บราซิล ยังไม่สมหวังในการคว้าเหรียญทองฟุตบอลโอลิมปิก ที่ “ลอนดอนเกมส์” หลังถูก เม็กซิโก ยัดเยียดความปราชัยไปแบบเจ็บช้ำ 2-1 จากการเบิล 2 ประตูของ โอริเบ เปรัลตา ในเกมรอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา
ฟุตบอลชายโอลิมปิก ชิงชนะเลิศ
บราซิล 1-2 เม็กซิโก
เกมคู่สำคัญที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม เวลา 21.00 น.ตามเวลาประเทศไทย บราซิล เต็งแชมป์หมายเลข 1 ของรายการ ลงสนามด้วยทัพผู้เล่นเต็มสูบ ทั้ง ออสการ์, เลอันโดร ดามิเยา, เนย์มาร์ เจอกับ เม็กซิโก จอมเซอร์ไพรส์ของทัวร์นาเมนต์นี้ แม้วันนี้ฝั่งจังโก้เสียเปรียบไม่มี โจวานนี ดอส ซานโตส ลงสนาม เพราะไม่ฟิต แต่ด้วยแนวรุกอย่าง ฮาเวียร์ อกิโน, มาร์โก ฟาเบียน และ โอริเบ เปรัลตา ก็ยังไว้ใจได้
ปรากฏว่า เปิดฉากมาไม่ถึงนาที กลายเป็นเม็กซิโก ที่ทำเซอร์ไพรส์ยิงประตูนำก่อน 1-0 แบบช็อกแฟนแซมบ้า ราฟาเอล คืนหลังพลาดปล่อยให้ อกิโน วิ่งมาแตะบอลต่อให้ เปรัลตา ลากตัดขึ้นซ้ายแล้วกดเต็มข้อบอลซุกตาข่ายชนิด แกเบรียล นายด่านบราซิลเอื้อมปัดไม่ทัน ส่วน บราซิล นาที 11 เนย์มาร์ เปิดฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาให้ ซิลวา โหม่งแต่บอลเหินข้ามคานออกไป
นาที 18 เม็กซิโก ได้ลุ้นประตูที่ 2 จากลูกฟรีคิกของ ชาเวซ แต่บอลติดกำแพงปล่อยให้ผู้เล่นบราซิลเคลียร์ทิ้งได้ เกมเริ่มสนุกขึ้นนาที 20 ออสการ์ ได้จังหวะตวัดยิงระยะไม่ถึง 5 หลา เพื่อประตูตีเสมอ โคโรนา รับบอลอย่างง่ายดาย รูปเกมของบราซิลดูดีขึ้นแต่ยังตีเสมอไม่ได้
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง มาโน มาเนเซส กุนซือของแซมบ้า ทนไม่ไหวสั่งการ ฮัล์ค กองหน้าตัวแกร่งลงสนามไปแทน อเล็กซ์ ซานโดร ที่ไม่ค่อยมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น นาที 32 เม็กซิโก ได้โอกาสยิงอีกรอบ ฟาเบียน เลี้ยงเดี่ยวขึ้นมาหน้าเขตโทษแล้วสับไกทันทีแต่บอลพุ่งออกขวาหลุดกรอบไป
นาที 37 ฮัล์ค เริ่มแผลงฤทธิ์ให้เห็น ครองบอลจากระยะเกือบครึ่งสนาม ก่อนลากตัดเข้าซ้ายนอกกรอบแล้วซัดเต็มข้อ แต่ โคโรนา ไม่เผลอล้มตัวเซฟได้หวุดหวิด สุดท้ายนาที 44 เนย์มาร์ ตะลุยขึ้นมาถึงเส้นหลังก่อนตวัดโด่งให้ ฮัล์ค โขกแต่บอลย้อยเข้ามือ โคโรนา ง่ายดาย จบครึ่งแรก บราซิล ตามหลัง เม็กซิโก 0-1
ครึ่งหลัง บราซิล บุกแหลกเพื่อตีเสมอให้เร็วที่สุด นาที 47 ฮัล์ค เสี่ยงยิงฟรีคิกมุมเยื้องทางขวานอกเขตโทษ แต่กำแพงของเม็กซิโก ยังช่วยกันบังไว้ได้ นาที 49 เนย์มาร์ เลี้ยงแหวกแนวรับจังโก้ 3 คน ขึ้นมายิงแต่แป๊กบอลกลิ้งเข้ามือ โคโรนา เหมือนเดิม
นาที 61 พลพรรคจังโก้ ที่นิ่งเงียบอยู่นานก็เกือบได้ประตูที่ 2 ติอาโก เตะพลาดไปโดนตัวของ ฟาเบียน บอลลอยโด่งไปทางขวา ฟาเบียน วิ่งตามไปตีลังกายิงโล่งๆ แต่โชคร้ายบอลไปชนคานออกหลังไป จากนั้นนาที 64 บราซิลได้สวนคืนอีกครั้ง ดามิเยา ได้บอลหน้าเขตโทษพร้อมตวัดตัวยิงต่อๆ แต่ยิงวืดหวดไปโดนขาของ เมียร์ แบบเต็มๆ จนล้มกลิ้งคาสนาม แต่ยังลุกขึ้นมาเล่นต่อได้
เม็กซิโก บุกมากขึ้นแต่ยังไม่ได้ประตูเพิ่ม นาที 69 เปรัลตา หลุดขึ้นมาแปบอลซุกตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน แต่แล้วนาที 74 ความพยายามของ เม็กซิโก ก็มาเป็นผลสำเร็จ ฟาเบียน เปิดฟรีคิกเข้ามาจากริมเส้นฝั่งขวา บอลลอยโด่งเข้ามาให้ เปรัลตา ที่ยืนอยู่เหน่งๆ กระโดดโหม่งบอลเข้าประตูอย่างสวยงามเป็น 2-0 สถานการณ์ของบราซิล เลวร้ายขึ้นทุกขณะ
นาที 84 บราซิล ตัดสินใจส่ง ลูคัส มูรา ลงมาแทน ราฟาเอล ที่วันนี้โชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานทั้งเกม สถานการณ์ดูดีขึ้นเป็นระยะ และนาที 89 ก็มาตีไข่แตกเป็น 1-2 จากการกระชากบอลขึ้นไปยิงยัดเสาสอง ช่วงทดเจ็บ 4 นาที บราซิล เกือบยื้อชีวิตได้หลัง ฮัล์ค เปิดตวัดเข้ามาให้ ออสการ โขกเหน่งๆ แต่บอลข้ามคานแบบเหลือเชื่อ แต่สุดท้ายก็ไม่ทันการณ์ จบเกม เม็กซิโก กระชากเหรียญทองฟุตบอลโอลิมปิกไปครองเป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ด้วยชัยชนะ 2-1 ส่วน บราซิล เป็นแค่พระรองอีกครั้ง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บราซิล : แกเบรียล, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ติอาโก ซิลวา, ฮวน เฆซุส, ซานโดร, มาร์เซโล, อเล็กซ์ ซานโดร,โรมูโล, ออสการ์, เลอันโดร ดามิเยา, เนย์มาร์
เม็กซิโก : โชเซ โคโรนา, อิสราเอล จิเมเนซ, ดิเอโก เรเยส, คาร์ลอส ซัลซิโด, ฮิรัม เมียร์, ดาร์วิน ชาเวซ, เฮ็คเตอร์ เฮร์เรรา, ฮาเวียร์ อกิโน, ฮอร์เก เอ็นริเก, มาร์โก ฟาเบียน, โอริเบ เปรัลตา
