ASTVผู้จัดการรายวัน- เจ้าภาพร่วม ยูเครน คว้าชัยแรกในประวัติศาสตร์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยูโร 2012 กลุ่ม ดี นัด 2 คืนวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายนนี้ เตรียมเจอของจริงกับ ฝรั่งเศส ขณะที่ อังกฤษ เตรียมเปิดเกมรุกทำให้มีโอกาสสูงที่จะส่ง สวีเดน กลับบ้านถ้าหากพ่ายแพ้เป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน
ฝรั่งเศส-ยูเครน เวลา 23:00น.
ฝรั่งเศส ยืดสถิติไม่แพ้ใครออกไปเป็น 22 นัดติดต่อกัน หลังนัดแรกได้ลูกยิงสุดคมของ ซาเมียร์ นาสรี ตีเสมอ อังกฤษ 1-1 อย่างไรก็ตาม เกมนี้ โลร็องต์ บลองก์ ต้องเจอบททดสอบกับเจ้าภาพร่วม ยูเครน เพราะ “ตราไก่” ยังไม่ชนะแมตช์ระดับทัวร์นาเมนต์เลยนับตั้งแต่ปี 2006 เนื่องจาก ยูโร 2008 และฟุตบอลโลก 2010 ตกรอบแรกทั้งคู่ โดยน่าจะใช้ 11 ผู้เล่นจากเกมแรกแม้ว่าช่วงต้นจะดูเกร็งไปบ้าง แต่พอจับจังหวะได้การต่อบอลก็ไหลลื่นคุมเกมได้ทั้งหมด จะมี คาริม เบนเซมา ฟรองค์ ริเบรี และ นาสรี เป็นแกนหลัก ส่วน โยฮัน กาบาย กองกลางตัวรับลงแทน ยานน์ เอ็ม'วีลา ที่บาดเจ็บทำผลงานได้น่าประทับใจจะยืนคู่กับ อาลู ดิยาร์รา ต่อไป
ฟาก ยูเครน นัดแรกต้องชมหัวจิตหัวใจที่พลิกชนะ สวีเดน 2-1 จนได้ใจแฟนบอลเจ้าถิ่นด้วยการเหมายิงของ อังเดร เชฟเชนโก หอกวัย 35 ปี ทว่า เกมนี้จะต้องเจอกับ ฝรั่งเศส โอเล็ก บล็อกคิน กุนซือแม้อยากจะปรับเปลี่ยนทัพ แต่คงทำไม่ได้มาก เนื่องจากตัวเลือกที่ม้านั่งสำรองมีน้อยคงใช้ 11 ผู้เล่นเฉกเช่นเดียวกับเกมแรกนำโดยคู่หน้า อังเดร โวโรนิน กับ เชฟเชนโก ที่เข้าขารู้ใจด้วยวัยใกล้กัน กองกลางหัวใจสำคัญจะอยู่ที่ อนาโนลี ติมอสชุค โดยมีตัวรุกดาวรุ่งที่น่าจับตามองอย่าง อังเดร ยาร์โมเลนโก แม้เกมแรกจะยังฉายแววไม่เด่นนักก็ตาม
ความน่าจะเป็นของเกม- ฝรั่งเศส มีปัญหาเพราะว่า เบนเซมา ตำแหน่งหน้าเป้าชอบถอยลงมาต่ำทำให้เปิดบอลเข้าเขตโทษแล้วไม่มีคนเข้าทำ จึงอาจจะต้องพึ่งความสามารถเฉพาะตัวของ นาสรี และ ริเบรี ในการเข้าทำ ส่วน ยูเครน มีแรงฮึดจากเสียงเชียร์แต่เจอกับเกมรับเหนียวแน่นน่าจะเจาะเข้าไปยาก “ตราไก่” จึงมีสิทธิ์เฮ 2-0
อังกฤษ-สวีเดน เวลา 01:45น.
ยุคคุมทัพ รอย ฮอดจ์สัน สไตล์ชวนง่วงเน้นเกมรับเหนียวแน่นหนึบ จนกระทั่งได้ 1 แต้มจากการยันเสมอ ฝรั่งเศส 1-1 อย่างไรก็ตาม เกมนี้มีการเปรยว่า อังกฤษ จะบุก บุก และก็บุก เพื่อเก็บ 3 แต้ม จะได้ไม่ต้องเหนื่อยในนัดสุดท้ายกับเจ้าภาพ ยูเครน ทว่า คงมีการปรับเปลี่ยนส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางจากค่าย ลิเวอร์พูล ประสานงาน สตีเวน เจอร์ราร์ด กับ สกอตต์ ปาร์เกอร์ เพื่อความสมดุลมากขึ้น ทำให้ต้องถอด อเล็กซ์-อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ปีกดาวรุ่งวัย 18 ปี ที่ได้สตาร์ทเกม แนวรุกแม้ว่า แดนนี เวลเบ็ค และ แอชลีย์ ยัง 2 แข้งจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะถูกสื่อผู้ดีจวบยับ แต่คงได้จับคู่ต่อไปด้วยเหตุผลความเข้าขารู้ใจที่มาจากสังกัดเดียวกัน ส่วน เวย์น รูนีย์ กองหน้าจะชดใช้โทษแบนเป็นนัดสุดท้าย
สวีเดน พลิกพ่าย ยูเครน 1-2 อย่างสุดช็อกหลังโดนยิง 2 ประตู ภายใน 7 นาที ดังนั้น ถ้า เอริค แฮมเรน ไม่อยากตกรอบแรกเหมือนเมื่อ 4 ปีก่อน คงจะต้องมีการปรับทัพพอสมควร โดยจะส่ง อันเดอร์ส สเวนส์สัน กองกลางจอมเก๋าวัย 35 ปี ที่คุ้นเคยกับฟุตบอลอังกฤษเคยเล่นให้กับ เซาแธมป์ตัน เป็นตัวจริง รวมถึงกองหน้าที่ไม่ได้แสดงศักยภาพยิงถึง 31 ประตู ในรอบคัดเลือกออกมาได้เลย ทำให้ โยฮัน เอลมานเดอร์ จะได้ลงมาประสานงานกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช โดยอาจจะแทน มาร์คุส โรเซนเบิร์ก ที่เล่นไม่ออกในเกมแรก
ความน่าจะเป็นของเกม- แม้จะยิง ฝรั่งเศส มาได้แต่เกมรุกของ อังกฤษ ยังไม่ประสานกันเป็นเนื้อเดียวต้องดูว่าเกมนี้บุกแล้วจะทำได้ดีแค่ไหน ซึ่งก็มีลุ้นเพราะว่าเกมรับของ สวีเดน พลาดง่ายเหลือเกิน ดูจากนัดแรก รวมถึงหากสามารถจับตาย ซลาตัน ได้ เป็นอันจบข่าว กองกลาง 5 คนของ “สิงโตคำราม” น่าจะกดคู่แข่งจนบุกไม่ขึ้นสุดท้ายน่าจะยิงได้สัก 1-0