โมฮัมเหม็ด บิน ฮัมมัม อดีตประธานสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี ถูกศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา ตัดสินให้พ้นโทษแบนตลอดชีพ จากข้อกล่าวหาล็อบบีซื้อเสียงชาติสมาชิกระหว่างลงสมัครชิงตำแหน่งประธานของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา เมื่อปีที่ผ่านมา หลังไม่มีหลักฐานที่แน่นหนาพอที่จะเอาผิด
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 ประมุขลูกหนังของเอเชียจากกาตาร์ ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานของฟีฟา ร่วมกับ เซปป์ แบลตเตอร์ นายใหญ่แห่งวงการลูกหนังโลกชาวสวิตเซอร์แลนด์ แต่กลับถอนตัวหลังมีข่าวว่าพยายามใช้เงิน 4 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) ล็อบบีสมาชิกสหภาพฟุตบอลแคริบเบียน (ซีเอฟยู) เพื่อซื้อเสียงโหวตให้ตัวเองก่อนเลือกตั้ง ซึ่งต่อมาเจ้าตัวก็ได้ถูกถอดชื่อออกจากตำแหน่งในฟีฟา และโดนสั่งแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการลูกหนังตลอดชีพ
แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา หรือ ซีเอสเอ ได้ประกาศให้ บิน ฮัมมัม พ้นผิดจากข้อกล่าวหา หลังนำคดีนี้เข้ากระบวนการพิจารณาตามที่ บิน ฮัมมัม ยื่นคำร้องขออุทธรณ์ขึ้นมาก่อนหน้า ปรากฏว่าคณะกรรมการของซีเอสเอ โหวตให้บิน ฮัมมัม ชนะคดี เนื่องจากไม่พบหลักฐานการทุจริตแต่อย่างใด และสั่งให้ฟีฟา ยกเลิกโทษแบนดังกล่าวด้วย
แต่ทั้งนี้ ซีเอสเอ แถลงต่อว่าแม้จะพ้นโทษแล้ว แต่ บิน ฮัมมัม ยังไม่ได้รับรองความบริสุทธิ์จากศาลแต่อย่างใด โดยหากคณะกรรมการจริยธรรมของฟีฟาที่กำลังดำเนินการแต่งตั้งขึ้นมาใหม่ พบหลักฐานที่นายใหญ่ชาวกาตาร์ ทุจริตจริง ทางศาลก็จะนำเรื่องนี้มาพิจารณาอีกครั้ง
