คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”
ผมมีรุ่นน้องอยู่คนหนึ่งชื่อ อรินทพล นุชเสถียร เป็นโปรด้วย ที่ผ่านมาเขาช่วยผมทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล ถ่ายทำรายการทีวี กิจกรรมต่างๆ ที่เราเป็นผู้จัด รวมถึงการเรียบเรียงบทความในแต่ละสัปดาห์ เมื่อไม่นานมานี้โปรอรินทพล ขอลาไปเรียนปริญญาโทต่อที่อังกฤษ ทำให้ผมเสมือนขาดแขนขวาไปเลยทีเดียว โชคดีที่เทคโนโลยีในยุคสมัยปัจจุบันทำให้เราสื่อสารกันได้ง่าย ด้วย VDO Callเขาจึงยังมีส่วนร่วมในการทำงานบางส่วนผ่านอินเตอร์เน็ตแทน ล่าสุดเมื่อถามไปว่า "อยู่ที่โน่นแล้วเรื่องกอล์ฟได้เล่นบ้างไหม?” น้องเขาเขียนกลับมาเป็นบทความเลยครับ สัปดาห์นี้ผมขออนุญาติหยิบยกบทความในใจของโปร อรินทพล นุชเสถียร มาฝากกันนะครับ
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่หลงรักกอล์ฟเข้าอย่างหมดหัวใจ ประหนึ่งว่าเป็นสิ่งเสพย์ติดชนิดหนึ่งที่ขาดไม่ได้ มีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกรอบ ได้ดูถ่ายทอดการแข่งขันรายการสำคัญ หรือได้ฟังคนพูดเกี่ยวกับแวดวงกีฬากอล์ฟ ผมบอกได้เลยว่าคุณเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อกอล์ฟเช่นกัน แต่จะทำอย่างไรถ้าวันนึงคุณไม่สามารถที่จะออกไปตีกอล์ฟได้ ไม่สามารถที่จะดูถ่ายทอดสดทางทีวี และอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่ไม่ได้ชอบและไม่ได้อยากพูดคุยเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟเลย คำตอบที่ผมได้รับคือ "ลงแดง” แน่นอนครับ
ลองแก้ปัญาหาที่ละข้อ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เราไม่ได้ตีกอล์ฟ ไม่ว่าจะเป็นการไม่มีเวลา งานยุ่ง หรือบาดเจ็บต้องพักรักษาตัว อาการตะขิดตะขวงในใจเวลาที่เราไม่ได้ตีกอล์ฟเป็นระยะเวลานานจะเป็นตัวกระตุ้นสิ่งแรกที่ทำให้เราอยากจะเดินไปหยิบจับไม้กอล์ฟ กระตุ้นความรู้สึกที่อยากออกรอบเดินคุยกับเพื่อนเหมือนในวันวาน ถ้าเกิดอาการอย่างนี้แนะนำว่าให้ทำเท่าที่สามารถจะทำได้ครับเช่น อยู่หน้ากระจกเช็ควงสวิง ด้านหน้า ด้านข้าง หรือเล่นฟิตเนสเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ไปจนถึงการพัฒนาความยืดหยุ่นของร่างกาย
ส่วนในปัญหาข้อต่อมาที่ว่า การที่เราไม่ได้ดูกอล์ฟเลย ไม่ว่าจะถ่ายทอดสดหรือแม้กระทั่งชมย้อนหลัง อาจจะสร้างอาการหงุดหงิดใจมากกว่าปัญหาในข้อแรกก็เป็นได้ เพราะมีนักกอล์ฟจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่ชอบเสพกอล์ฟทางสายตามากกว่าการเล่นด้วยตัวเอง เพราะว่าชอบที่จะศึกษาจุดเด่นในวงสวิงของบรรดาโปรชื่อดัง หรือชอบจดจำวิธีการเล่นในลักษณะต่างๆ เพื่อไปปรับใช้ หรือเพื่อมีเรื่องไปคุยกับสังคมกอล์ฟของเขา อาการนี้เปรียบได้กับคนที่ติดฟุตบอล แม้จะเล่นไม่เก่ง แต่เรื่องดูไม่เคยพลาดสักนัด และแน่นอนว่าอารมณ์ตอนดูสด กับดูหลังจากรู้ผลไปแล้วนั้นก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย วิธีบรรเทาอาการก็คือติดหนังสือกอล์ฟมาอ่านจากที่บ้านหรือแวะซื้อระหว่างทางมาที่ออฟฟิศ เปิดยูทูปดูโชว์ทริคช็อต หรือแข่งตีไกล ก็คงช่วยลดความหงุดหงิดใจลงได้บ้าง
มาถึงปัญหาในข้อสุดท้าย ข้อนี้เกิดจากปัจจัยภายนอกที่ต้องแก้ด้วยปัจจัยภายใน หมายถึงการที่เราต้องอยู่ในที่ๆไม่ใช่ของเรา พูดกันคนละภาษา เป็นสังคมที่ไม่คุ้นเคย สิ่งเหล่านี้มักจะค่อยๆ สร้างความอึดอัดให้เราขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ในเมื่อเราไปบังคับคนอื่นไม่ได้ เราก็จงทำตัวเราให้มีความสุขแทน ซึ่งทำได้ง่ายๆ เช่น ดูไฮไลท์การแข่งขันเมื่อคืนจากมือถือ เล่นเกมกอล์ฟผ่อนคลายผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ หรือเปิดรายการ "TeeOff " ดูทางทีวีก็ได้
เป็นเรื่องที่น่าอิจฉายิ่งนักสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในข่ายนี้เลย แต่ถ้ามีใครที่เข้าข่าย ก็หวังว่าคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ จะสามารถบำบัดรักษาเยียวยาให้อาการทุเลาลงได้บ้างไม่มากก็น้อย...
น่าสงสารจริงๆ ท่าทางจะเป็นเอาหนัก ได้ข่าวว่าวิวจากห้องเรียนมองเห็นสนามกอล์ฟด้วยสิ
ผมมีรุ่นน้องอยู่คนหนึ่งชื่อ อรินทพล นุชเสถียร เป็นโปรด้วย ที่ผ่านมาเขาช่วยผมทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล ถ่ายทำรายการทีวี กิจกรรมต่างๆ ที่เราเป็นผู้จัด รวมถึงการเรียบเรียงบทความในแต่ละสัปดาห์ เมื่อไม่นานมานี้โปรอรินทพล ขอลาไปเรียนปริญญาโทต่อที่อังกฤษ ทำให้ผมเสมือนขาดแขนขวาไปเลยทีเดียว โชคดีที่เทคโนโลยีในยุคสมัยปัจจุบันทำให้เราสื่อสารกันได้ง่าย ด้วย VDO Callเขาจึงยังมีส่วนร่วมในการทำงานบางส่วนผ่านอินเตอร์เน็ตแทน ล่าสุดเมื่อถามไปว่า "อยู่ที่โน่นแล้วเรื่องกอล์ฟได้เล่นบ้างไหม?” น้องเขาเขียนกลับมาเป็นบทความเลยครับ สัปดาห์นี้ผมขออนุญาติหยิบยกบทความในใจของโปร อรินทพล นุชเสถียร มาฝากกันนะครับ
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่หลงรักกอล์ฟเข้าอย่างหมดหัวใจ ประหนึ่งว่าเป็นสิ่งเสพย์ติดชนิดหนึ่งที่ขาดไม่ได้ มีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกรอบ ได้ดูถ่ายทอดการแข่งขันรายการสำคัญ หรือได้ฟังคนพูดเกี่ยวกับแวดวงกีฬากอล์ฟ ผมบอกได้เลยว่าคุณเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อกอล์ฟเช่นกัน แต่จะทำอย่างไรถ้าวันนึงคุณไม่สามารถที่จะออกไปตีกอล์ฟได้ ไม่สามารถที่จะดูถ่ายทอดสดทางทีวี และอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่ไม่ได้ชอบและไม่ได้อยากพูดคุยเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟเลย คำตอบที่ผมได้รับคือ "ลงแดง” แน่นอนครับ
ลองแก้ปัญาหาที่ละข้อ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เราไม่ได้ตีกอล์ฟ ไม่ว่าจะเป็นการไม่มีเวลา งานยุ่ง หรือบาดเจ็บต้องพักรักษาตัว อาการตะขิดตะขวงในใจเวลาที่เราไม่ได้ตีกอล์ฟเป็นระยะเวลานานจะเป็นตัวกระตุ้นสิ่งแรกที่ทำให้เราอยากจะเดินไปหยิบจับไม้กอล์ฟ กระตุ้นความรู้สึกที่อยากออกรอบเดินคุยกับเพื่อนเหมือนในวันวาน ถ้าเกิดอาการอย่างนี้แนะนำว่าให้ทำเท่าที่สามารถจะทำได้ครับเช่น อยู่หน้ากระจกเช็ควงสวิง ด้านหน้า ด้านข้าง หรือเล่นฟิตเนสเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ไปจนถึงการพัฒนาความยืดหยุ่นของร่างกาย
ส่วนในปัญหาข้อต่อมาที่ว่า การที่เราไม่ได้ดูกอล์ฟเลย ไม่ว่าจะถ่ายทอดสดหรือแม้กระทั่งชมย้อนหลัง อาจจะสร้างอาการหงุดหงิดใจมากกว่าปัญหาในข้อแรกก็เป็นได้ เพราะมีนักกอล์ฟจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่ชอบเสพกอล์ฟทางสายตามากกว่าการเล่นด้วยตัวเอง เพราะว่าชอบที่จะศึกษาจุดเด่นในวงสวิงของบรรดาโปรชื่อดัง หรือชอบจดจำวิธีการเล่นในลักษณะต่างๆ เพื่อไปปรับใช้ หรือเพื่อมีเรื่องไปคุยกับสังคมกอล์ฟของเขา อาการนี้เปรียบได้กับคนที่ติดฟุตบอล แม้จะเล่นไม่เก่ง แต่เรื่องดูไม่เคยพลาดสักนัด และแน่นอนว่าอารมณ์ตอนดูสด กับดูหลังจากรู้ผลไปแล้วนั้นก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย วิธีบรรเทาอาการก็คือติดหนังสือกอล์ฟมาอ่านจากที่บ้านหรือแวะซื้อระหว่างทางมาที่ออฟฟิศ เปิดยูทูปดูโชว์ทริคช็อต หรือแข่งตีไกล ก็คงช่วยลดความหงุดหงิดใจลงได้บ้าง
มาถึงปัญหาในข้อสุดท้าย ข้อนี้เกิดจากปัจจัยภายนอกที่ต้องแก้ด้วยปัจจัยภายใน หมายถึงการที่เราต้องอยู่ในที่ๆไม่ใช่ของเรา พูดกันคนละภาษา เป็นสังคมที่ไม่คุ้นเคย สิ่งเหล่านี้มักจะค่อยๆ สร้างความอึดอัดให้เราขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ในเมื่อเราไปบังคับคนอื่นไม่ได้ เราก็จงทำตัวเราให้มีความสุขแทน ซึ่งทำได้ง่ายๆ เช่น ดูไฮไลท์การแข่งขันเมื่อคืนจากมือถือ เล่นเกมกอล์ฟผ่อนคลายผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ หรือเปิดรายการ "TeeOff " ดูทางทีวีก็ได้
เป็นเรื่องที่น่าอิจฉายิ่งนักสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในข่ายนี้เลย แต่ถ้ามีใครที่เข้าข่าย ก็หวังว่าคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ จะสามารถบำบัดรักษาเยียวยาให้อาการทุเลาลงได้บ้างไม่มากก็น้อย...
น่าสงสารจริงๆ ท่าทางจะเป็นเอาหนัก ได้ข่าวว่าวิวจากห้องเรียนมองเห็นสนามกอล์ฟด้วยสิ