เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม 2555 เวลา 13.00 น.สมาคมฟันดาบสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ ได้จัดการประชุมประชาพิจารณ์ รวมทั้งแผนยุทธศาสตร์กีฬาฟันดาบ พ.ศ.2556-2560 ตามนโยบายฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ของการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยหวังพัฒนาวงการฟันดาบไทยสู่ระดับสากล ณ ห้องประชุมหอพัก 300 เตียง การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมี พลเรือเอก สมเดช ทองเปี่ยม นายกสมาคม เป็นประธานการประชุม
พลเรือเอก สมเดช ทองเปี่ยม นายกสมาคมฟันดาบสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมประชาพิจารณ์ แผนยุทธศาสตร์ พร้อมทั้ง พันเอก (พิเศษ) จักราวุธ โสมภีร์ เลขาธิการสมาคม และคณะกรรมการ นักกีฬา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมแผนยุทธศาสตร์ในครั้งนี้ โดยสาระสำคัญของการจัดการประชุมแผนยุทธศาสตร์ มุ่งหวังพัฒนากีฬาฟันดาบสู่ความเป็นเลิศ ให้ก้าวขึ้นสู่ระดับสากล และส่งเสริม พัฒนานักกีฬา รวมทั้งบุคลากรกีฬาฟันดาบให้อยู่ในระดับแถวหน้าของเอเชีย
ทั้งนี้ ท่านนายกสมาคม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว MGR Sports เกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์นี้ ว่า “ถือเป็นการปฏิวัติครั้งสำคัญของวงการกีฬาไทย คือ ภารกิจผูกพันที่เราต้องกำหนดทิศทาง และต้องนำผลสำเร็จให้เป็นรูปธรรมโดยทุกคนมีส่วนร่วม ทั้งสมาคม ผู้เล่น โค้ช และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆ คน”
“สำหรับแผนยุทธศาสตร์ในครั้งนี้ เป็นแผนยุทธศาสตร์ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย กำหนดให้สมาคมเป็นผู้จัดทำ อีกทั้งยังให้การสนับสนุนด้วยการจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะจะทำให้ทางเรามีความมั่นใจกับแผนยุทธศาสตร์ที่เราทำขึ้น เป็นการเรียนรู้สภาพแวดล้อมของกีฬาฟันดาบทั้งภายในประเทศและนานาชาติ ว่า เราวางเป้าหมายในอีก 5 ปี เราต้องการความสำเร็จขนาดไหน” พลเรือเอก สมเดช กล่าว
นอกจากนั้น ทางสมาคมยังได้เผยถึงเป้าหมายในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้าของกีฬาฟันดาบ ไว้ว่า “เป้าหมายที่เราวางไว้สูงสุด คือ การคว้าเหรียญกีฬาโอลิมปิกเหรียญใดเหรียญหนึ่ง รวมทั้งเหรียญรางวัลในระดับเอเชียและนานาชาติต่อไป ซึ่งทางการกีฬาแห่งประเทศไทยก็จะประเมินศักยภาพตามผลงานที่เราทำได้”
สมาคมฟันดาบสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เพิ่งจะพลาดหวังจากการที่นักกีฬาทั้ง 4 คน ได้แก่ “วิลลี” จ.ต.วีระเดช โคธนีย์ ในรุ่นเซเบอร์บุคคลชาย, ศิรวลัย สตารัตน์ ในรุ่นเซเบอร์บุคคลหญิง, นนทพัฒน์ ปานจันทร์ ในประเภทฟอยล์บุคคลชาย และ นันทา จันทสุวรรณสิน ในประเภทฟอยล์บุคคลหญิง ไม่ผ่านควอลิฟายไปโอลิมปิกที่ ลอนดอน ประเทศอังกฤษในปี 2012 นี้ได้เลย การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการปฏิวัติของวงการฟันดาบไทยให้ก้าวขึ้นมามีผลงานที่ดีอีกครั้ง
