มาริโอ โกเมซ กองหน้าของเยอรมนี จัดการยิงคนเดียว 2 ประตู ช่วย "อินทรีเหล็ก" เอาชนะ "อัศวินสีส้ม" เนเธอร์แลนด์ 2-1 ในศึกฟุตบอลยูโร 2012 นัดสองของกลุ่มบี เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ เนเธอร์แลนด์ ต้องพึ่งปาฏิหาริย์นัดสุดท้ายหากหวังเข้ารอบ
ฟุตบอลยูโร 2012 รอบสุดท้าย กลุ่มบี
เนเธอร์แลนด์ 1-2 เยอรมนี
เกมคู่สุดท้ายของวัน ที่สนามเมตัลลิสต์ สเตเดียม บิ๊กแมตซ์ เนเธอร์แลนด์ บ๊วยของตาราง ลงสนามเจอกับ เยอรมนี เกมนี้ เบิร์จ ฟาน มาร์ไวจ์ นายใหญ่อัศวินสีส้ม ยังไว้ใจให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ลงล่าตาข่ายเป็นตัวจริงแม้นัดแรกโชว์ฟอร์มไม่ออก และได้ เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ มาประจำการแดนกลางอีกครั้ง ส่วนฝั่งของ โยอาคิม เลิฟ จัดทัพอิงชุดเดิม ใช้ มาริโอ โกเมซ เป็นกองหน้า และมี เมซุต โอซิล คุมเกมแดนกลาง
เปิดฉากมา 5 นาที เนเธอร์แลนด์ ได้ลุ้นก่อนจากโอกาสทองของ ฟาน เพอร์ซี ที่ได้จังหวะหลุดเข้าไปยิงประตูแบบไม่มีตัวประกบ แต่ นอยเออร์ ยังเหนียวเซฟประตูช่วยทีมได้หวุดหวิด จากนั้นนาที 10 ร็อบเบน แทงทะลุช่องให้ ฟาน เพอร์ซี ได้ยิงอีกครั้ง แต่ยังไม่ผ่านมือของ นอยเออร์ เหมือนเดิม
ขุนพลดัตซ์แมน คุมเกมได้แทบอยู่หมัดในช่วง 20 นาทีแรก เพียงแต่ยังเจาะพื้นที่สุดท้ายของทีมอินทรีเหล็กไม่ได้ แต่แล้วนาที 23 กลายเป็น เยอรมนี ที่บุกน้อยกว่า ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ชไวน์สไตเกอร์ แทงทะลุช่องให้ โกเมซ วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงผ่านมือของ สเตเคเลนเบิร์ก เข้าไปอย่างง่ายดาย
นาที 31 โกเมซ เกือบบวกลูกที่สองของตัวเองในเกมนี้ได้ หลัง มุลเลอร์ จ่ายตัดเข้ากลางให้พุ่งเข้ามาชาร์จ แต่วิ่งโฉบเข้ามาไม่ทันบอลผ่านหน้าประตูไป ส่วนนาที 35 มุลเลอร์ โดน ฟาน เดอ วีล สะกิดล้มตรงเส้นข้าง กลายเป็นเยอรมนี ได้ฟรีคิก โอซิล วางยาวเข้ามาให้ บาดสตูเบอร์ โหม่งจ่อๆระยะไม่เกิน 5 หลา แต่ สเตเคเลนเบิร์ก โชว์ซูเปอร์เซฟช่วยทีมไว้ได้
แต่แล้วนาที 37 ขุนพลอินทรีเหล็ก ได้ประตูทิ้งห่างตามต้องการ จากการประสานงานอันยอดเยี่ยมของคู่หูจาก บาเยิร์น มิวนิค ชไวน์สไตเกอร์ แทงทะลุช่องให้ โกเมซ ยิงยัดผ่านเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม 2-0 แม้ช่วงท้ายครึ่งแรก เยอรมนี เล่นเจาะแนวรับของเนเธอร์แลนด์อย่างต่อเนื่อง แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก เยอรมนี ออกนำ เนเธอร์แลนด์ 2-0
ครึ่งหลัง เบิร์จ ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือเนเธอร์แลนด์ แก้เกมเร่งด่วนส่ง ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท และ คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ ลงสนามมาแทน ฟาน บอมเมล และ อเฟลลาย เพื่อทวงประตูให้ได้เร็วที่สุด และเป็นอัศวินสีส้ม ที่เล่นได้ดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังเจาะพื้นที่สุดท้ายไม่ได้ ส่วน เยอรมนี นาที 52 ฮุมเมลส์ ได้โอกาสยิงสองครั้งสองครา แต่ สเตเคเลนเบิร์ก เซฟเอาไว้ได้ทั้งหมด
นาที 57 เนเธอร์แลนด์ หวิดตีไข่แตก ร็อบเบน จ่ายเข้ากลางให้ ฟาน เพอร์ซี ตวัดยิงด้วยซ้าย แต่ไม่ผ่านมือ นอยเออร์ เท่านั้นไม่พอ นาที 61 สไนจ์เดอร์ ที่รับบอลสั้นต่อจาก ฟาน เพอร์ซี บริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย ตัดสินใจลากบอลเข้ากลางและยิงไกลด้วยขวาเต็มข้อ แต่บอลเลี้ยงออกเสาสองไปแบบน่าเสียดาย
ขุนพลฟลายอิง ดัตช์แมน เปิดหน้าบุกหวังเอาประตูอย่างหนัก นาที 70 ร็อบเบน ไหลบอลในเขตโทษให้ สไนจ์เดอร์ กดเต็มข้อแต่ไปติดตัว บัวเต็ง เล่นเอานอนจุกคาสนาม ส่วนขุนพลอินทรีเหล็ก ถอด โกเมซ ออก แล้วส่ง มิโรสลาฟ โคลเซ ลงมาแทน แต่ไม่ทันไร เนเธอร์แลนด์ ยิงตีไข่แตกได้สำเร็จ ฟาน เพอร์ซี ลากขึ้นมาจากด้านซ้ายก่อนซัดด้วยขวาบอลตุงตาข่ายไล่มาเป็น 1-2
ท้ายเกม เนเธอร์แลนด์ ส่ง เดิร์ค เคาท์ ลงมาแทน ร็อบเบน แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ส่วนก่อนหมดเวลา สเตเคเลนเบิร์ก ทำเหวอรับบอลไม่อยู่มือปล่อยให้ โคลเซ วิ่งขึ้นมาหวดแต่โชคยังดีบอลกลิ้งออกหลังไปก่อน แต่สุดท้ายไม่มีใครยิงเพิ่มได้ จบเกม "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี เอาชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1 เยอรมนี โอกาสเข้ารอบสดใสหลังมี 6 แต้มเต็ม ส่วน "อัศวินสีส้ม" โอกาสริบหรี่ นัดหน้า ต้องชนะ โปรตุเกสให้ได้อย่างน้อย 2 ประตู และลุ้น เดนมาร์ก แพ้ เยอรมนี ถึงจะเข้ารอบด้วยผลต่างประตูได้เสีย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เนเธอร์แลนด์ : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก, โยริส มาไธจ์เซน, จอห์น ไฮทิงกา, เยโทร วิลเลมส์, เกรกอรี ฟาน เดอ วีล, ไนเจล เดอ ยองค์, มาร์ค ฟาน บอมเมล, อิบราฮิม อเฟลลาย, อาร์เยน ร็อบเบน, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, แม็ทส์ ฮุมเมลส์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, เฌอโรม บัวเต็ง, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ซามี เคดิรา, ลูคัส โพโดลสกี, โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, มาริโอ โกเมซ