“บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย กล่าวว่า คณะนักกีฬาไทยมีโอกาสคว้า 2 เหรียญทอง ขณะเดียวกัน ก็ได้เตือนทัพนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกให้เตรียมสภาพร่างกายและจิตใจให้พร้อม รวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับเวลาที่ระยะห่างถึง 6-7 ชั่วโมงด้วย
งานแถลงข่าวมีทเดอะเพรส โอลิมปิกลอนดอนเกมส์ 2012 ครั้งที่ 4/2555 เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม 2555 เวลา 13.30น. ณ ห้องประชุมรอดโพธิ์ทอง สนามกีฬาแห่งชาติ โดยมีนายมนตรี ไชยพันธ์ รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหาร , นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย, ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย , พล.ทพิบูลย์ วิเชียรวรรณ อุปนายกและประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และ นายมนตรี วีรประวัติ ผู้แทนสมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยบรรดาสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าวอย่างคับคั่ง
โดย "บิ๊กต้อม" ธนา กล่าวถึงความหวังในการลุ้นเหรียญของทัพนักกีฬไทยในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ว่า "ปีนี้คณะนักกีฬาไทยได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 37 คนจาก 16 ชนิดกีฬาซึ่งน้อยกว่าการแข่งขันปักกิ่งเกมส์เมื่อ 4 ปีที่แล้วที่มี 51 คนจาก 13 ชนิดกีฬา โดยเป้าหมายในการลุ้นเหรียญทองผมขอแค่ 2 เหรียญทองเท่านั้น โดยกีฬาหลักๆที่น่าลุ้นเหรียญได้แก่ ยกน้ำหนัก, มวยสากลสมัครเล่น, เทควันโด, แบดมินตัน และยิงปืน"
"ทั้งนี้ตนได้เตือนคณะนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในเรื่องสภาพร่างกายอย่าให้บาดเจ็บจนไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ รวมถึงสภาพจิตใจและการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่ระยะเวลาห่างกันถึง 6-7 ชั่วโมงจะส่งผลให้นักกีฬาอ่อนเพลียได้ แต่ก็เชื่อว่าจำนวนนักกีฬาที่ไปคราวนี้มีน้อยทำให้เราสามารถดูแลอย่างทั่วถึง รวมถึงสมาคมอื่นๆ ต่างก็เคยมีประสบการณ์ในการแข่งขันโอลิมปิกมาแล้วก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง" หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยกล่าวเตือนนักกีฬาไทยเป็นการทิ้งท้าย
ต่อมานายธนายังได้เป็นตัวแทนของสมาคมยูโดแห่งประเทศไทยถึงความพร้อมว่า "ทางสมาคมได้ตัวแทนจากการได้สิทธิ์ไวลด์การ์ดในรุ่น 100 กิโลกรัมชายคือ ธีรวัฒน์ หอมกลิ่น ที่เพิ่งกลับจากการเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศจีน ก่อนจะเตรียมตัวเดินทางยังเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษเพื่อปรับสภาพร่างกาย ก่อนมุ่งหน้าสู่กรุงลอนดอนทันที โดยความหวังจะเข้ารอบลึกๆให้มากที่สุดก็พอใจแล้ว"
ด้าน ศ.เจริญ นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยได้กล่าวถึงความหวังและความพร้อมของทีมแบดมินตันว่า "ตอนนี้สมาคมแบดมินตันได้โควตานักกีฬาครบเรียบร้อยแล้วทั้งสิ้น 6 คนจาก 4 ประเภทได้แก่ "แมน" บุญศักดิ์(ชายเดี่ยว), "เมย์" รัชนก(หญิงเดี่ยว), บดินทร์-มณีพงศ์(ชายคู่) และสุดเขต-สราลีย์(คู่ผสม) โดยระบบการแข่งขันนั้น รอบแรกจะเป็นการแบ่งสายสายละ 3 คน จากนั้นจะเป็นรอบน็อคเอาท์คือแพ้คัดออก ทำให้มีโอกาสเข้ารอบลึกๆได้ไม่ยาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจับสลากแบ่งสายในวันที่ 23 ก.ค.ซึ่งผมมองว่ามีโอกาสได้ทุกประเภทเช่นกัน"
มาที่ พล.ท.พิบูลย์ อุปนายกสมาคมลูกเหล็กกล่าวถึงความพร้อมว่า "โอกาสที่เราจะมีเหรียญนั้น ขณะนี้ยังตอบไม่ได้จนกว่าจะเห็นรายชื่อขอนักกีฬาประเทศต่างๆ เราจึงจะมองดูว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหน ขอให้คนไทยรอก่อน และสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยไม่เคยทำให้ประชนคนไทนผิดหวังเลย และจะมีการประกาศรายชื่อนักกีฬาครั้งสุดท้ายทั้งสิ้น 7 คน คือ ชาย 3 คน และหญิงอีก 4 คนในวันจันทร์ที่ 9 ก.ค.นี้อีกด้วย"
ส่วนนายมนตรี วีรประวัติ ผู้แทนสมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยกล่าวถึงความพร้อมครั้งนี้ว่า "ทางสมาคมฯได้ตัวแทนเพียงคนเดียวคือ "แป๋ว" นันทนา คำวงศ์ ประเภทหญิงเดี่ยวโดยผ่านการคัดเลือก คว้าอันดับที่ประเทศฮ่องกงได้และเป็นการแข่งขันโอลิมปิกสมัยที่ 4 ติดต่อกัน โดยจะเดินทางในวันที่ 23 ก.ค. และแข่งรอบคัดเลือกในวันที่ 25 ก.ค.นี้ หวังเข้ารอบแบ่งกลุ่มได้ก็ถือว่าพอใจแล้ว"
สุดท้ายนายมนตรีได้แจกแจงถึงงบประมาณโอลิมปิกครั้งนี้ว่า "ตอนนี้ทัพนักกีฬาไทยที่ได้สิทธิ์แข่งโอลิมปิกมีทั้งสิ้น 37 คนจาก 16 ชนิดกีฬาใช้งบทั้งสิ้น 67 ล้านบาท โดยแจกแจงย่อยๆดังนี้คือ งบที่ กกท. ส่งนักกีฬาคัดเลือกโอลิมปิก 5 ล้านบาท, งบเตรียมนักกีฬาที่สมาคมร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยอีก 34 ล้านบาท และสุดท้ายที่งบส่งนักกีฬาไทยร่วมการแข่งขันโอลิมปิกอีก 20 ล้านบาท"
สำหรับการเดินทางของทัพนักกีฬาไทยแบ่งเป็นสองทัพใหญ่ๆ โดยในวันที่ 23 ก.ค. จะมีสองสมาคมกีฬาที่เดินทางคือ ยกน้ำหนักและจักรยาน ส่วนอีกวันคือวันที่ 25 ก.ค.จะเป็นทัพนักกีฬาใหญ่ที่จะเดินทางสู่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ