จบ "มนัส" ยันไม่พลิกลิ้นคืนวงการ

"เจ้าเติ้ล" มนัส บุญจำนงค์ ยืนยันคำเดิมแขวนนวนแน่นอน หลังปัดโอกาสครั้งสุดท้ายจาก พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมวยสากลแห่งประเทศไทย ที่ให้โอกาสถึง 12 มีนาคม 2555 ด้าน "เสธ.อ้าย" เผยปิดประตูกับมนัสแล้ว และจะไม่ส่งใครแทนรุ่น 75 กิโลกรัมลุยโอลิมปิกในปีนี้

เป็นข่าวมาอย่างยืดเยื้อหลังจากที่ "เจ้าเติ้ล" มนัส บุญจำนงค์ กำปั้นแบดบอยประกาศแขวนนวมอย่างสายฟ้าแลบ เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา แต่เจ้าตัวยังคงได้รับโอกาสจาก "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมวยสากลแห่งประเทศไทย ให้กลับมารายงานตัวได้จนถึงภายในวันที่ 12 มีนาคม 2555 หากเปลี่ยนใจกลับมาชกต่อ เพื่อจะส่งไปคัดเลือกตัวเข้าสู้ศึกลอนดอนเกมส์ 2012

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 12 มีนาคม 2555 ผู้สื่อข่าว MGR Sport ได้สอบถามไปยังตัวมนัสได้ความว่า "ตอนนี้ผมอยู่ที่กรุงเทพฯครับ แต่ผมไม่ได้ไปรายงานตัว ผมเลิกจริงๆแล้ว ตอนนี้สภาพจิตใจผมไม่ไหวจริงๆ รู้ตัวว่าถ้าเข้าไปเก็บตัวในค่ายก็โดนไล่ออกมาอยู่ดี จึงตัดสินใจเลิกตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า จากนี้ผมก็จะขอใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา เปิดร้านขายของเล็กๆร่วมกับแฟนที่จังหวัดลำปาง ส่วนเรื่องพี่บาส(สมรักษ์ คำสิงห์)นั้นผมก็อยากจะขอโทษและขอบคุณพี่เขามาก แต่ยังไม่กล้าที่จะเข้าไป รู้ว่าพี่เขาโกรธผม จึงอยากจะขอเวลาสักพักก่อน" อดีตฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกกล่าว

ด้าน "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เผยถึงเรื่องนี้ว่า "ผมเคารพการตัดสินใจของมนัส เขาจะมาหรือไม่มาผมจะทำอย่างไรได้ แต่ผมก็เข้าใจในตัวเขา รู้นิสัยเขาดีอยู่แล้ว และเข้าใจว่าอายุมากจึงอาจจะเบื่อ ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการที่แพ้กลับมาจากซีเกมส์ที่อินโดนีเซียครั้งล่าสุด แต่ผมยังติดใจอยู่ที่ว่าทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงยอมฝืนลดน้ำหนักลงมาได้หลายสิบกิโลในเวลาไม่ถึง 2 เดือน แล้วทำไมถึงคิดจะเลิกง่ายๆ จากนี้ไปก็คงต้องปิดประตูกับมนัสเสียที คงไม่มีโอกาสที่จะได้กลับมาอีกแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้ติดใจหรือโกรธเรื่องอะไรนะ ถ้าจากนี้มนัสมีปัญหาก็พร้อมยินดีที่จะช่วยเหลือเสมอในทุกเรื่องแต่ยกเว้นเรื่องมวยเรื่องเดียวเท่านั้นที่จะไม่ขอยุ่งอีก"

ส่วนเรื่องอนาคตของทีมมวยสากลไทยที่จะไปลุยศึกควอลิฟาย โอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงอัสทานา ประเทศคาซัคสถานนั้น "เสธ.อ้าย" ได้กล่าวว่า "เราได้ส่งรายชื่อมนัสไปแล้วในรุ่น 75 กก. แต่ถ้าเขาไม่ไป เราก็คงจะไม่ส่งตัวสำรองอย่าง ปิติพงษ์ สำเภาล่อน ไปแทนเพราะผมรู้ว่ากระดูกมวยยังไม่ถึง ส่งไปก็มีแต่จะแพ้ จึงตัดสินใจตัดรุ่นนั้นออกไปเลย" นายใหญ่วงการเสื้อกล้ามไทยทิ้งท้าย

ส่วนนักชกในรุ่นอื่นๆที่ได้สิทธิ์ไปคัดเลือกตัวระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-8 เม.ย.นี้ ที่ประเทศคาซัคสถานนั้นประกอบไปด้วย แก้ว พงษ์ประยูร (รุ่น 49 กก.), วรพจน์ เพชรขุ้ม (รุ่น 56 กก.), ฉัตรชัย บุตรดี (รุ่น 52 กก.) และอภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ (รุ่น 69 กก.)