คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
ขอปรบมือให้ดังๆ กับทีมคนหนุ่มไฟแรง โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ที่ฝ่าด่าน ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส เป็นตัวแทนฝั่งตะวันตก เข้าไปลุ้นแชมป์ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ประจำฤดูกาล 2011/12 ซึ่งไม่ว่าคู่ต่อกรจะเป็นใครระหว่าง บอสตัน เซลติกส์ หรือ ไมอามี ฮีท งานนี้ชาวเมืองโอกลาโฮมา มีโอกาสได้เห็นขบวนพาเหรดแห่ “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” ไม่น้อยเลยทีเดียว
จากที่ตามหลัง 0-2 แถมเจอทีมเก๋าอย่าง ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ซึ่งกรีธาทัพกวาดชัยมา 20 เกมติด เป็นสถิติใหม่ NBA ทว่าที่สุดแล้ว สกอตต์ บรูกส์ สามารถสะกิดต่อมความฮึกเหิมของลูกทีมได้ดีกว่า เกร็ก โพโพวิช ขณะที่ เควิน ดูแรนท์ ถึงจะชวดตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่าฤดูกาลปกติ แต่สำหรับรอบชิงแชมป์ประเทศแล้ว หากฟอร์มไม่ตกไปจากเดิมจนน่าเกลียด เกียรติยศ MVP ย่อมไม่หนีไปไหน
ถึงวันที่คอลัมน์ตอนนี้ถูกตีลงหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน ฉบับศุกร์ที่ 8 มิถุนายน 2555 “โอเคซี” อาจรู้แล้วว่าคู่แข่งเป็นใคร กรณี บอสตัน เซลติกส์ เปิด ทีดี การ์เดน ปิดซีรีส์รอบชิงอีสต์เทิร์น คอนเฟอเรนซ์ ลงได้ ซึ่งหากเจอ เซลติกส์ ต้องบอกว่า ธันเดอร์ มีโอกาสเขยิบใกล้แชมป์สมัยที่ 2 ต่อจากเมื่อปี 1979 ที่ ซีแอตเติล ซูเปอร์โซนิกส์ (ชื่อเดิม) เคยพิชิต วอชิงตัน บุลเลตต์ส ในเมื่อ ด็อกซ์ ริเวอร์ส จะเอาใครมาประกบ ดูแรนท์ ตามตำแหน่งต้องเป็น พอล เพียร์ซ แต่ที่ผ่านมากัปตันวัย 34 ปี มีปัญหาในการประกบ เลอบรอน เจมส์ ยิ่งมาเจอ “เคดี” ที่ทั้งสดทั้งคล่องบวกแม่น จึงอดห่วงไม่ได้จริงๆ
ส่วนการดวลกันระหว่าง รัสเซล เวสต์บรูก กับ ราจอน รอนโด น่าสนใจดีแท้ รอนโด มีโพสต์ซีซันที่ยอดเยี่ยมยิ่ง แต่การเจอ เวสต์บรูก ที่ความไวไม่ต่างกัน ถือเป็นบทพิสูจน์ของ รอนโด อย่างแท้จริง ขณะที่วงใน เควิน การ์เน็ตต์ แบกแฟรนไชส์มาตลอดในบทบาท “เซ็นเตอร์จำเป็น” หนนี้ หากเจอ เคนดริก เพอร์กินส์ เพื่อนเก่าได้บดกันมันแน่ อย่างไรก็ดี อย่าลืมว่า “โอเคซี” ยังมี เซิร์จ อิบากา ที่โดดเด่นเกมรับอีกคน ด้าน เจมส์ ฮาร์เดน สมราคาสำรองยอดเยี่ยมแห่งปี ลงสนามทีไรได้เรื่องทุกที ถ้า ริเวอร์ส ปรับแทกติกแก้หมากไม่ขาด เกิดแพ้ทั้งหมดในขุมกำลังข้างต้น จะไปพึ่งพา เรย์ อัลเลน มือปืนจอมเก๋าคงลำบาก ด้วยเหตุมีอาการบาดเจ็บข้อเท้ากวนใจ จังหวะขึ้นลำส่องไกลไม่แม่นเหมือนเดิม
แล้ววิถีทางใดที่ เซลติกส์ จะฝ่าด่าน ธันเดอร์ ไปถึงแชมป์สมัยที่ 18 ตามทฤษฎี ทีมที่มีประสบการณ์แชมป์ย่อมเป็นต่อหรือเป็นรองก็ไม่เยอะ แบรนดอน แบสส์ และ มิคาเอล ปิเอตรุส สามารถนำบทเรียนที่บ้อท่ากับ ออร์แลนโด แมจิก มาเป็นกำลังสนับสนุน “แฟนทาสติก โฟร์” ขณะเดียวกัน ริเวอร์ส ต้องกลับไปศึกษาเทป หาเหตุผลว่า ทำไม สเปอร์ส ที่มีเกมรับเหนียวภายใต้กึ๋นของ โพโพวิช โค้ชแห่งปียังศิโรราบให้ “โอเคซี” แล้วมาแก้ไขขันให้แน่น เกิดปล่อยให้คู่แข่งทำสกอร์เกิน 100 แต้ม โอกาสยูเทิร์นสู่เส้นทางแห่งชัยชนะย่อมยาก แม้ระบบรอบชิงเอื้อก็ตาม (ซีรีส์จะเปลี่ยนเป็น 2-3-2) คือ ไปเยือนโอกลาโฮมา 2 เกม และกลับสู่บอสตัน 3 เกมถัดมา
แต่ถ้าเป็นกรณี ธันเดอร์ ได้คู่ชิงเป็น ฮีท การต้องบดเคี่ยวกับเซลติกส์ ถึง 7 เกม สภาพร่างกายของลูกทีม เอริค สโปเอลสตรา อ่วมอรทัย ในเมื่อโปรแกรมซีรีส์สุดท้ายของฤดูกาล กำหนดเปิดฉาก 13 มิถุนายนนี้ตามวัน-เวลาประเทศไทย ต้องมาเช็กสภาพ คริส บอช ว่าคืนความฟิตได้มากน้อยแค่ไหนจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อท้อง เพราะขืนปล่อยให้ทีมเดินหน้าด้วยพลังของ เลอบรอน และ ดีเวย์น เหว็ด แค่สองคน งานนี้แฟนๆ ฮีทส่อต้องปวดร้าวซ้ำอีกปี โดยสิ่งที่ สโปเอลสตรา แก้ไม่ตกจริงๆ คือ ใครจะยืนเซ็นเตอร์ ไม่ว่ามอบภาระให้ใครทั้ง รอนนี ทูเรียฟ, โจเอล แอนโธนีย์ หรือปรับมาเล่นสมอลบอลให้ ยูโดนิส ฮาสเลม ขยับเข้ามาช่วย แต่ที่ผ่านมาโดน ทายสัน แชนด์เลอร์ (นิวยอร์ก นิกส์), รอย ฮิบเบิร์ต (อินเดียนา เพเซอร์ส) และ เค.จี.(เซลติกส์) ทับใส่ไม่บันยะบันยัง ขืนตัวช่วยมีอยู่กระปริดกระปรอยแค่นี้ ขอเชียร์ให้ เซลติกส์ เข้ามางัด “โอเคซี” คงดีกว่า ส่วนใครจะแชมป์แค่เหตุผลข้างต้นคงพอเห็นลางๆ