลายสถิติเก่าของ เลกซี ธอมป์สัน โปรสาวชาวมะกันที่เคยทำไว้ในรายการ “นาวิสตา แอลพีจีเอ คลาสสิก” เมื่อเดือนกันยายนปี 2011 ด้วยวัย 16 ปี 8 เดือน กับ 8 วันลงอย่างราบคาบ

และหากลองเช็กสูจิบัตรของสวิงสาวแดนกีวี ที่เกิดในวันที่ 24 เมษายน 1997 เป็น 11 วันหลังจากที่ “พญาเสือ” ไทเกอร์ วูดส์ ซูเปอร์สตาร์กอล์ฟจากสหรัฐฯ ผงาดคว้าแชมป์เมเจอร์แรกในรายการ “เดอะ มาสเตอร์” ก่อนจะเป็นนักกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้ ซึ่งต้องถือว่ามีเค้าโครงจะเป็นสุดยอดก้านเหล็กสาวในอนาคตได้ไม่ยาก โดย “กอล์ฟชาแนล” สื่อกอล์ฟชื่อดังได้ตั้งชื่อเล่นสุดน่ารักให้หลังจบทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวว่า ลิเดีย โค “โปรน็อคเอาท์” เนื่องมากจากชื่อหลังของโปรลูกครึ่งที่สะกดด้วย เค-โอ (KO) ดันไปพ้องกับคำว่า “เอโค-น็อคเอาท์” (Knockout ) ได้อย่างลงตัว

นอกจากคำถามทีเล่นทีจริงว่าหากได้รับเงินรางวัลกว่า 300,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9.6 ล้านบาท) สำหรับตำแหน่งแชมป์ เธอจะนำไปทำอะไร? เธอตอบแบบน่ารักสมวัยเด็กว่าต้องการนำส่วนหนึ่งบริจาคให้แก่ผู้ยากไร้ และส่วนที่เหลือนำไปซื้อลูกสุนัขมาเลี้ยง ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากได้มานาน

แน่นอนว่า ต้องมีคำถามแบบจริงจังที่ตามมาหลังมาติดๆ ว่า โค มีแผนจะเทิร์นโปรขึ้นมาเล่นอาชีพเลยหรือไม่ ทว่าเจ้าตัวตอบแบบไม่ต้องคิดนาน “หลังจากเป็นแชมป์นี้อาชีพและอนาคตของฉันจะยังไม่เปลี่ยนไปแน่นอน” นักกอล์ฟวัย 15 ปี ยังคงต้องการแข่งอยู่ในระดับอเมเจอร์ เพราะยังมีหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้จากเวทีระดับนี้ แต่ก็ไม่ปฏิเสธโอกาสการเทิร์นโปรในอนาคตเสียทีเดียว

อีกประเด็นสำคัญของ ลิเดีย เห็นจะเกี่ยวกับเรื่องการเรียนเป็นหลัก สาวส่วนใหญ่ในวัยย่าง 16 ปี ต่างอยู่ในช่วงที่ต้องศึกษาในระดับไฮสคูลหรือที่เข้าใจในภาษาไทยคือชั้ยมัธยมศึกษาเท่านั้น โดยนอกจากลีลาวงสวิงในสนามกอล์ฟ ลิเดีย มีสถานะเป็นนักเรียนที่ไพน์เฮิร์ส สคูล โรงเรียนดังแห่งเมืองโอกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ทว่าด้วยโปรแกรมและการเดินทางตะเวนแข่งในปี 2012 ทำให้เธอต้องขอขาดเรียนไปหลายครั้ง

หลังจากนี้ “โปรน็อคเอาท์” ขอกลับไปมุ่งมั่นศึกษาต่อให้จบไฮสคูลก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นทำตามความฝันสอบเข้ามหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สถานศึกษาดังแห่งเมืองลุงแซมให้ได้ เพราะอย่างน้อยหากเบาใจเรื่องการเรียนและย้ายมาตั้งรกรากในแถบยุโรปการเทิร์นโปรขึ้นมาตระเวนแข่งในปฏิทินทัวร์ ของ แอลพีจีเอ คงเป็นเรื่องง่ายขึ้นแน่นอน

ขณะเดียวแม้ ลิเดีย จะยังไม่ตัดสินใจก้าวขึ้นมาเล่นระดับอาชีพอย่างที่หลายคนอยากให้เป็น แต่ด้วยผลงานที่ทำไว้อย่างยิ่งใหญ่ทำให้ยังคงเป็นที่พูดถึงในหมู่ก้านเหล็กระดับท็อปของโลก สเตซี ลูอิส รุ่นพี่ชาวมะกันที่ออกรอบก๊วนเดียวกันในรอบสุดท้าย ทวีต ผ่าน ทวิตเตอร์สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังว่า “จากที่ได้เห็นลีลาของเธอบอกเลยว่า โค เป็นโปรดาวรุ่งที่มีวงสวิงน่าประทับใจแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน”

ส่วน มิเชล วี โปรสาวสวยลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกัน มีความสัมพันธ์อันดีกันอยู่แล้ว เคยทวีตข้อความตอบโต้กับรุ่นน้องจากแดนกีวี และ เลกซี ธอมป์สัน ผ่านโลกไซเบอร์ถึงโอกาสในการเทิร์นโปรขึ้นมาฉายแววในระดับอาชีพ แต่สิ่งที่น่าสนใจกลับไม่ใช่เนื้อหาในข้อความครั้งนั้น หากแต่เป็นความเปิ่นของ “สาววี” ที่ดันเรียกชื่อ “โปรน็อคเอาท์” ผิดชนิดออกสื่อจาก โค (KO) เป็น โคห์ (KOH) ไปซะอย่างนั้น

เรื่อง ปภังกรณ์ นิลวรกุล
ภาพประวัติศาสตร์ของ ลิเดีย
สเตซี ลูอิส ร่วมแสดงความยินดี
ไบรอัน อเล็กซานเดอร์ แคดดีคู่ใจ
กอดกับคุณแม่ หลังจบ 18 หลุม
กำลังโหลดความคิดเห็น