เพย์ตัน แมนนิง ลั่นพร้อมนำ "ม้าป่า" เดนเวอร์ บรองโกส์ กลับมาลุ้นแชมป์ซูเปอร์โบว์ลอีกสมัย หลังเซ็นสัญญา 5 ปี รับค่าเหนื่อย 96 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.9 พันล้านบาท) มาเป็นผู้นำในถิ่นไมล์ ไฮ
หลังจากทดสอบการขว้างให้บอร์ดบริหารนำโดย จอห์น เอลเวย์ ตำนานแห่งศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) รวมทั้ง จอห์น ฟ็อกซ์ หัวหน้าโค้ช และทีมแพทย์ได้เห็นกันไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่สุดแล้ว เดนเวอร์ บรองโกส์ ก็ตัดสินใจเซ็นสัญญาคว้า เพย์ตัน แมนนิง ควอเตอร์แบ็กที่จะอายุครบ 36 ปี ในวันที่ 24 มีนาคมนี้มาร่วมทีม ด้วยการเบียดชนะ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส และเทนเนสซี ไตตันส์ โค้งสุดท้าย
โดยลักษณะสัญญาของ แมนนิง จะได้การันตีค่าจ้างในฤดูกาลหน้าจำนวน 18 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 540 ล้านบาท) แต่ไม่มีโบนัสเซ็นสัญญาติดทีม อีกทั้งว่าที่ผู้เล่นในหอเกียรติยศ (ฮอล ออฟ เฟม) ยังต้องผ่านการตรวจร่างกายในแต่ละซีซัน ก่อนได้รับค่าเหนื่อยกันไป
ซึ่ง แมนนิง ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า "ผมไม่ได้ทิ้ง 14 ปีกับโคลต์ส เสียทีเดียว เพราะนั่นยังมีความหมาย แต่ตอนนี้ผมอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ผมแค่ต้องการสร้างทีมนี้ (บรองโกส์) ทำบางสิ่งบางอย่างให้ได้ใน 2-3 ปีนี้ สถานการณ์ ณ ตอนนี้คือ เราจะทำบางอย่างเพื่อให้สามารถขึ้นไปเป็นแชมป์ ผมกำลังคิดถึงเรื่องนั้น"
ด้าน เอลเวย์ ผู้พา "ม้าป่า" โขยกแชมป์ซูเปอร์โบว์ล 2 สมัย เมื่อปี 1997-98 กล่าวถึงจอมทัพความหวังใหม่ของทีมด้วยว่า "ผมเชื่อว่า เพย์ตัน (แมนนิง) คือสุดยอด จึงไม่คิดว่าเป็นการเสี่ยงเลยเท่าที่รู้จัก เพย์ตัน มานาน ไม่มีปัญหาค้างคาใจอะไรเลย (เกี่ยวกับการกลับมาอีกครั้งหลังบาดเจ็บต้องผ่าตัดต้นคอ 4 หน)"
เมื่อถูกกระแซะถามถึงอนาคต ทิม ทีโบว์ ที่สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมานำทีมเข้าโพสต์ซีซัน ถึงรอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ หลังมีกระแสควอเตอร์แบ็กจอมวิ่งวัย 24 ปี อาจโดนเทรดจากการมาของ แมนนิง ซึ่ง เอลเวย์ เบี่ยงประเด็นตอบแค่ว่า "ทิม เป็นเด็กที่ยอดไปเลย ถ้าผมอยากได้ใครมาแต่งงานกับลูกสาวของผมสักคน นั่นคงเป็นเขา"
ขณะที่ ไบรอัน ซานเดอร์ส ผู้จัดการทั่วไปบรองโกส์ ทิ้งท้ายถึง "ทีโบว์มาเนีย" เช่นกันว่า "เขาเป็นผู้เล่นดราฟท์รอบแรก พาทีมเป็นแชมป์ดิวิชัน จากที่เราสตาร์ทชนะ 1 แพ้ 4 เกม แถมยังมีการันตีสัญญา ผมไม่เห็นอะไรไปนอกจากนั้น"
สำหรับ ทีโบว์ การอยู่ในไมล์ ไฮ ต่อไปไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ "เพดานเงินเดือน" (ซาลารีแคป) ใดๆ เพราะมีคิวรับค่าจ้างไล่เรียงดังนี้ ปี 2012 อยู่ที่ 1.942 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 58 ล้านบาท) ปี 2013 และปี 2014 รับเท่ากันที่ 2.59 ล้านเหรียญฯ (ราว 77 ล้านบาท)
