แอนดี ร็อดดิก นักเทนนิสอดีตมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ส่อเค้าไม่กลับมาลงหวดแกรนด์สแลมวิมเบิลดันที่เมืองผู้ดีอีกในอนาคต หลังถูก ดาบิด เฟร์เรร์ หวดจอมเก๋าชาวสเปน เขี่ยตกรอบ 3 ไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวยังไม่ยืนยันในเรื่องนี้ แม้หลังจบแมตซ์จะไปส่งจูบให้แฟนๆ ราวกับเป็นสัญญาณแห่งการอำลาก็ตาม
เข้าสู่รอบ 3 ของศึกแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน ณ สังเวียน ออล อิงแลนด์ คลับ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เกมประเภทชายเดี่ยว แอนดี ร็อดดิก จอมเสิร์ฟหนักจากแดนลุงแซม ลงสนามพบกับ ดาบิด เฟร์เรร์ มือ 5 ของโลกชาวสเปน ซึ่ง "เอ-ร็อด" มีโอกาสเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายได้ไม่ยากหลังขึ้นนำก่อนเซตแรก แต่กลายเป็นว่า เฟร์เรร์ กลับพลิกสถานการณ์เขี่ย ร็อดดิก ตกรอบไปแบบสุดช็อก หลังหวดเอาชนะไป 3-1 เซต 2-6, 7-6 (10/8), 6-4, 6-3
หลังจบเกม สื่อตั้งข้อสังเกตุว่าความพ่ายแพ้ของ "เอ-ร็อด" รวมถึงการที่เจ้าตัวเดินออกจากสนามพร้อมส่งจูบให้แฟนๆ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า หวดวัย 29 ปี และรองแชมป์ 3 สมัย จะไม่กลับมาลงหวดสแลมวิมอีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ดี อดีตมือ 1 โลก เปิดเผยเพียงสั้นๆในทีแรกว่า "ผมยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้ และยังไม่สามารถบอกอะไรกับคุณได้มากนัก"
"ผมรักในสิ่งผมทำมาตลอด การเป็นนักเทนนิสนั้นถือเป็นเรื่องยาก และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรักษาระดับฟอร์มการเล่นที่ดีเอาไว้ให้ได้ยาวนานที่สุด อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในการแข่งขัน" ร็อดดิก กล่าวเสริมถึงอนาคตของตัวเองในภายหลัง
ขณะที่ มาร์ดี ฟิช หวดรุ่นน้อง เชื่อมั่นว่า ร็อดดิก จะยังไม่อำลาสังเวียน ออล อิงแลนด์ คลับ อย่างแน่นอน โดยกล่าวว่า "เขายังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดบนคอร์ตหญ้า เพียงแต่โชคร้ายที่เขาเจอกับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในรอบชิงชนะเลิศใน 3 ครั้งที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าหลายคนที่ซิวแกรนด์สแลมได้นั้น เป็นเพราะไม่ได้เจอกับ เฟเดอเรอร์ และผมคิดว่าเขาจะต้องกลับมาลงแข่งที่นี่อีกครั้ง แต่ถ้าไม่ เขาก็ยังเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่ยังไม่เคยคว้าแชมป์วิมเบิลดัน ต่อไป"
เข้าสู่รอบ 3 ของศึกแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน ณ สังเวียน ออล อิงแลนด์ คลับ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เกมประเภทชายเดี่ยว แอนดี ร็อดดิก จอมเสิร์ฟหนักจากแดนลุงแซม ลงสนามพบกับ ดาบิด เฟร์เรร์ มือ 5 ของโลกชาวสเปน ซึ่ง "เอ-ร็อด" มีโอกาสเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายได้ไม่ยากหลังขึ้นนำก่อนเซตแรก แต่กลายเป็นว่า เฟร์เรร์ กลับพลิกสถานการณ์เขี่ย ร็อดดิก ตกรอบไปแบบสุดช็อก หลังหวดเอาชนะไป 3-1 เซต 2-6, 7-6 (10/8), 6-4, 6-3
หลังจบเกม สื่อตั้งข้อสังเกตุว่าความพ่ายแพ้ของ "เอ-ร็อด" รวมถึงการที่เจ้าตัวเดินออกจากสนามพร้อมส่งจูบให้แฟนๆ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า หวดวัย 29 ปี และรองแชมป์ 3 สมัย จะไม่กลับมาลงหวดสแลมวิมอีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ดี อดีตมือ 1 โลก เปิดเผยเพียงสั้นๆในทีแรกว่า "ผมยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้ และยังไม่สามารถบอกอะไรกับคุณได้มากนัก"
"ผมรักในสิ่งผมทำมาตลอด การเป็นนักเทนนิสนั้นถือเป็นเรื่องยาก และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรักษาระดับฟอร์มการเล่นที่ดีเอาไว้ให้ได้ยาวนานที่สุด อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในการแข่งขัน" ร็อดดิก กล่าวเสริมถึงอนาคตของตัวเองในภายหลัง
ขณะที่ มาร์ดี ฟิช หวดรุ่นน้อง เชื่อมั่นว่า ร็อดดิก จะยังไม่อำลาสังเวียน ออล อิงแลนด์ คลับ อย่างแน่นอน โดยกล่าวว่า "เขายังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดบนคอร์ตหญ้า เพียงแต่โชคร้ายที่เขาเจอกับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในรอบชิงชนะเลิศใน 3 ครั้งที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าหลายคนที่ซิวแกรนด์สแลมได้นั้น เป็นเพราะไม่ได้เจอกับ เฟเดอเรอร์ และผมคิดว่าเขาจะต้องกลับมาลงแข่งที่นี่อีกครั้ง แต่ถ้าไม่ เขาก็ยังเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่ยังไม่เคยคว้าแชมป์วิมเบิลดัน ต่อไป"