มาริโอ โกเมซ หัวหอกบาเยิร์น มิวนิค โหม่งประตูชัยนาที 72 ช่วยให้ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี เฉือนชนะ "ฝอยทอง" โปรตุเกส 1-0 เก็บสามคะแนนสำคัญ ในการประเดิมสนามนัดแรก ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2012 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูโร 2012 รอบสุดท้าย กลุ่มบี
เยอรมนี 1 - 0 โปรตุเกส
เกมที่สนามลาวีฟ อารีนา ในเมืองลาวีฟ ประเทศยูเครน เยอรมนี อดีตแชมป์ 3 สมัย ฟาดแข้งกับ โปรตุเกส รองแชมป์ปี 2004 เกมนี้ โจอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ "อินทรีเหล็ก" จัดทัพ 4-5-1 มาริโอ โกเมซ ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า โดยมี โทมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล และ ลูคัส โพดอลสกี คอยสนับสนุน ทางฝั่ง "ฝอยทอง" ของกุนซือ เปาโล เบนโต วางระบบ 4-3-3 คริสเตียโน โรนัลโด ปีกจอมสับนำทัพ ขณะที่ หลุยส์ นานี หายเจ็บเท้าลงลากเลื้อยได้เช่นกัน
เริ่มเกมครึ่งแรกมา 2 นาที เยอรมนี ทักทายก่อน เจอโรม บัวเต็ง เติมเกมรุกขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนวางบอลเข้าไปในเขตโทษ โกเมซ โฉบมาโหม่งบอลเข้ามือ รุย ปาทริซิโอ นายด่านโปรตุเกส หลังจากนั้นนาที 9 โอซิล พลิกหนีผู้เล่นฝอยทอง ก่อนไหลบอลไปทางขวา มุลเลอร์ เปิดบอลเข้ากลาง บอลเลยไปถึง โพดอลสกี วิ่งมาซัดด้วยซ้าย แต่บดเกินไป ปาทริซิโอ รับสบาย
หลังจากนั้นทั้งสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวังจนไม่มีจังหวะลุ้นประตูแบบหวาดเสียว ด้าน โปรตุเกส ใช้การตั้งรับแล้วรอสวนกลับ แต่หาจังหวะจบสกอร์แบบชัดเจนไม่ได้ เยอรมนี พยายามต่อบอลจนมีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้งในนาที 30 โอซิล ทำเกมขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนผ่านเรียดเข้าเขตโทษ โพดอลสกี วางเท้ายิงเน้นๆ แต่เหินข้ามคานแบบไม่น่าเชื่อ
ฝอยทอง รอดจากการเสียประตูอีกครั้งในนาที 35 ซามี เคดิรา เปิดบอลจากกราบขวาเข้าไปในกรอบ 18 หลา บอลเลยไปทางเสาสอง โพดอลสกี วิ่งมาวอลเลย์แต่โดนไม่ดี บอลผ่านมาหน้าประตู มุลเลอร์ พยายามซ้ำดาบสอง แต่ก็แปหลุดเสาออกไปอีก หลังจากตั้งรับอยู่ฝ่ายเดียว โปรตุเกือบ เกือบทำประตูขึ้นนำในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกจากจังหวะเตะมุม เปเป เก็บตกบอลได้ในเขตโทษ แต่ยิงบอลไปชนคานกระดอนตกลงมาบนเส้นพอดีไม่เป็นประตู สุดท้ายทั้งสองทีมกินกันไม่ลงเสมอ 0-0 เมื่อจบครึ่งแรก
อินทรีเหล็ก ลงสนามมาบุกต่อในครึ่งหลัง นาที 46 โอซิล เปิดลูกเตะมุมมาเข้าหัว เคดิรา แต่ถูกกองหลังมาเบียดจึงโหม่งไม่ถนัด บอลหลุดกรอบออกไป ต่อมานาที 57 โปรตุเกส เสียบอลในแดนตัวเองถูก เยอรมนี ตัดไปได้ ก่อนที่ โพดอลสกี หยอดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายไปให้ โกเมซ โขกเหินข้ามคาน
โรนัลโด เกือบทำประตูนำให้ ฝอยทอง ในนาที 63 หลังได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะที่กำลังจะง้างเท้ายิงถูก บัวเต็ง ตามมาแย่บอลออกหลังไปแบบหวุดหวิด ม้านั่งสำรองของโปรตุเกสมีการขยับในนาที 70 เนลสัน โอลิเวียรา ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนที่ เฮลเดอร์ ปอสติกา ที่ไม่มีบทบาทในเกมนี้
แต่อีก 2 นาทีถัดมากลายเป็นแฟนบอลเมืองเบียร์ที่ได้เฮทั้งสนาม เมื่อทีมมาทำประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ เคดิรา เปิดบอลจากราบขวาไปในเขตโทษ บอลแฉลบกองหลัง แต่ลอยมาเข้าหัว โกเมซ พอดีจัดการโหม่งบอลย้อนผ่านตัว ปาทริซิโอ เข้าเสาแรกอย่างสวย หลังจากนั้นไม่กี่นาที โกเมซ ก็โดนเปลี่ยนตัวออก มิโรสลาฟ โคลเซ กองหน้าตัวเก๋าได้รับโอกาสลงมาล่าตาข่ายบ้าง
หลังจากเสียประตูทีมของเปาโล เบนโต พยายามบุกอย่างหนักเพื่อทวงคืน นาที 81 โรนัลโด ลากบอลมาสับไกยิงหน้าเขตโทษ บอลพุ่งซ้ายจน มานูเอล นอยเออร์ รับไม่อยู่ต้องปัดทิ้งออกหลัง อีก 2 นาทีถัดมา นานี เปิดบอลจากริมเขตโทษด้านขวา บอลเกือบมุมเสียบใต้คาน แต่ชนคานออกหลังไป
ก่อนจบเกม 3 นาที ฝอยทอง มีโอกาสทองที่จะตามตีเสมอ เวเรลา ผู้เล่นตัวสำรองอีกคนที่ลงมาแทน ราอูล เมเรเลส ตั้งแต่นาที 80 ได้บอลโล่งๆในกรอบเขตโทษ แต่ยิงไปติดเซฟ นอยเออร์ เอง สุดท้ายตามตีเสมอไม่สำเร็จทำให้จบเกม เยอรมนี เฉือนเอาชนะไป 1-0 เก็บสามคะแนนเท่ากับ เดนมาร์ก ที่เฉือนชนะ เนเธอร์แลนด์ 1-0 เช่นกัน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
เยอรมนี - มานูเอล นอยเออร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, แมตส์ ฮุมเมลส์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, เจอโรม บัวเต็ง, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ซามี เคดิรา, ลูคัส โพดอลสกี, โธมัส มุลเลอร์, มาริโอ โกเมซ, เมซุต โอซิล
โปรตุเกส - รุย ปาทริซิโอ, บรูโน อัลเวส, เปเป, ฟาบิโอ โคเอนเทรา, เจา เปไรรา, มิเกล เวโลโซ, เจา มูตินโญ, ราอูล เมเรเลส, คริสเตียโน โรนัลโด, เฮลเดอร์ ปอสติกา, นานี
