คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”
กว่าจะมาเป็นกอล์ฟที่เราเล่นอย่างทุกวันนี้ได้ ในอดีตนั้นประกอบไปด้วยองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่าง ที่เป็นที่มาของกีฬาใช้ไม้หวดลูก ตีไปตามทางที่กำหนด มีบ่อน้ำบ่อทรายเป็นอุปสรรค และจบด้วยการทำให้ลูกไปหยุดอยู่ในหลุม ซึ่งปัจจุบันก็มีการพัฒนาการออกแบบสิ่งปลูกสร้างที่เรียกว่า “สนามกอล์ฟ” ให้มีความท้าทายมากยิ่งขึ้นตามเทคโนโลยีของอุปกรณ์และขีดความสามารถของผู้เล่น วันนี้เรามาดูจุดกำเนิดกีฬาที่เรารักตามแบบฉบับของประเทศเยอรมนีและประเทศสกอตแลนด์กันครับ
ในอดีตมีหลายประเทศที่อ้างว่า ตนเป็นต้นกำเนิดกีฬากอล์ฟ เช่น ประเทศเยอรมนีในศตวรรษที่ 14 เจ้าของฝูงแกะ ซึ่งจ่ายภาษีให้กับขุนนางเจ้าของที่ดิน และได้รับสิทธิ์ใช้ผืนที่ดินเลี้ยงแกะ โดยขุนนางให้ใช้ไม้ที่ปลายตะขอสำหรับเกี่ยวคอแกะ ตีก้อนหินลูกกลมๆ ตามจำนวนครั้งของจำนวนแกะที่เลี้ยงไว้ โดยจะได้สิทธิใช้ผืนดินเลี้ยงแกะขนาดเท่ากับเท่ากับความกว้างยาวตามระยะที่เจ้าของฝูงแกะตีออกไปได้ แต่ก็มีอีกทฤษฎีหนึ่งของจุดเริ่มต้นกีฬากอล์ฟ มาจากชาวประมงชาวสกอตแลนด์ ที่กลับจากการหาปลา เวลาเดินผ่านทุ่งหญ้าก็เอากิ่งไม้เดินหวดลูกหินไปตามทาง และเมื่อหวดไปครั้งหนึ่งก็ลองหวดต่อไปเรื่อยๆ ดูว่าจะตีไปได้ไกลกว่าลูกแรกหรือไม่ เมื่อลูกหินหล่นลงไปในบ่อ หรือแอ่งดินที่แกะใช้เป็นที่หลบภัยธรรมชาติ ชาวประมงก็ต้องใช้ความสามารถที่จะตีให้ลูกหินลอยออกมาได้จนกว่าจะเดินถึงบ้าน บ่อนั้นก็ได้พัฒนามาเป็นบังเกอร์ทราย และเมื่อลูกกอล์ฟตกลงไปในโพรงที่กระต่ายขุดไว้ ก็เท่ากับเป็นการค้นคิดวิธีการเล่นกอล์ฟขึ้นมาในตัวเองว่าเกมส์จะจบลงเมื่อลูกลงหลุม!
แต่ในระยะเวลาหกร้อยปีที่ผ่านมา สกอตแลนด์ ซึ่งได้อ้างอย่างหนักแน่นตามหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนว่าเป็นประเทศต้นกำเนิดกีฬากอล์ฟ เพราะในกลางศตวรรษที่ 15 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ กีฬากอล์ฟเป็นที่นิยมเล่นกันอย่างมากในสมัยพระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งราชวงศ์สกอต แต่ทางสกอตแลนด์ก็ได้มีบันทึกที่กล่าวไว้ว่า ในช่วงที่กำลังทำศึกต่อสู้กับอังกฤษในสมัยนั้น ทางรัฐสภาสกอตได้มีการให้ยกเลิกการเล่นกอล์ฟไปหลายปี เนื่องว่าจากพลธนู และนายทหารไม่ไปซ้อมยิงธนู แต่ได้หันไปติดการเล่นกอล์ฟ แต่อีก 40 ปีต่อมา ก็ได้มีการสงบศึกกับอังกฤษ และเป็นพระเจ้าเจมส์ที่ 4 ที่ได้ยกเลิกกฎหมายห้ามการเล่นกอล์ฟตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้กีฬากอล์ฟก็ถือได้ว่าเป็นกีฬาที่เล่นอย่างแพร่มากๆ หลายในฝั่งตะวันตกของประเทศสกอตแลนด์
ในกลางศตวรรษ ที่ 18 กลุ่มนักกอล์ฟชายในสกอตแลนด์ได้ก่อตั้งสมาคมกอล์ฟขึ้น โดยกำหนดกฎข้อบังคับที่ใช้ในการเล่นกอล์ฟ ต่อมาก็ได้ก่อตั้งสโมสร The Royal and Ancient Golf of Saint Andrews โดยใช้ชื่อย่อว่า (R&A) ซึ่งเป็นสมาคมกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุด เพื่อกำหนดและแก้ไขกฎข้อบังคับรวมไปถึงมารยาทสำหรับกีฬากอล์ฟอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้น ในศตวรรษที่ 20 สมาคมกอล์ฟแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Golf Association หรือ USGA) ได้เข้ามาร่วมให้คำปรึกษาแก้ไขเพิ่มเติมกฎข้อบังคับและมารยาทสำหรับกีฬากอล์ฟ ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทำให้กีฬากอล์ฟเป็นที่นิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
กว่าจะมาเป็นกอล์ฟที่เราเล่นอย่างทุกวันนี้ได้ ในอดีตนั้นประกอบไปด้วยองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่าง ที่เป็นที่มาของกีฬาใช้ไม้หวดลูก ตีไปตามทางที่กำหนด มีบ่อน้ำบ่อทรายเป็นอุปสรรค และจบด้วยการทำให้ลูกไปหยุดอยู่ในหลุม ซึ่งปัจจุบันก็มีการพัฒนาการออกแบบสิ่งปลูกสร้างที่เรียกว่า “สนามกอล์ฟ” ให้มีความท้าทายมากยิ่งขึ้นตามเทคโนโลยีของอุปกรณ์และขีดความสามารถของผู้เล่น วันนี้เรามาดูจุดกำเนิดกีฬาที่เรารักตามแบบฉบับของประเทศเยอรมนีและประเทศสกอตแลนด์กันครับ
ในอดีตมีหลายประเทศที่อ้างว่า ตนเป็นต้นกำเนิดกีฬากอล์ฟ เช่น ประเทศเยอรมนีในศตวรรษที่ 14 เจ้าของฝูงแกะ ซึ่งจ่ายภาษีให้กับขุนนางเจ้าของที่ดิน และได้รับสิทธิ์ใช้ผืนที่ดินเลี้ยงแกะ โดยขุนนางให้ใช้ไม้ที่ปลายตะขอสำหรับเกี่ยวคอแกะ ตีก้อนหินลูกกลมๆ ตามจำนวนครั้งของจำนวนแกะที่เลี้ยงไว้ โดยจะได้สิทธิใช้ผืนดินเลี้ยงแกะขนาดเท่ากับเท่ากับความกว้างยาวตามระยะที่เจ้าของฝูงแกะตีออกไปได้ แต่ก็มีอีกทฤษฎีหนึ่งของจุดเริ่มต้นกีฬากอล์ฟ มาจากชาวประมงชาวสกอตแลนด์ ที่กลับจากการหาปลา เวลาเดินผ่านทุ่งหญ้าก็เอากิ่งไม้เดินหวดลูกหินไปตามทาง และเมื่อหวดไปครั้งหนึ่งก็ลองหวดต่อไปเรื่อยๆ ดูว่าจะตีไปได้ไกลกว่าลูกแรกหรือไม่ เมื่อลูกหินหล่นลงไปในบ่อ หรือแอ่งดินที่แกะใช้เป็นที่หลบภัยธรรมชาติ ชาวประมงก็ต้องใช้ความสามารถที่จะตีให้ลูกหินลอยออกมาได้จนกว่าจะเดินถึงบ้าน บ่อนั้นก็ได้พัฒนามาเป็นบังเกอร์ทราย และเมื่อลูกกอล์ฟตกลงไปในโพรงที่กระต่ายขุดไว้ ก็เท่ากับเป็นการค้นคิดวิธีการเล่นกอล์ฟขึ้นมาในตัวเองว่าเกมส์จะจบลงเมื่อลูกลงหลุม!
แต่ในระยะเวลาหกร้อยปีที่ผ่านมา สกอตแลนด์ ซึ่งได้อ้างอย่างหนักแน่นตามหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนว่าเป็นประเทศต้นกำเนิดกีฬากอล์ฟ เพราะในกลางศตวรรษที่ 15 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ กีฬากอล์ฟเป็นที่นิยมเล่นกันอย่างมากในสมัยพระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งราชวงศ์สกอต แต่ทางสกอตแลนด์ก็ได้มีบันทึกที่กล่าวไว้ว่า ในช่วงที่กำลังทำศึกต่อสู้กับอังกฤษในสมัยนั้น ทางรัฐสภาสกอตได้มีการให้ยกเลิกการเล่นกอล์ฟไปหลายปี เนื่องว่าจากพลธนู และนายทหารไม่ไปซ้อมยิงธนู แต่ได้หันไปติดการเล่นกอล์ฟ แต่อีก 40 ปีต่อมา ก็ได้มีการสงบศึกกับอังกฤษ และเป็นพระเจ้าเจมส์ที่ 4 ที่ได้ยกเลิกกฎหมายห้ามการเล่นกอล์ฟตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้กีฬากอล์ฟก็ถือได้ว่าเป็นกีฬาที่เล่นอย่างแพร่มากๆ หลายในฝั่งตะวันตกของประเทศสกอตแลนด์
ในกลางศตวรรษ ที่ 18 กลุ่มนักกอล์ฟชายในสกอตแลนด์ได้ก่อตั้งสมาคมกอล์ฟขึ้น โดยกำหนดกฎข้อบังคับที่ใช้ในการเล่นกอล์ฟ ต่อมาก็ได้ก่อตั้งสโมสร The Royal and Ancient Golf of Saint Andrews โดยใช้ชื่อย่อว่า (R&A) ซึ่งเป็นสมาคมกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุด เพื่อกำหนดและแก้ไขกฎข้อบังคับรวมไปถึงมารยาทสำหรับกีฬากอล์ฟอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้น ในศตวรรษที่ 20 สมาคมกอล์ฟแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Golf Association หรือ USGA) ได้เข้ามาร่วมให้คำปรึกษาแก้ไขเพิ่มเติมกฎข้อบังคับและมารยาทสำหรับกีฬากอล์ฟ ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทำให้กีฬากอล์ฟเป็นที่นิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
