โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสอดีตมือ 1 ของโลกชาวสวิส ประกาศเป้าขอซิวแชมป์เทนนิสแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ที่จะเริ่มเปิดฉากขึ้นในวันที่ 25 มิ.ย. นี้ ให้ได้เป็นสมัยที่ 7 เพื่อเป็นการทำสถิติเทียบเท่ากับ พีท แซมพราส ตำนานหวดชาวอเมริกันที่คว้าแชมป์รายการนี้มาแล้ว 7 สมัย ขณะที่บรรดาเกจิริมคอร์ต มองว่าหาก "เฟดเอ็กซ์" ชวดแชมป์ในปีนี้ ก็อาจไม่ได้หยิบแชมป์แกรนด์สแลมใดๆอีกเลยในช่วงโค้งสุดท้ายของอาชีพ
หวดวัย 30 ปี และแชมป์เก่า 6 สมัย ถูกฝ่ายจัดการแข่งขันยกให้เป็นมือวางอันดับ 3 ของรายการในปีนี้ ตามหลัง โนวัค ยอโควิช มือ 1 ชาวเซิร์บ และ ราฟาเอล นาดาล คู่ปรับชาวสเปน แม้ที่ผ่านมาเจ้าตัวยังไม่ได้สัมผัสเกียรติยศใดๆนับตั้งแต่ซิวแชมป์ "ออสเตรเลียน โอเพน" เมื่อปี 2010 แต่ "เฟดเอ็กซ์" ยังมั่นใจว่าตัวเองมีโอกาสซิวแกรนด์สแลมบนคอร์ตหญ้าเป็นสมัยที่ 7 เช่นกัน
โดย เฟเดอเรอร์ ที่วืดแชมป์บนสังเวียนที่ตัวเองถนัดมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า "ความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นในรอบ 8 คนสุดท้ายตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เป็นเพราะบางทีผมอาจทำผลงานได้ไม่ดีพอ รวมถึงคู่แข่งต่างก็โชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดี นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมต้องพัฒนาฟอร์มการเล่นของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับผมด้วยว่าจะสามารถสร้างความแตกต่างจากสิ่งที่ผ่านมาและก้าวไปสู่ระดับต่อไปได้หรือไม่"
"การคว้าแชมป์รายการนี้คือสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาโดยตลอด ถือเป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ผมหวังว่าตัวเองจะทำได้สำเร็จอีกครั้ง ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงคงเป็นสิ่งที่วิเศษมากเพราะมันจะทำให้ผมมีสถิติเท่ากับ พีท แซมพราส ที่เป็นแชมป์รายการนี้ถึง 7 สมัย และเป็นคนที่ผมชื่นชมมาตลอดสมัยยังเป็นเด็กเช่นกัน" เฟเดอเรอร์ ที่ซิวสแลมวิมเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2009 กล่าว
อย่างไรก็ดี บรรดานักวิเคราะห์เกมจากต่างประเทศมองว่านี่คือโอกาสสุดท้ายแล้วที่ เฟเดอเรอร์ จะได้ลุ้นแชมป์รายการนี้ เนื่องจากอายุที่มากขึ้นรวมถึงมีนักหวดรุ่นใหม่อย่าง โนวัค ยอโควิช และ ราฟาเอล นาดาล ก้าวขึ้นมาท้าทายในยุคหลัง โดยหาก "เฟดเอ็กซ์" วืดแชมป์ในปีนี้อีก เจ้าตัวก็อาจไม่ได้หยิบสัมผัสเกียรติยศใดๆอีกตลอดช่วงโค้งสุดท้ายของอาชีพนักหวด โดยอดีตมือ 1 โลกชาวสวิส จะพบกับ อัลเบิร์ต รามอส มือ 43 ของโลกชาวสเปน ในรอบแรกที่สังเวียนออล อิงแลนด์ คลับ
