เอเยนซี- บาสเกตบอลชายสหรัฐอเมริกา ถูกจับตามองในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติมาตลอดตั้งแต่ “ทีมแห่งความฝัน” ผงาดคว้าเหรียญทองที่บาร์เซโลนา เมื่อปี 1992 มาถึงปี 2012 สื่อมวลชนต่างตั้งข้อสังเกตกับการป้องกันแชมป์ “ลอนดอนเกมส์” ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 12 สิงหาคม โดย มาร์ค เจ.สเพียร์ส กูรูยัดห่วง “ยาฮู สปอร์ตส” หยิบเอา 5 ประเด็นมาตั้งคำถามถึงภารกิจประกาศศักดาครั้งสุดท้ายภายใต้ชื่อ “ดรีมทีม” ดังบรรทัดต่อจากนี้
1.ใครจะเป็น 5 ตัวจริง
เกมอุ่นเครื่องต้อน สาธารณรัฐโดมินิกัน 113-59 คะแนน “โค้ชเค” ไมค์ ชูเชฟสกี จัด 5 ตัวจริงด้วยการส่ง เดรอน วิลเลียมส์ ลงคุมบอล โคบี ไบรอันท์ เป็นชู้ตติ้งการ์ด เลอบรอน เจมส์ ยืนสมอล ฟอร์เวิร์ด คาร์เมโล แอนโธนีย์ เป็นพาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด ขณะที่ ทายสัน แชนด์เลอร์ ปักหลักเซ็นเตอร์ นอกจากความกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บนิ้วโป้งของ คริส พอล อีกหนึ่งตำแหน่งที่ยังมีคำถามคือ “เมโลแมน” จะได้ยืนพาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด ตัวจริงเหมือนใน “ปักกิ่งเกมส์” หรือไม่ ในเมื่อ เควิน ดูแรนท์ ลุกจากม้านั่งสำรองทำคนเดียว 24 แต้มใส่ โดมินิกัน ทว่าเรื่องนี้ ดูแรนท์ ไม่เป็นกังวลแต่อย่างใดจากการให้สัมภาษณ์สื่อว่า “โค้ชบอกว่า เมโล ได้ลงตัวจริง ซึ่งผมไม่มีปัญหา นั่นเป็นอะไรที่ทีมต้องการ มันอาจแตกต่างไปบ้างกับการต้องลุกจากม้านั่งสำรอง แต่ผมยังโอเค”
2.ใครคือคู่แข่งสำคัญ
สเปน รองแชมป์เก่านำมาโดยพี่น้องกาซอล (เพา-มาร์ค) แถมอุดมไปด้วยผู้เล่นในเอ็นบีเอ (NBA) ทั้ง เซิร์จ อิบากา, รูดี เฟร์นานเดซ, โฆเซ กัลเดรอน หรือรุคกี้อย่าง วิคตอร์ กลาเบร์ น่าเสียดายที่ ริคกี รูบิโอ การ์ดตัวเก่งบาดเจ็บเข่า ก่อนหน้านี้ “แอร์คองโก” อิบากา ประกาศกร้าวสเปนมีผู้เล่นพรสวรรค์ไม่แพ้ “ดรีมทีม” ทีมที่พวกเขาปราชัยในรอบชิงเมื่อ 4 ปีก่อน ขณะที่ อาร์เจนตินา ดีกรีแชมป์เอเธนส์เกมส์ เมื่อปี 2004 นำทัพโดย มานู จิโนบิลี และหลุยส์ สโคลา ที่ยังเป็นก้างชิ้นโตสำหรับสหรัฐฯ ด้าน ฝรั่งเศส มี โทนี พาร์เกอร์ ชูโรงพร้อมด้วย นิโกลาส์ บาทูม และบอริส เดียว น่าเสียดายที่เสีย โยอาคิม โนอาห์ เซ็นเตอร์จอมขยันไป ส่วน ลิทัวเนีย กับ บราซิล เป็นชาติที่น่าจับตามองเช่นกัน
3.ทีมนี้แกร่งและเร็วที่สุด
ความเร็วและความแกร่งของการเป็นนักกีฬาถือเป็นอาวุธหลักของสหรัฐฯ ชุดนี้ แม้ปราศจาก เบล็ค กริฟฟิน ซึ่งทั้ง รัสเซล เวสต์บรูก, พอล และวิลเลียมส์ ต่างเป็นผู้เล่นที่ว่องไว เช่นเดียวกับ ดูแรนท์, แอนโธนีย์, เจมส์ หรือว่า ไบรอันท์ ต่างเล่นฟาสต์เบรกได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ อังเดร อิกัวดาลา เป็นพวกเด่นเกมรับเป็นพิเศษ ด้าน แชนด์เลอร์ กับ แอนโธนีย์ เดวิส ก็ป้องกันไม่ให้คู่แข่งยิงได้ง่าย งานนี้ “เมโลแมน” ยิ้มย่องในความอหังการของดรีมทีม “มันเหมือนฝัน เมื่อผมรีบาวด์ได้ ผมมีทางเลือกทั้ง โคบี, เลอบรอน, เคดี หรือจะส่งให้ พอล คุมบอล นี่มันเป็นภาพฝันที่เสมือนจริงชัดๆ”
4.ดรีมทีมไซส์เล็กเกินไป
สหรัฐฯ ชุดนี้มีผู้เล่นเพียง 3 คนที่สูงเกิน 6 ฟุต 9 นิ้ว นั่นก็คือ แชนด์เลอร์ (7 ฟุต 1 นิ้ว), เลิฟ และเดวิส (6 ฟุต 10 นิ้ว) เรื่องไซส์ของผู้เล่นเป็นเรื่องต้องกังวลแน่หากเจอกับสเปนที่มี มาร์ค กาซอล เซ็นเตอร์ที่สูง 7 ฟุต 1 นิ้ว เพา กาซอล ก็สูงระดับ 7 ฟุต การปะทะกับ เจมส์, ดูแรนท์ หรือว่า แอนโธนีย์ ถือเป็นเรื่องน่าสนใจ คาดว่า ชูเชฟสกี จะใช้ทีมที่มีความเร็วและความสามารถในการเป็นนักกีฬาลงกลบจุดอ่อนเรื่องขนาดรูปร่าง แม้อาจมีปัญหาเรื่องป้องกันพวกตัวใหญ่ๆ อยู่บ้างก็ตาม
5.ความผสมกลมกลืน
สหรัฐฯ ชุดนี้น่าจะผสมกลมกลืนได้เยี่ยมที่สุดตั้งแต่เริ่มใช้ผู้เล่น NBA ลงเล่นตั้งแต่ปี 1992 เจมส์ กับ แอนโธนีย์ จะลุยโอลิมปิกเกมส์หนที่ 3 ทั้งคู่พร้อมด้วย ไบรอันท์, พอล, และดี-วิลล์ ครองแชมป์ร่วมกันที่ปักกิ่งเมื่อ 4 ปีก่อน ขณะที่ ดูแรนท์, แชนด์เลอร์, เวสต์บรูก, เลิฟ และ อิกัวดาลา มาจากชุดครองแชมป์โลกเมื่อ 2 ปีก่อน ขุนพลที่ขาดประสบการณ์มีเพียง เจมส์ ฮาร์เดน กับ เดวิส ซึ่ง “โค้ชเค” พร้อมผนึกรวมทีมนี้ให้เป็นหนึ่ง “โดยรวม สิ่งหนึ่งที่เราต้องการให้สำเร็จคือพัฒนาความเป็นหนึ่งเดียวให้ออกมาดี ซึ่งดูเหมือนทุกคนไปด้วยกันได้เยี่ยม ตอนนี้เราต้องทำให้ระบบทรงประสิทธิภาพทั้งเกมรุกและรับ พวกเขารู้ว่าต้องทำอย่างไรกันบ้าง”
