เอเยนซี - จิม เออร์เซย์ เจ้าของทีมตัดสินใจล้างไพ่ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส แห่งศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เสียใหม่ หลังจบฤดูกาล 2011/12 จากผลงานชนะแค่ 2 แพ้ถึง 14 เกม ตระกูล “โพเลียน” บิลล์ และ คริส ในตำแหน่งผู้บริหารจึงต้องรับผิดชอบ ไล่เบี้ยถึง จิม คัลเวลด์ หัวหน้าโค้ช ก่อนตัดสินใจครั้งสำคัญไม่จ่ายเงินโบนัสเป็นสัญญาติดทีมแก่ เพย์ตัน แมนนิง เปิดทางให้ควอเตอร์แบ็กตำนานอำลาถิ่นลูคัส ออยล์ สเตเดียม ไปนำทัพ เดนเวอร์ บรองโกส์ โดยปริยาย
ดังนั้น “เกือกม้า” ต้องโขยกเดินหน้าไปกับ ชัค ปากาโน อดีตโค้ชทีมรับที่ไปดึงมานั่งแท่นเฮดโค้ช ไรอัน กริกสัน ได้โอกาสเข้ามาบริหารเรื่องผู้เล่น ซึ่งผู้จัดการทีมคนหนุ่มประเดิมผลงานด้วยการใช้สิทธิ “นัมเบอร์วันดราฟท์” ประจำปี 2012 ปักใส่ แอนดรูว์ ลัก ดึงขึ้นมาเป็นแม่ทัพคนใหม่ โดยผลงานที่ทิ้งท้ายให้มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด คือ การขว้างไป 3,517 หลา 37 ทัชดาวน์ เสียเพียง 10 อินเทอร์เซปต์
แน่นอนสาวกโคลต์ส ฝากความหวังมหาศาลไว้แก่ ลัก ทว่าควอเตอร์แบ็กดาวโรจน์วัย 22 ปี ฉลาดพอที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อของสื่อมะกันที่จับโยงให้เป็น “นิว เพย์ตัน แมนนิง” จากการให้สัมภาษณ์อย่างถ่อมตน ว่า “ไม่มีใครสามารถแทนที่ผู้ชายคนนี้ (แมนนิงผู้พี่ ดีกรีแชมป์ซูเปอร์โบว์ล 1 สมัย และเป็นผู้เล่นทรงคุณค่า หรือ MVP อีก 4 สมัย) ได้หรอก ผมต้องบ้าไปแน่ ถ้าพยายามนำตัวเองไปเทียบกับ เพย์ตัน แมนนิง แต่ผมเองจะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้สุดความสามารถ หากวันใดวันหนึ่งผมสามารถทำอะไรขึ้นไปเทียบเคียงกับฮีโร่ซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดผู้เล่นของ NFL ได้ นั่นก็หมายความว่าฝันของผมเป็นจริง”
โดย “บลีชเชอร์รีพอร์ต” สื่อดังยกย่องเปรียบ ลัก เหมือนกับ สตีฟ ยัง ตำนาน “คนตื่นทอง” ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ในเมื่อมีทั้งไอคิว ความสามารถถือบอลวิ่งเอง และทักษะของการขว้างบอลอันไร้ที่ติ อย่างไรก็ดี ลัก ย่อมต้องการความช่วยเหลืออย่างมากกับการเผชิญคู่แข่งตัวฉกาจในศึกคนชนคนช่วงปีแรก ซึ่ง กริกสัน จัดให้ชุดใหญ่เติมอาวุธครบมือให้จอมทัพ คอบี ฟลีเนอร์ คู่หูสแตนฟอร์ด และดีเวย์น อัลเลน อาจไม่ต้องถึงขั้น ร็อบ กรอนคาวสกี กับ แอรอน เฮอร์นานเดซ (นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์) แต่ขอให้ปีกในคนใดคนหนึ่งเปล่งประกายความเป็น ดัลลัส คลาร์ก สมัยยุครุ่งเรืองได้ก็พอ ขณะที่ ที.วาย.ฮิลตัน และ ลาวอน บราซิลล์ ถ้าโชคดีปีกนอกดาวรุ่งมีพรสวรรค์เหมือน ปิแอร์ การ์ซอง ถือว่า ลัก มีอ๊อปชั่นมากกว่าการเล็งขว้างให้เพียง เรจจี เวย์น คนเดียว ส่วนเกมบุกภาคพื้นดิน วิค บัลลาร์ด รันนิงแบ็กรุคกี้ต้องลงมาสลับวิ่งกับ โดนัลด์ บราวน์ ให้เด็ดดวง
ถึงอย่างไร ด้วยสภาพทีมที่เปลี่ยนแปลงไปเกือบทั้งหมด โอกาสที่ ลัก จะสร้างปรากฏการณ์ขว้างระเบิดระเบ้อดั่ง แคม นิวตัน จอมพลัง “เสือดำ” แคโรไลนา แพนเธอร์ส คงเป็นไปได้ยาก แต่หากทำผลงานได้เหมือนครั้งที่ เพย์ตัน แมนนิง ประเดิมสีเสื้อ “เกือกม้า” ด้วยการขว้างระดับ 3,700 หลา 26 ทัชดาวน์ พาแฟรนไชส์ชนะ 3 แพ้ 13 เกมเมื่อซีซัน 1998/99 เชื่อเหลือเกินว่าทั้ง เออร์เซย์, กริกสัน และเหล่ากองเชียร์น่าจะมีรอยยิ้มมุมปากแล้ว เพราะกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวฉันใด ทีม (อเมริกัน) ฟุตบอลก็ไม่สามารถสร้างความยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นภายในปีเดียวฉันนั้น
ดูเหมือน ลัก ต้องอดใจรอเกียรติยศส่วนตัวและส่วนรวมกันพักใหญ่ อย่าลืมว่าอัจฉริยะอย่าง แมนนิง ใช้เวลาถึง 8 ปีกว่าจะได้แหวนแชมป์ และ “วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี” มาเชยชม อีกทั้งที่สำคัญ ลัก ควรยึดแบบการดำเนินชีวิตที่ไม่ตกเป็นเป้าของสื่อมากนักดั่งฮีโร่ของเขา เพราะถ้าปล่อยให้เรื่องนอกสนามมารบกวนใจ มีตัวอย่างให้เห็นนักต่อนักกับ “นัมเบอร์วันดราฟท์” ที่ตกอับในบั้นปลาย หนึ่งในนั้นหนีไม่พ้น จามาร์คัส รัสเซลล์ อดีตดราฟท์คนแรกปี 2007 โดย โอคแลนด์ เรดเดอร์ส