คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”
ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วนะครับว่า "ความมั่นใจ" เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเล่นลูกสั้น โดยเฉพาะการพัตต์ที่เราต้องมั่นใจกับไลน์ที่เราให้ไป ถ้าในไลน์ปกติแล้วหากเราผิดพลาดนิดหน่อยก็ยังพอให้อภัยกันได้ อาจจะหยดลงข้างหลุมบ้าง หรือวนไปลงหลังบ้านกันบ้าง แต่เคยสังเกตกันไหมครับว่าเวลาเราต้องพัตต์ไลน์ sidehill หรือว่าไลน์ที่มีเนินอยู่ข้างใดข้างหนึ่งระหว่างทาง เรามักจะหวังทำพัตต์เดียวได้น้อยกว่าไลน์ปกติเนื่องจากเป็นไลน์ที่ยากกว่า อาจจะเกิดจากการให้น้ำหนักผิดบ้าง ไลน์ไม่ถูกบ้าง หรือบางทีอาจให้ไลน์ถูก แต่น้ำหนักผิด แม้กระทั่งอาจจะให้น้ำหนักถูกแต่ไลน์ผิด พูดง่ายๆก็คือทั้ง “น้ำหนัก” และ “ส่วนสูง” จะต้องมาพร้อมกันนั่นเอง
แล้วเราจะทำอย่างไรที่จะสามารถเพิ่มความหวังหรือเปอร์เซนต์ในการพัตต์ไลน์ sidehill ให้มีโอกาสลงมากขึ้น? เราก็ต้องเรียนรู้องค์ประกอบของขั้นพื้นฐานให้ดีก่อนที่เราจะคาดหวังผลงานอย่างสม่ำเสมอ โดยหลักการที่ฟังดูมีน้ำหนักและน่าเรียนรู้มากที่สุดสำหรับผมคือทฤษฏี 2 ข้อของ เดฟ เพ๊ลซ์ คือ
บทเรียนที่หนึ่ง : จำเอาไว้เลยว่า"ลูกที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วจะเลี้ยวน้อยกว่าลูกที่เคลื่อนที่ช้าเสมอ" พูดง่ายๆคือ "การพัตต์แรงลูกจะมีโอกาสเฉไฉออกนอกลู่นอกทางได้ยากกว่าการพัตต์เบา” และนี่คือคำตอบว่าทำไมในระยะไม่เกิน 6 ฟุต นักกอล์ฟอาชีพที่เราเห็นในทีวีมักจะเลือกการพัตต์ชาจ์ตไปที่ขอบหลังหลุมมากกว่าการพัตต์ให้ลูกหยดลงหลุมพอดี
บทเรียนที่สอง : "การให้น้ำหนักกับการให้ไลน์มักจะมาคู่กันเสมอ" โดยทั่วไปแล้วก็มีให้เลือกอยู่ 3 แบบด้วยกันคือ
1.High Road หมายถึงการพัตต์ที่ให้ไลน์เยอะมาก พัตต์เบาๆ ปล่อยให้เนินข้างมีโอกาสทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนมากจะเหมาะกับสภาพกรีนที่เร็ว หรืออยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องพัตต์ลงเนิน
2.Low Road หมายถึงการพัตต์ที่ให้ไลน์น้อยแล้วพัตต์ยิง(พัตต์แรง) การพัตต์ลักษณะนี้เหมาะสำหรับกรีนที่ไม่ไวมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกอยู่ในไลน์ที่ต้องพัตต์ขึ้นเนิน
3.Middle Road หมายถึงการพัตต์แบบเผื่อไลน์กึ่งกลางระหว่าง 2 ข้อแรกและสโตรกลูกด้วยน้ำหนักปานกลาง กล่าวคือ "Perfect Putt” นั่นเอง โดยข้อนี้เป็นข้อที่ เดฟ เพ๊ลซ์ แนะนำว่าเหมาะกับการพัตต์ในไลน์ sidehill ที่สุด เนื่องจากโอกาสเสียหายมักจะน้อยกว่า 2 ข้อแรก
อย่าปล่อยให้ความฟังดูดีของ "Perfect Putt" ทำให้เราพัตต์เป็นแต่ Middle Road อย่างเดียวนะครับ เราน่าจะเป็นคนที่พัตต์ได้ทั้ง 3 วิธี ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ ลูกเราอยู่ในสภาพใดและเล่นอย่างไรถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อไหร่ก็ตามที่ไลน์ไม่ยากและเลือกได้มากกว่า 1 วิธี เราก็จะได้เลือกวิธีที่เราชอบมากที่สุด คำตอบสุดท้ายของเราควรจะเป็นวิธีปฏิบัติที่เราทำได้จริง ไม่ใช่เพียงแค่เป็นทางเลือกที่ดูดีในทางทฤษฏี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ต้องมั่นใจกับสิ่งที่เราได้เลือกไปแล้ว” อย่าทำอะไรครึ่งๆกลางๆ เลือกพัตต์วิธีไหนก็ทำตามนั้น มิเช่นนั้นแล้วเปอร์เซ็นต์ที่ลูกจะไปนอนสงบนิ่งในหลุมแทบจะเป็นศูนย์
ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วนะครับว่า "ความมั่นใจ" เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเล่นลูกสั้น โดยเฉพาะการพัตต์ที่เราต้องมั่นใจกับไลน์ที่เราให้ไป ถ้าในไลน์ปกติแล้วหากเราผิดพลาดนิดหน่อยก็ยังพอให้อภัยกันได้ อาจจะหยดลงข้างหลุมบ้าง หรือวนไปลงหลังบ้านกันบ้าง แต่เคยสังเกตกันไหมครับว่าเวลาเราต้องพัตต์ไลน์ sidehill หรือว่าไลน์ที่มีเนินอยู่ข้างใดข้างหนึ่งระหว่างทาง เรามักจะหวังทำพัตต์เดียวได้น้อยกว่าไลน์ปกติเนื่องจากเป็นไลน์ที่ยากกว่า อาจจะเกิดจากการให้น้ำหนักผิดบ้าง ไลน์ไม่ถูกบ้าง หรือบางทีอาจให้ไลน์ถูก แต่น้ำหนักผิด แม้กระทั่งอาจจะให้น้ำหนักถูกแต่ไลน์ผิด พูดง่ายๆก็คือทั้ง “น้ำหนัก” และ “ส่วนสูง” จะต้องมาพร้อมกันนั่นเอง
แล้วเราจะทำอย่างไรที่จะสามารถเพิ่มความหวังหรือเปอร์เซนต์ในการพัตต์ไลน์ sidehill ให้มีโอกาสลงมากขึ้น? เราก็ต้องเรียนรู้องค์ประกอบของขั้นพื้นฐานให้ดีก่อนที่เราจะคาดหวังผลงานอย่างสม่ำเสมอ โดยหลักการที่ฟังดูมีน้ำหนักและน่าเรียนรู้มากที่สุดสำหรับผมคือทฤษฏี 2 ข้อของ เดฟ เพ๊ลซ์ คือ
บทเรียนที่หนึ่ง : จำเอาไว้เลยว่า"ลูกที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วจะเลี้ยวน้อยกว่าลูกที่เคลื่อนที่ช้าเสมอ" พูดง่ายๆคือ "การพัตต์แรงลูกจะมีโอกาสเฉไฉออกนอกลู่นอกทางได้ยากกว่าการพัตต์เบา” และนี่คือคำตอบว่าทำไมในระยะไม่เกิน 6 ฟุต นักกอล์ฟอาชีพที่เราเห็นในทีวีมักจะเลือกการพัตต์ชาจ์ตไปที่ขอบหลังหลุมมากกว่าการพัตต์ให้ลูกหยดลงหลุมพอดี
บทเรียนที่สอง : "การให้น้ำหนักกับการให้ไลน์มักจะมาคู่กันเสมอ" โดยทั่วไปแล้วก็มีให้เลือกอยู่ 3 แบบด้วยกันคือ
1.High Road หมายถึงการพัตต์ที่ให้ไลน์เยอะมาก พัตต์เบาๆ ปล่อยให้เนินข้างมีโอกาสทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนมากจะเหมาะกับสภาพกรีนที่เร็ว หรืออยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องพัตต์ลงเนิน
2.Low Road หมายถึงการพัตต์ที่ให้ไลน์น้อยแล้วพัตต์ยิง(พัตต์แรง) การพัตต์ลักษณะนี้เหมาะสำหรับกรีนที่ไม่ไวมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกอยู่ในไลน์ที่ต้องพัตต์ขึ้นเนิน
3.Middle Road หมายถึงการพัตต์แบบเผื่อไลน์กึ่งกลางระหว่าง 2 ข้อแรกและสโตรกลูกด้วยน้ำหนักปานกลาง กล่าวคือ "Perfect Putt” นั่นเอง โดยข้อนี้เป็นข้อที่ เดฟ เพ๊ลซ์ แนะนำว่าเหมาะกับการพัตต์ในไลน์ sidehill ที่สุด เนื่องจากโอกาสเสียหายมักจะน้อยกว่า 2 ข้อแรก
อย่าปล่อยให้ความฟังดูดีของ "Perfect Putt" ทำให้เราพัตต์เป็นแต่ Middle Road อย่างเดียวนะครับ เราน่าจะเป็นคนที่พัตต์ได้ทั้ง 3 วิธี ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ ลูกเราอยู่ในสภาพใดและเล่นอย่างไรถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อไหร่ก็ตามที่ไลน์ไม่ยากและเลือกได้มากกว่า 1 วิธี เราก็จะได้เลือกวิธีที่เราชอบมากที่สุด คำตอบสุดท้ายของเราควรจะเป็นวิธีปฏิบัติที่เราทำได้จริง ไม่ใช่เพียงแค่เป็นทางเลือกที่ดูดีในทางทฤษฏี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ต้องมั่นใจกับสิ่งที่เราได้เลือกไปแล้ว” อย่าทำอะไรครึ่งๆกลางๆ เลือกพัตต์วิธีไหนก็ทำตามนั้น มิเช่นนั้นแล้วเปอร์เซ็นต์ที่ลูกจะไปนอนสงบนิ่งในหลุมแทบจะเป็นศูนย์