“โด้” โดดเดี่ยว “อินทรี-ดัตช์” ลิ่วกรุ๊ปออฟเดธ

ASTVผู้จัดการรายวัน - “ฝอยทอง” โปรตุเกส หากพึ่งพา คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ได้เพียงคนเดียว เห็นทีคงฝ่าด่าน “กรุ๊ป ออฟ เดธ” ของศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2012 ลำบาก เนื่องจากกลุ่มบี มีตัวเต็งอย่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี รวมถึง “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ เป็นขวากหนามสำคัญ ขณะที่ เดนมาร์ก หนนี้สู้เต็มที่ไม่มีอะไรจะเสีย

โปรตุเกส
เป็นเพียงชาติเดียวในกลุ่มนี้ที่ยังไม่ได้สัมผัสโทรฟี “อองรี เดอโลเนย์” ใกล้เคียงสุด คือ การได้รองแชมป์ครั้งเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2004 ดังนั้น พลพรรค “ฝอยทอง” หมายมั่นปั้นมือสร้างเกียรติประวัติให้ได้ในปีนี้ โดย โปรตุเกส ภายใต้การคุมทัพของ เปาโล เบนโต อุดมไปด้วยแข้งพรสวรรค์ ชื่อชั้นไม่เป็นรองใคร ทว่า มารวมกันยังหาความลงตัวไม่เจอ แนวรุกพึ่งพา คริสเตียโน โรนัลโด เกินไป หลุยส์ นานี ถ้าเล่นดีก็ดีใจหาย วันไหนแย่ทีมย่อมเผชิญวิกฤต อีกทั้ง เฮลเดอร์ ปอสติกา และ ฮูโก อัลเมย์ดา ไม่ใช่ศูนย์หน้าตัวเป้าประเภทโป้งเดียวปิดบัญชี ดังนั้น ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากแผงกลาง อย่างไรก็ตาม เจา มูตินโญ, ราอูล เมเรยเลส และ มิเกล เวโลโซ เป็นพวกไล่บอลมากกว่าที่จะสร้างสรรค์เกม ที่สำคัญ โปรตุเกส ยังมีปัญหาแนวรับที่พลาดเสียประตูง่ายเกินไป บรูโน อัลเวส, โรลันโด หรือว่า ริคาร์โด คอสตา ใครจะเข้าคู่ เปเป้ ได้นิ่งกว่ากัน นั่นยังเป็นคำถามตัวโต

เยอรมนี
อายุเฉลี่ยนักเตะ (24.5 ปี) น้อยที่สุดในยูโร ครั้งที่ 14 อย่างไรก็ดี “อินทรีเหล็ก” ได้แชมป์ยูโรมากที่สุด 3 สมัย ดูเหมือนสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมนี (เดเอฟเบ) เสี่ยงถ่ายเลือดครั้งใหญ่ตั้งแต่ตกรอบแบ่งกลุ่มเมื่อปี 2004 ได้ผล เมื่อทีมคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลกปี 2006 และ 2010 เป็นรองแชมป์ยุโรปเมื่อ 4 ปีก่อน คราวนี้ขุมกำลังที่ โยอาคิม เลิฟ บ่มเพาะเติบโตเต็มที่ แนวรุกจัดจ้าน เมซุต โอซิล, ลูคัส โพดอลสกี, มาริโอ โกเมซ ประสานเข้าขา แถมยังมี มาร์โก รอยส์, อังเดร ชูร์เล และ มาริโอ เกิทเซ แข่งขันแย่งตำแหน่งลงมาป่วนทุกเมื่อ แม้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ไม่ฟิตเต็มร้อย แต่บุนเดสเทรนเนอร์สามารถถอย โทนี โครส ไปช่วย ซามี เคดิรา ในตำแหน่งตัวตัดเกมได้อย่างไม่เขอะเขิน อย่างไรก็ตาม เยอรมนี ต้องปรับจูนแนวรับให้เข้าที่อีกสักนิด มัตส์ ฮุมเมลส์ เด่นกับ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ทว่า ยังจับคู่ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ไม่เนียนตา

เนเธอร์แลนด์
นับตั้งแต่ “3 ทหารเสือ” แฟรงค์ ไรจ์การ์ด, รุด กุลลิต และ มาร์โก แวน บาสเทน ระเบิดฟอร์มนำ “อัศวินสีส้ม” ครองแชมป์ยูโรสมัยเดียวในประวัติศาสตร์ เมื่อปี 1988 การรอคอยของแฟนบอลชาวดัตช์ถึงความสิ้นสุดลงหรือยัง ในเมื่อทีมมีพัฒนาการดีขึ้นเป็นลำดับ ขุมกำลังหลักจากชุดเป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อปี 2010 ยังอยู่กันครบทั้ง มาร์ค ฟาน บอมเมล, ไนเจล เดอ ยองก์, เวสลีย์ สไนเดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ภายใต้ระบบ 4-2-3-1 เกมรุก เนเธอร์แลนด์ ขับเคลื่อนได้น่าตื่นตาตื่นใจ อย่างไรก็ตาม เกมรับยังมีเรื่องให้ต้องสงสัยในเมื่อ ยอริส มาไธจ์เซน ไม่สมบูรณ์ ใครจะมาเข้าคู่ จอนนี ไฮติงกา ระหว่าง รอน ฟลาร์, คาลิด บูลาห์รุซ หรือว่า วิลเฟรด เบามา ขณะที่แบ็กซ้ายต้องพึ่งพา เยโตร วิลเลมส์ นักเตะพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ซึ่งอายุเพียง 18 ปี อย่างนั้นหรือ

เดนมาร์ก
สร้างตำนานเทพนิยายเดนส์ เป็นมวยแทน ยูโกสลาเวีย ขึ้นไปผงาดแชมป์ยูโร 1992 ทว่า หนนี้ สาวก “โคนม” ต้องภาวนาให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นซ้ำสอง ในเมื่อถูกจัดให้มาอยู่ในกลุ่มแห่งความตาย โดย เดนมาร์ก ยุคปัจจุบันภายใต้การคุมบังเหียนของ มอร์เทน โอลเซน อยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่ ดาเนียล วาสส์ แบ็กซ้ายจาก เอวิยอง หรือว่า คริสเตียน เอริคเซน ปีกเนื้อหอม อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม เตรียมพิสูจน์ฝีมือในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ทีมคงต้องอาศัยห้องเครื่องเก๋าๆ อย่าง เดนนิส รอมเมดาห์ล, คริสเตียน โพลเซน และ โธมัส คาห์เลนเบิร์ก ประคับประคอง แนวรับ ดาเนียล แอ็กเกอร์ ต้องสอดรับ ไซมอน เคียร์ ที่กระดูกยังไม่แข็งให้ดี ส่วนแดนหน้า นิคลาส เบนด์ทเนอร์ เป็นหัวใจในการทำประตู แต่สิ่งที่น่าห่วงที่สุดสำหรับ เดนมาร์ก คือ การที่ โธมัส โซเรนเซน บาดเจ็บ ยังต้องชั่งใจ โอลเซน ว่า จะมอบภาระปราการด่านสุดท้ายให้ใครเฝ้าระหว่าง สเตฟาน แอนเดอร์เซน หรือ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด

ทำนายชาติที่เข้ารอบ : เยอรมนี กับ เนเธอร์แลนด์