xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กต้อม” สั่งลา อลป.รับปาดเหงื่อลุ้นทอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย
ASTVผู้จัดการรายวัน - การได้เข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ถึง 3 ครั้ง ถือเป็นสุดยอดความฝันของนักกีฬาทุกคนในโลก เช่นเดียวกันกับ นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จของทีมชาติไทยในโอลิมปิกเกมส์มาตลอด 2 ครั้งล่าสุด จนมาถึงการแข่งขันลอนดอนเกมส์ 2012 ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 27 ก.ค.นี้ เจ้าตัวยังคงยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่จะขอวางมือหลังนำทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ครบ 3 สมัย อย่างไรก็ดี ภารกิจทิ้งทวนในครั้งนี้ “บิ๊กต้อม” ยอมรับว่า เป็นทัวร์นาเมนต์ที่หืดจับที่สุดของตัวเองในรอบ 8 ปีเลยทีเดียว

นับจากรับหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะนักกีฬาไทยครั้งแรกในศึกเอเธนส์เกมส์ 2004 ที่ประเทศกรีซ ไทยสามารถคว้าเหรียญทองได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 3 เหรียญ จาก ปวีณา ทองสุก, อุดมพร พลศักดิ์ และ มนัส บุญจำนงค์ จากนั้นในศึกปักกิ่งเกมส์ 2008 ที่ประเทศจีน “บิ๊กต้อม” ยังคงนำทัพกีฬาคว้าเพิ่มได้อีก 2 เหรียญทอง จาก สมจิตร จงจอหอ และ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล อย่างไรก็ดี จากจำนวนนักกีฬาไทยเพียง 37 คน ในศึกลอนดอนเกมส์ 2012 มีความกังวลกันว่า ตัวเลขเหรียญทองอาจลดลงเหลือเพียง 1 หรือไม่เหลือเลย ทว่า ในมุมมองของนายธนาแล้วไม่ได้คิดเช่นนั้น

โดยพ่อบ้านทัพกีฬาไทย เผยผ่าน MGR SPORT ว่า “จริงอยู่ที่จำนวนนักกีฬาของไทยในโอลิมปิกเกมส์นั้น ลดจำนวนลงเรื่อยๆ โดยปี 2004 เรามีถึง 57 คน ขณะที่ในปี 2008 ก็มีถึง 51 คน มาในปีนี้การที่ยอดลงเหลือ 37 คน ก็ทำให้หลายคนคิดว่าโอกาสคว้าเหรียญทองของเราจะลดลงตามไปด้วย แต่ผมเองยังคงเชื่อมั่นว่า กีฬาความหวังทั้งเทควันโด, ยกน้ำหนัก, มวยสากลสมัครเล่น น่าจะทำให้คนไทยในลอนดอนได้มีโอกาสร้องเพลงชาติในช่วงโอลิมปิกเกมส์ได้ รวมไปถึง 2 ชนิดกีฬาที่เราไม่เคยคว้าเหรียญรางวัลมาก่อนอย่างยิงเป้าบินและแบดมินตัน ก็มีลุ้นคว้าเหรียญประวัติศาสตร์ด้วยเช่นเดียวกัน”

อย่างไรก็ดี นายธนา ยอมรับว่า การทำหน้าที่หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยในครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่หืดจับในการลุ้นเหรียญรางวัลมากที่สุด “ผมเองยังคงเชื่อมั่นในตัวนักกีฬาทุกคน และเชื่อว่า ทั้ง 37 ชีวิตที่มีธงชาติไทยติดที่หน้าอกจะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดฝีมือ แต่ในการแข่งขันกีฬาก็ต้องยอมรับว่ามีหลายๆ ปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องของฝีมือและโชค โดยเฉพาะชนิดที่กีฬาที่ต้องมีการจับสลากประกบคู่ หรือแบ่งสาย อย่าง มวย, เทควันโด รวมถึงแบดมินตัน ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งผมเอง และคนไทยทั้งประเทศอาจต้องลุ้นเหนื่อยกันสักหน่อยมากกว่าโอลิมปิกหลายๆ ครั้งที่ผ่านๆ มา”

พร้อมกันนี้ “บิ๊กต้อม” ที่ครั้งหนึ่งเคยติดโผลุ้นตำแหน่งนายกสมาคมมวยสากลสมัครของไทย ยังแสดงความมั่นใจไปยัง 3 ขุนพลเสื้อกล้าม ที่ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ อยู่ภายใต้ความดูแลของ “เสธ.อ้าย” พลเอก บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมปัจจุบันว่า “หลายคนกังวลกันว่า ทีมมวยชุดนี้อาจมีปัญหาในเรื่องการตัดสินของกรรมการ แต่ผมเองยังเชื่อว่า หากนักมวยของเราชกเข้าเป้าแบบจะแจ้งปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น ที่สำคัญ จากการที่ ชิง กั๊ว วู ประธานสหพันธ์มวยสากลนานานาชาติ (ไอบา) เดินทางมาประชุมที่เมืองไทยเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็ถือเป็นสัญญาณอันดีสำหรับทีมกำปั้นไทยในลอนดอนเกมส์”

ในส่วนของความกังวลใจในการรับผิดชอบคณะนักกีฬาในครั้งนี้ “บิ๊กต้อม” เผยว่า “สิ่งที่ผมกำชับไปยังทุกสมาคมกีฬา คือ เรื่องของการใช้สารกระตุ้น เพราะแม้ว่าทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จะมีการตรวจสารต้องห้ามในตัวนักกีฬาของเราก่อนออกเดินทางไปลอนดอน แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่อังกฤษที่จะมีฝนตกอยู่เป็นระยะ ก็อาจทำให้นักกีฬาหลายคนป่วย และจำเป็นต้องรับประทานยา ซึ่งเรากำชับให้ทุกสมาคมดูแลนักกีฬาในจุดนี้เป็นพิเศษ ส่วนเรื่องของอาหารการกินนั้นหมดห่วงไปได้เลย เนื่องจากเจ้าภาพจัดโรงอาหารขนาดใหญ่ โดยจะมีอาหารทุกชาติ รวมถึงอาหารไทยเอาไว้บริการตลอด 24 ชั่วโมง”

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงอนาคตว่าจะรับหน้าที่หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยหลังจบศึกลอนดอนเกมส์ต่อหรือไม่ เจ้าตัวยืนยันว่า “จริงๆ แล้ว ผมเองมีส่วนร่วมในการดูแลนักกีฬามาตั้งแต่โอลิมปิกที่แอตแลนตา สหรัฐอเมริกา ปี 1996 ก่อนจะได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่หัวหน้าคณะนักกีฬาเต็มตัวในปี 2004 ที่เอเธนส์ ซึ่งการทำหน้าที่ในทัวร์นาเมนต์กีฬาระดับโลกถึง 3 ครั้ง ต้องบอกว่า มันถึงเวลาที่จะต้องเปิดโอกาสให้กับบุคคนอื่นเข้ามาสานงานต่อหลังจบโอลิมปิกครั้งนี้ ซึ่งก็จะอยู่ในช่วงที่คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยหมดวาระพอดี อย่างไรก็ดี ด้วยความที่เป็นคนในวงการกีฬา ขอยืนยันว่า ผมจะไม่หันหลังให้กับวงการนี้แน่นอน”
โอลิมปิกเกมส ์กำลังจะเปิดฉากขึ้นที่กรุงลอนดอน
มวยสากลสมัครเล่นยังเป็นกีฬาความหวัง
เทควันโด ลุ้นทองประวัติศาสตร์
บิ๊กต้อม เตรียมสั่งลาอลป.2012
กำลังโหลดความคิดเห็น