"เจ้าเติ้ล" มนัส บุญจำนงค์ อดีตฮีโร่เหรียญทอง โอลิมปิก 2004 กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เปิดใจให้สัมภาษณ์ "รอยเตอร์ส" (Reuters) สื่อดัง ฝันไกลมองหาโอกาสเทิร์นโปรเป็นนักมวยอาชีพเพื่อขอฟาดปากกับ แมนนี ปาเกียว ยอดกำปั้นแดนตากาล็อก
เมื่อวันอังคารที่ 13 มีนาคม 2555 ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่งนอกตัวเมืองกรุงเทพฯ มนัส บุญจำนงค์ อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย พร้อมแฟนสาวในชุดเสื้อสีขาวปักลาย "เพลย์บอย" บนหน้าอก ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทาง "รอยเตอร์ส" เปิดใจหลังสร้างความฮือฮาประกาศแขวนนวมไม่ไปขึ้นสังเวียนรุ่น 75 กิโลกรัมเพื่อชิงโควต้า โอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แม้เจ้าตัวจะขึ้นเวทีชนะรุ่นน้อง ปิติพงษ์ สำเภาล่อน ได้สิทธิ์มาอยู่ในกำมือ
"เจ้าเติ้ล" ระบุสาเหตุถึงการปฏิเสธโอกาสขึ้นชก โอลิมปิก ครั้งที่ 3 ในชีวิตเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ว่าเป็นเพราะสภาพจิตใจที่ไม่พร้อมเป็นหลัก "อยากกราบขอโทษชาวไทยทุกคนที่ต้องการให้ผมขึ้นสังเวียนต่อ แต่ผมคงไม่สามารถไปชกในโอลิมปิกได้หากสภาพจิตใจไม่พร้อม ถือเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่บางครั้ง หากนักกีฬารู้สึกท้อแท้และไม่มีใจสู้ ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ ผมจึงตัดสินใจละทิ้งเกียรติยศดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจของตนเอง ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิดก็ตาม"
ชีวิตของ มนัส วัย 31 ปี ผ่านจุดสูงสุดมาแล้วทั้งการคว้าเหรียญทองเหรียญแรกในชีวิตจากการขึ้นชก โอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงเอเธนส์ เมื่อปี 2004 กระทั่งจุดตกต่ำสุดในชีวิตใช้เงินรางวัลและเงินอัดฉีดที่ได้จากการคว้าเหรียญดังกล่าวจำนวน 18 ล้านบาท อย่างสุรุ่ยสุร่ายไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การพนัน ผู้หญิง รวมถึงอบายมุขต่างๆ จนไม่เหลือคราบ "ฮีโร่โอลิมปิก" คนเดิมอีกต่อไป
เมื่อ มนัส ถูกตราหน้าว่าเป็น "แบดบอย" พล.อ. ทวีป จันทรโรจน์ ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยเวลานั้น ได้ส่งไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ คิวบา โดยไม่ให้เงินหรือบัตรเครดิตติดตัวแม้แต่ใบเดียว ก่อนที่เจ้าตัวจะเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ก็เดินหน้าคืนสู่หนทางความสำเร็จอีกครั้งด้วยการหยิบเหรียญทองในการขึ้นสังเวียน เอเชียน เกมส์ ปี 2006 ก่อนตามมาด้วยคว้าเหรียญเงิน "ปักกิ่งเกมส์ 2008" เมื่อพ่ายให้กับ เฟลิกซ์ ดิอาซ กำปั้นชาวโดมินิกัน
ความสำเร็จดังกล่าวทำให้ "เจ้าเติ้ล" มองว่าถึงเวลาแล้วที่ตนจะต้องหันหลังให้กับชีวิตเสเพลทั้งหลาย โดยได้ตัดสินใจเลิกดื่มแอลก์ฮอลล์ พร้อมวางแผนที่จะเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนสาวที่คบหาดูใจกันมานาน ก่อนร่วมกันทำธุรกิจเล็กๆ ที่จังหวัดลำปาง โดยกล่าวต่อคนรู้ใจที่นั่งอยู่เคียงข้างกันว่า "ผมเลิกทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหตุผลก็มีเพียงแค่ผมอยากใช้ชีวิตเหมือนกับคนปกติทั่วไปเพียงเท่านั้น"
อย่างไรก็ตามอดีตนักมวยคิกบ็อกซิงอย่าง "เจ้าเติ้ล" ก็ยังไม่คิดถึงการอำลาสังเวียนผ้าใบเสียทีเดียว หลังเจ้าตัวเผยความฝันอันยิ่งใหญ่ว่าต้องการหันไปเทิร์นโปรเป็นนักมวยอาชีพที่สหรัฐอเมริกา พร้อมฝันถึงการดวลกำปั้นกับ แมนนี ปาเกียว ยอดนักชกหมายเลขหนึ่งของโลกจากฟิลิปปินส์ ดีกรีเจ้าของเข็มขัดแชมป์ 8 รุ่น และได้รับการขนานนามว่าเป็นนักมวยที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์
"อยากให้ทุกคนรอดูกันภายในช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ ผมจะก้าวเข้าสู่วงการนักมวยอาชีพให้ทุกคนได้เห็นกัน เป้าหมายคือการเผชิญหน้ากับ ปาเกียว และก็ต้องการใครสักคนที่จะมาจัดการเรื่องนี้ให้เป็นจริงได้" มนัส ที่ต้องเตรียมตัวลดน้ำหนักจาก 75 กก. ลงมาอยู่ในระดับซูเปอร์-เวลเตอร์เวธ (66.7-69.9 กก.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เป็นการทิ้งท้าย