ขุนพลบาสเกตบอลทีมชาติสหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จในการครองตำแหน่งจ้าวยัดห่วงแห่งมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเป็นสมัยที่ 14 หลังจัดการย้ำแค้น สเปน ไปได้แบบสุดมัน 107-100 คะแนน ในเกมรอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา
ศึกบาสเกตบอลชาย “ลอนดอนเกมส์” เดินทางเข้าสู่วันสุดท้ายของการแข่งขัน ที่สนามนอร์ธ กรีนวิช อารีนา “ดรีมทีม” สหรัฐอเมริกา เปิดศึกรีแมตช์รอบชิงชนะเลิศปี 2008 กับ สเปน อีกคำรบ เกมนี้สองทีมจัดผู้เล่นที่ดีที่สุดลงทั้งหมด สหรัฐฯ มี เลอบรอน เจมส์, โคบี ไบรอันท์ เป็นกำลังสำคัญ ส่วน สเปน ดันพี่น้องกาซอล มาร์ค-เพา ลงไปสู้
ปรากฏว่า ทั้งสองทีมเปิดหมัดแลกแบบไม่มีใครยอมใคร โดยสเปน ยกระดับการเล่นไล่ตาม สหรัฐฯ แค่แต้มเดียวในช่วงควอเตอร์ที่ 2-3 จากกำลังสำคัญอย่าง เพา กาซอล และ ฆวน คาร์ลอส นาบาร์โร กระทั่งช่วง 3 นาทีสุดท้ายของควอเตอร์ 4 พลพรรคกระทิง พยายามไล่บี้เพื่อตีเสมอ สหรัฐฯ ให้ได้ แต่สุดท้ายเจอ เลอบรอน เจมส์ ดังก์ปิดฉาก ช่วง 23 วินาทีท้าย นาบาร์โร เสี่ยงขึ้นมายิง 3 แต้มแต่พลาด จบเกม สหรัฐฯ ย้ำแค้นอีกครั้ง 107-100 คะแนน
เกมนี้ สหรัฐฯ ได้กำลังสำคัญจาก เควิน ดูแรนท์ ยิงคนเดียวสูงสุด 30 แต้ม บวก 9 รีบาวด์ พร้อมกับ “คิงเจมส์” และ โคบี ไบรอันท์ ช่วยกันทำ 19 และ 17 แต้มตามลำดับ ฟาก สเปน เพา กาซอล ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีมทำไป 24 แต้ม บวก 8 รีบาวด์ แต่สุดท้ายคว้าเหรียญเงินไปคล้องคอด้วยรูปเกมสูสี และชัยชนะดังกล่าวทำให้ สหรัฐอเมริกา ครองจ้าวแห่งวงการยัดห่วงในมหกรรมกีฬาห้าห่วงต่อไปเป็นสมัยที่ 14
ส่วนเกมชิงเหรียญทองแดงที่จบไปก่อนหน้า รัสเซีย เอาชนะ อาร์เจนตินาไป 81-77 อเลซีย์ ชเวด การ์ดวัย 23 ปี จากค่าย มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟ ช่วย “หมีขาว” คว้าชัยด้วยการยิงคนเดียว 25 แต้มสูงสุด และอีก 7 แอสซิสต์ ส่วน “ฟ้าขาว” มานู จิโนบิลี ทำ 21 แต้ม ปิดฉากกลับบ้านมือเปล่า