ดึงสิงคโปร์อุ่นไทย "เปี๊ยก" เผยเวลาเข้าแคมป์แน่นอน

"บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยฤดูกาลหน้ามีการระบุวันเก็บตัวก่อนแข่งทีมชาติที่แน่นอนแล้ว เผย ดึง สิงคโปร์ และทีมจากตะวันออกกลาง มาลับแข้ง เดือน พฤศจิกายนนี้ ด้าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด พอใจยอดคนดู และค่าบัตรผ่านประตู การแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก เลกแรก

เมื่อวันอังคารที่ 24 กรกฎาคม 2555 ที่สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีการสรุปผลการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 เลกแรก ที่ผ่านมา โดยมี นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด และ พลตรี ชิณเสน ทองโกมล ประธานคณะกรรมการ การแต่งตั้งและติดตามผล ประเมินผู้ตัดสิน ร่วมแถลง

นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาฯสมาคมฟุตบอล ได้เผยว่าจากนี้ ในฤดูกาลหน้า (2013) ทางสมาคมได้กำหนดระยะเวลาการเก็บตัวผู้เล่นก่อนเข้าแข่งขันโปรแกรมทีมชาติเป็นที่แน่นอนแล้ว "ในฤดูกาลหน้า ทางสมาคมฟุตบอลฯได้ระบุระยะเวลาการเก็บตัวนักเตะก่อนเข้าแข่งขันโปรแกรมทีมชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนี้ การแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ตามฟีฟ่าเดย์ ให้เรียกเก็บก่อน 48 ชั่วโมง และการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่างๆ เรียกเก็บตัวไม่เกิน 7 วัน แต่ถ้าเป็นรายการใหญ่ หรือผ่านเข้ารอบสุดท้าย สามารถเรียกเก็บตัวได้ ไม่เกิน 14 วัน"

ส่วนในเรื่องการเตรียมความพร้อมของทีมชาติไทยก่อนสู้ศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ในเดือนพฤศจิกายนนั้น "บิ๊กเปี๊ยก" ได้เผยว่า "ในวันที่ 15 ส.ค. ทีมชาติไทยจะอุ่นเครื่องกับทีมรวมดาราต่างชาติไทยลีก ส่วนการอุ่นเครื่องกับ ลาว จากเดิมวันที่ 11 ได้เลื่อนมาเป็นวันที่ 12 ก.ย. แทน ส่วนทีมชาติจะเข้าแคมป์เก็บตัวตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. ถึง 18 พ.ย. ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยในวันที่ 14 พ.ย. เราได้เชิญ ทีมชาติ สิงคโปร์ มาแข่งด้วย และกำลังมองหาทีมจากแถบตะวันออกกลางมาแข่งในวันที่ 18 พ.ย."

ด้าน ดร.วิชิต ประธานทีพีแอล ได้เผยว่า ยอดผู้ชมรวมทั้งยอดจำหน่ายบัตรผ่านประตูของการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก เลกแรกที่ผ่านมานั้นเป็นที่น่าพอใจ "ยอดคนดูเฉลี่ยอยู่ที่ 5,000 คน ต่อนัด ส่วนยอดขายบัตรผ่านประตูนั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากทุกทีมรวมกันเกือบ 60 ล้านบาท และยอดขายของรวมเกือบ 30 ล้านบาทเลยทีเดียว" นายใหญ่ทีพีแอลเผย สำหรับในเลกสองนั้น ทางสมาคมฟุตบอลฯได้ติดต่อผู้ตัดสินต่างชาติ จากประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลี และ ออสเตรเลีย มาตัดสินในคู่บิ๊กแมตช์ ในปลายเดือน ส.ค. และ คู่ลุ้นแชมป์หรือลุ้นตกชั้น ในเดือน ต.ค.