เอเอฟพี - ตัวเลือกคู่สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสุดเซอร์ไพรส์ของมิตต์ รอมนีย์ อาจเป็นข่าวดีสำหรับชาวอนุรักษนิยม แต่ว่ากันว่าทางฝั่งเดโมแครตของบารัค โอบามา ยินดีมากกว่า เพราะเข้าทางในการโจมตีว่า แคนดิเดตของรีพับลิกันจ้องลดภาษีให้คนรวย และผลักภาระให้ชนชั้นกลางและคนชรา
จิม เมสสินา ผู้จัดการทีมรณรงค์หาเสียงของโอบามา วิจารณ์ว่า พอล ไรอัน วัย 42 ปี ส.ส.รัฐวิสคอนซินและประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณสภาล่าง เป็น “สถาปนิก” นโยบายงบประมาณแบบสุดขั้วของรีพับลิกันที่เสนอลดภาษี 250,000 ดอลลาร์ให้เศรษฐี
“รอมนีย์เลือกผู้นำรีพับลิกันในสภาล่างที่มีจุดยืนร่วมกันในความเชื่อทางทฤษฎีที่มีข้อบกพร่อง เป็นทฤษฎีที่เชื่อว่าการลดภาษีคนรวยและผลักภาระให้ชนชั้นกลางและผู้สูงวัย จะลดยอดขาดดุลงบประมาณได้และทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้มแข็งขึ้น”
พรรคเดโมเครตชี้ว่า ข้อเสนอร่างงบประมาณของไรอันที่สามารถผ่านสภาผู้แทนฯซึ่งรีพับลิกันครองเสียงข้างมาก แต่ถูกคว่ำในวุฒิสภาที่เดโมแครตยังคุมอยู่ มีเนื้อหาที่เป็นการล้มล้างระบบสุขอนามัยสำหรับผู้สูงวัย ที่มีชื่อว่า “เมดิแคร์” และทำให้คนชราต้องตกเป็นเหยื่อของพวกบริษัทประกันภัย
การเลือกไรอันและการโต้เถียงกันเรื่องเมดิแคร์ ทำให้โอบามามีความหวังคว้าชัยในมลรัฐขนาดใหญ่ที่สุดที่ไม่ได้เป็นฐานเสียงของพรรคใดอย่างชัดเจน นั่นก็คือ ฟลอริดา ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากรัฐนี้มีผู้สูงวัยจำนวนมาก
เดโมแครตจัดหนักโจมตีไรอันทันทีหลังจากรอมนีย์ประกาศการตัดสินใจของเขาที่มลรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเชื่อกันว่าจะเป็นสมรภูมิการต่อสู้อันดุเดือดอีกสมรภูมิหนึ่ง
“การจัดลำดับความสำคัญของรอมนีย์และไรอันนั้นชัดเจนมาก นั่นคือ มุ่งปกป้องคนรวยโดยขูดรีดชนชั้นกลาง” สเตนี โฮเยอร์ ผู้นำหมายเลข 2 ของเดโมแครตในสภาล่าง วิพากษ์
ทีมคลังสมองของเดโมเครตยังโจมตีจุดอ่อนอีกจุดของรอมนีย์/ไรอันในเรื่องการอ่อนด้อยประสบการณ์ด้านนโยบายต่างประเทศ
ฮีทเธอร์ เฮิร์ลเบิร์ต ผู้อำนวยการบริหารเครือข่ายความมั่นคงแห่งชาติ เตือนว่าจุดยืนสายเหยี่ยวทางการเงินของไรอัน อาจนำไปสู่การลดงบประมาณด้านการทหาร การทูต และทหารผ่านศึก
ส่วนโอบามานั้นแม้ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกไรอันของรอมนีย์ แต่เมื่อต้นปีที่แล้ว เขาเคยชำแหละแผนการลดงบประมาณของไรอันว่า สะท้อนถึงลักษณะในการแสวงผลกำไรทางการเมือง
มาปีนี้ โอบามาย้ำแค้นไรอันอีกรอบ โดยระบุว่าแผนงบประมาณของไรอันเป็น “ม้าไม้เมืองทรอย ที่ปลอมตัวมาในรูปแผนลดยอดขาดดุล แต่จริงๆ แล้วพยายามยัดเยียดนโยบายสุดขั้วและลัทธิดาร์วินทางสังคม”
กระนั้น นักวิเคราะห์บางคนที่เคยมองว่า รอมนีย์ไร้จุดยืนทางการเมืองจากการยอมเปลี่ยนแนวทางสายกลางเพื่อเอาใจฝ่ายขวาในรีพับลิกันนั้น บัดนี้เห็นว่ารอมนีย์ดูดีมีน้ำหนักขึ้นจากการเลือกคู่หูลงเลือกตั้ง ซึ่งจะช่วยยกระดับการแข่งขันให้พ้นจากการทุ่มโฆษณาสาดโคลนกันไปมา
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ยังทำให้เกิดภาพที่ขัดแย้งอย่างมากระหว่างคู่รอมนีย์-ไรอันที่ประกาศลดยอดขาดดุลของประเทศและผลักดันมาตรการลดภาษีใหม่ กับวิสัยทัศน์รัฐบาลนักเคลื่อนไหวของโอบามาที่อาสาลดภาระของชนชั้นกลาง
รอมนีย์หวังว่า การเลือกไรอันจะช่วยหยุดยั้งโมเมนตัมของโอบามา โดยที่โพลของหลายสำนักซึ่งออกมาในระยะนี้ต่างระบุว่า ประธานาธิบดีมีคะแนนนำเขาอยู่ 7-9%
รอมนีย์-ไรอัน เริ่มทำคะแนนทันทีที่เปิดตัวการร่วมลงศึกเลือกตั้ง โดยประกาศผลักดันนโยบายความรับผิดชอบทางการคลัง รวมทั้งโจมตีโอบามาว่าเป็นผู้ปิดโอกาสการจ้างงานใหม่ และเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่แย่ลง
รีพับลิกันยังพยายามที่จะใช้เรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการหาเสียง ด้วยการเบนเข็มจากการโต้เถียงเรื่องประวัติการทำธุรกิจและการขอลดหย่อนภาษีของรอมนีย์ ซึ่งได้ถูกโอบามาและเดโมแครตวาดภาพลักษณ์ว่ารอมนีย์เป็นเศรษฐีนักลงทุนที่เข้าไม่ถึงจิตใจคนจน ทั้งนี้เพื่อไปสู่ปัญหาในเชิงภาพรวมมากขึ้น เช่น วิธีฟื้นเศรษฐกิจ
“โอบามาผลักดันรัฐบาลที่มุ่งเน้นสังคมด้วยระบบที่รัฐบาลเป็นผู้บริหารเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ได้ผลเลยและไม่เคยได้ผลมาก่อน
“แต่เราให้สัญญาถึงโอกาสที่เท่าเทียม ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เท่าเทียม” ไรอันประกาศในระหว่างหาเสียงที่มานาสซัส ใกล้กรุงวอชิงตัน