ASTVผู้จัดการรายวัน - มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ครั้งที่ 30 เตรียมเปิดฉากอย่างเป็นทางการวันศุกร์ที่ 27 กรกฏาคม ไปจนถึง 12 สิงหาคม ซึ่งทีมข่าว MGR Sport รวบรวม 5 คู่ปรับที่จะต้องประชันเดือดในการชิงชัยเหรียญทอง ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
“โบลต์ VS เบล็ค” ประกาศศักดาลู่
นอกจากช่วยกันรักษาเหรียญทองประเภท ผลัด 4x100 เมตร อูเซน โบลต์ ความหวังสูงสุดของชาวจาเมกา ต้องชิงชัยความเป็นจ้าวลู่ 100 และ 200 เมตร กับทั้ง โยฮัน เบล็ค, อซาฟา พาวเวลล์ เพื่อนร่วมชาติ หรือแม้แต่ดูโอมะกัน ไทสัน เกย์, จัสติน แกตลิน และ ดเวย์น แชมเบอร์ส ความหวังเจ้าถิ่น ซึ่งคู่แข่งที่น่าจับตามองที่สุดชั่วโมงนี้เห็นจะหนีไม่พ้น เบล็ค นักกรีฑาหนุ่มวัย 22 ปี ที่กำลังห้าวจัด โค่น โบลต์ มาแล้วในการอุ่นเครื่องรายการเคย์แมน อินวิเตชันแนล ที่จาเมกา เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดย เบล็ค เข้าเส้นชัยคนแรกทำเวลาประเภท 100 เมตร ไว้ที่ 9.75 วินาที (โบลต์ เวลา 9.86 วินาที) ส่วน 200 เมตร ทำได้ 19.80 วินาที เฉือนซูเปอร์สตาร์ วัย 25 ปี ไปแค่ 0.03 วินาที อีกทั้งปัญหาเจ็บหลังของ โบลต์ อาจส่งผลให้ตำแหน่งจ้าวลมกรดเปลี่ยนมือก็เป็นได้
ราชันแห่งคอร์ตหญ้า “เฟด VS โนเล”
การที่ ราฟาเอล นาดาล แชมป์เก่าชายเดี่ยวโอลิมปิกเกมส์ ถอนตัวจากปัญหาเจ็บเข่า ทำให้แฟนๆ หวดลูกสักหลาดเจ้าถิ่นฝันเห็น แอนดี เมอร์เรย์ แทรกขึ้นมาลุ้นแชมป์ อย่างไรก็ดี คู่ปรับที่แท้จริงบนสังเวียนคอร์ตหญ้า ออล อิงแลนด์ คลับ ครั้งนี้หนีไม่พ้น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่เพิ่งชิงมือ 1 ของโลกมาจาก โนวัค ยอโควิช จากการเป็นแชมป์แกรนด์สแลม “วิมเบิลดัน” โดยสถิติที่พบกันมา 27 หนในทุกรายการ ปรากฏว่า “เฟด-เอ็กซ์” ชนะไป 15 แพ้ 12 หน ส่วนที่นับเฉพาะระดับแกรนด์สแลม 11 ครั้ง เฟเดอเรอร์ เบียดชัยหวิว 6-5 ครั้ง ซึ่งหนนี้ นักหวดสวิส วัย 30 ปี มุ่งหวังเหรียญทองมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติปิดท้าย หลังจากครั้งปักกิ่งเกมส์ จับมือ สตานิสลาส วาวรินกา คว้าทองประเภทคู่ แต่ทั้งนี้ “โนเล” ก็หวังแก้ตัวจากเมื่อ 4 ปีก่อนที่ประเภทเดี่ยวได้มาเพียงเหรียญทองแดง
“ดรีมทีม VS สเปน” ย้ำหรือล้างแค้น
สหรัฐอเมริกา กู้ศักดิ์ศรีคืนมาด้วยการซิวเหรียญทองปักกิ่งเกมส์ ด้วยชัยชนะเหนือ สเปน 118-107 แต่ภารกิจป้องกันแชมป์ของ “ดรีมทีม” ยุคปี 2012 ยังได้รับการจับตามอง แม้แสดงความพร้อมรบด้วยการกวาดชัยอุ่นเครื่อง 5 เกม หนึ่งในนั้นคือการบุกหักเขา “กระทิงดุ” ถึงคอก 100-78 คืนวันอังคารที่ผ่านมา แต่ปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักอย่าง เดอร์ริก โรส, ดีเวย์น เหว็ด, ดไวท์ ฮาวเวิร์ด หรือ คริส บอช ทำให้ “โค้ชเค” ไมค์ ชูเชฟสกี ปรับมาเล่นแบบ “สมอลบอล” ใช้ผู้เล่นที่คล่องจู่โจมคู่ต่อสู้ อย่างไรก็ตาม การมีผู้เล่นสูง 7 ฟุตเพียงรายเดียว ทายสัน แชนด์เลอร์ เซ็นเตอร์จอมหนึบจะแบกรับภาระได้มากน้อยแค่ไหน หากต้องเผชิญหมาก แซร์โจ สคาริโอโล เฮดโค้ชคนเก่งชาวอิตาเลียน ของสเปน ในการยัดบอลให้ พี่น้อง “กาซอล” เพา กับ มาร์ค สลับกันขย่มใต้แป้น
ชิงจ้าวสระ “เฟลป์ส VS โลชเต”
ประกาศศักดากวาด 8 เหรียญทองที่ปักกิ่งเกมส์ ทว่า ในโอลิมปิกเกมส์หนนี้ “บัลติมอร์ บุลเลตต์” ไมเคิล เฟลป์ส เตรียมเผชิญความท้าทายจากเพื่อนร่วมชาติอย่าง ไรอัน โลชเต และ ริคกี เบเรนส์ ที่กำลังขึ้นมาน่าสนใจ โดยเฉพาะรายของ โลชต์ วัยเดียวกัน (27 ปี) ความผิดหวังจากโอลิมปิกเมื่อ 4 ปีก่อนที่ได้มาเพียง 1 เหรียญทอง (ผลัดฟรีสไตล์ 4x200 เมตร) กับอีก 2 เหรียญทองแดง ทำให้ฉลามหนุ่มจากมหานครนิวยอร์ก มุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างหนัก จนประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลก 2 สมัยซ้อน กวาดเหรียญทองเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะการคว้าชัยเหนือ เฟลป์ส ในฟรีสไตล์ 200 เมตร และเดี่ยวผสม 200 เมตร ทั้งยังเป็นเจ้าของสถิติโลก เดี่ยวผสม 200 และ 400 เมตรคนปัจจุบัน ดูเหมือนเป้าหมายคว้า 7 เหรียญทองของ เฟลป์ส ในลอนดอนเกมส์ หาใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว
“สเปน VS แซมบา” บอลคู่ชิงในฝัน
สเปน เป็นชาติแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนังที่กวาดแชมป์เมเจอร์ 3 รายการติด ฟุตบอลโลก 2010 และยูโร 2008 กับ 2012 “กระทิงดุ” จึงถูกคาดหมายเป็นทีมเต็งเหรียญทอง “ลอนดอนเกมส์” ขุมกำลังที่ หลุยส์ มีญา เลือกมาล้วนมีพรสวรรค์ นำโดย 3 นักเตะชุดแชมป์ยูโรหนล่าสุด ฆวน มาตา, ฆอร์ดี อัลบา และ ฆาบี มาร์ติเนซ รายอื่นสามารถต่อยอดเป็นกระดูกสันหลังของทีมในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ดาบิด เด เคอา, มาร์ติน มอนโตยา, อีเกร์ มูเนียอิน, ออริโอล โรเมอู, อาเดรียน โลเปซ หรือ คริสเตียน เตโญ ขณะที่ บราซิล หมายมั่นเกียรติยศหนนี้มาก ถึงขนาด มาโน เมเนเซส กุนซือชุดใหญ่คุมทัพมาเอง นอกจากโควตาผู้เล่นอายุเกิน 23 ปี (ติอาโก ซิลวา, มาร์เซโล และ ฮัล์ค) ดาวรุ่งหลายคนกำลังเป็นที่จับตามองของสโมสรดังในยุโรปทั้ง ลูคัส มูรา, ออสการ์, เปาโล กานโซ, เนย์มาร์ และ เลอันโดร ดามิเยา เหล่านี้จะเป็นขุนพลตัวหลักชุดเปิดบ้านทำศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2016 อย่างแน่นอน