คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
ลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ทยอยประกาศมอบรางวัลสาขาต่างๆ โดย เกร็ก โพโพวิช โค้ชจอมเก๋าได้รับเกียรติยกให้เป็นหัวหน้าโค้ชยอดเยี่ยม หลังพา ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ชนะ 50 แพ้ 16 เกม เกือบดีที่สุดในลีก ทว่า เฮดทูเฮดดันแพ้ ชิคาโก บูลส์ แต่หากจะมอบรางวัล “ผู้เล่นซวยสุดแห่งปี” ผู้นั้นคงหนีไม่พ้น เดอร์ริค โรส ที่ซีซัน 2011/12 เจออาการบาดเจ็บแทรกซึมทุกอณูของร่างกาย
ก่อนหน้านี้ “ดี-โรส” มีปัญหาเจ็บหลัง ตามด้วยระบมทั้งขาและข้อเท้าขวา จนกระทั่งเปิดฉากเพลย์ออฟนำ ชิคาโก บูลส์ ขวิดชัย พอยท์นการ์ดทีมชาติสหรัฐฯ พยายามลุยในก่อนร่วงลงมาร้องโอดโอยกุมบริเวณเข่าซ้าย ที่ภายหลังแพทย์เผยว่า เอ็นฉีก เห็นทีต้องพักนาน 6-9 เดือน มิแน่ใจว่าเจอปีชงหรือไม่ แต่ความซวยซ้ำซ้อนส่งให้เกิดผลกระทบไล่เรียงไปหมด
ไล่ตั้งแต่ โรส ทั้งที่ยังหนุ่มแน่น เคยได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ซีซันก่อน ทว่า อาการเจ็บครั้งนี้ส่อส่งผลต่อความก้าวหน้าในอาชีพ แต่เรื่องเจ็บถือเป็นของคู่กันกับนักกีฬาอาชีพ มองในแง่ดีด้วยวัย 23 ปี สภาพร่างกายย่อมมีโอกาสกลับมาฟิตปั๋ง ยังสามารถเรียกสัญญาก้อนโตได้จาก “กระทิงเปลี่ยว” บูลส์ หรือแม้แต่แฟรนไชส์อื่นๆ ขณะที่สปอนเซอร์เชื่อว่ายังไหลมาเทมา ในเมื่อ “ดี-โรส” ไม่เคยมีภาพพจน์ในทางลบ มิเช่นนั้น “อาดิดาส” คงไม่ยอมเซ็นยาว 10 ปี มูลค่า 250 ล้านเหรียญ (ประมาณ 7.5 พันล้านบาท) การันตีให้ อย่างไรก็ตาม คงมีหลายคนทวงถามถึงนวัตกรรมความเบาของรองเท้าที่ โรส สวมใส่ว่าเหมาะสมหรือต้องปรับอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
เมื่อแม่ทัพบาดเจ็บเสียขนาดนี้ ย่อมฟาดชิ่งมาโดนต้นสังกัดเต็มๆ ล่าสุด บูลส์ โดน ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส ทีมอันดับ 8 บุกมาฉกความได้เปรียบกลับบ้านไป ซี.เจ.วัตสัน ที่ขึ้นมาคุมบอลเต็มตัวยังไม่มีความเฉียบคม จอห์น ลูคัส สลับช่วยไม่ไหว ที่สำคัญฟรอนท์คอร์ตดูใจเสียไปเลย คาร์ลอส บูเซอร์ กับ ลูออล เดง ไม่มีคนปั้นแต่งให้ ดูเหมือน ทอม ธีโบดัว หัวหน้าโค้ชที่มีส่วนรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต้องกระตุ้นทีมให้ดี ตะโกนกรอกหูเข้าไปว่าช่วงเรคกูลา ซีซัน “พวกคุณยังอุตส่าห์ชนะ 18 แพ้ 9 เกม” ช่วงขาด โรส จากนั้นโด๊ปกำลังใจกันขึ้นมา เนื่องจากภารกิจครั้งนี้ต้องดีกว่าเมื่อปีก่อนที่พ่าย ไมอามี ฮีท ในรอบชิงแชมป์สายตะวันออก
การขาดหายไปของ “ดี-โรส” ยังทำให้ ไมค์ ชูเชฟสกี หัวหน้าโค้ช “ดรีมทีม” ต้องหาทางแก้ปัญหากันแต่เนิ่นๆ “โค้ชเค” ต้องเค้น คริส พอล, เดรอน วิลเลียมส์ หรือแม้แต่ รัสเซล เวสต์บรูก ช่วงเตรียมทีมสั้นๆ ก่อนลุยป้องกันแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 12 สิงหาคม อันนี้ก็ต้องดูสุขภาพของ “CP3” ที่กำลังฝืนเจ็บขาหนีบลุยโพสต์ซีซันกับ แอลเอ คลิปเปอร์ส ซึ่งการขาดหายไปของ โรส และ “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ตอนแรกไม่คิดว่าจะสะเทือน เนื่องจาก สหรัฐฯ อุดมไปด้วยสตาร์ NBA
ทว่า หากลงลึกในรายละเอียด “ดรีมทีม” เหลือเซ็นเตอร์ธรรมชาติเพียงคนเดียวคือ ทายสัน แชนด์เลอร์ ว่าที่ผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมแห่งปี แม้ คริส บอช เขยิบเข้าในได้ แต่ถ้ามี ฮาวเวิร์ด พื้นที่ใต้แป้นย่อมอุ่นใจกว่า ส่วนแบ็กคอร์ตโดยเฉพาะตัวคุมบอล การที่ ชอนซีย์ บิลอัพส์ เจ็บยาว และเกิดว่า พอล ไม่เต็มร้อย เท่ากับ “ดี-วิลล์” ต้องแบกภาระหนักเอาการ ดีเวย์น เหว็ด บัญชาการได้ก็จริง แต่ระดับ “โอลิมปิกเกมส์” ที่ต้องผจญกับการ์ดจ่ายมืออาชีพโดยเฉพาะแถบยุโรปที่ว่องไว แถมมีทีเด็ดเรื่องสามแต้ม งานนี้เห็นที ชูเชฟสกี ต้องติวให้เข้ม เพราะแค่รอบแรก อย่างน้อย สหรัฐฯ ก็ชนทั้ง มานู จิโนบิลี (อาร์เจนตินา) และ โทนี พาร์เกอร์ (ฝรั่งเศส) แถมมีสิทธิเจอพวก ลิทัวเนีย หรือ รัสเซีย อีกต่างหาก ถ้าการจัดอันดับในกลุ่มไม่เป็นไปตามคาด รีแมตช์ “กระทิงดุ” สเปน อาจเร็วกว่าที่คิดไว้ก็เป็นได้
ลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ทยอยประกาศมอบรางวัลสาขาต่างๆ โดย เกร็ก โพโพวิช โค้ชจอมเก๋าได้รับเกียรติยกให้เป็นหัวหน้าโค้ชยอดเยี่ยม หลังพา ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ชนะ 50 แพ้ 16 เกม เกือบดีที่สุดในลีก ทว่า เฮดทูเฮดดันแพ้ ชิคาโก บูลส์ แต่หากจะมอบรางวัล “ผู้เล่นซวยสุดแห่งปี” ผู้นั้นคงหนีไม่พ้น เดอร์ริค โรส ที่ซีซัน 2011/12 เจออาการบาดเจ็บแทรกซึมทุกอณูของร่างกาย
ก่อนหน้านี้ “ดี-โรส” มีปัญหาเจ็บหลัง ตามด้วยระบมทั้งขาและข้อเท้าขวา จนกระทั่งเปิดฉากเพลย์ออฟนำ ชิคาโก บูลส์ ขวิดชัย พอยท์นการ์ดทีมชาติสหรัฐฯ พยายามลุยในก่อนร่วงลงมาร้องโอดโอยกุมบริเวณเข่าซ้าย ที่ภายหลังแพทย์เผยว่า เอ็นฉีก เห็นทีต้องพักนาน 6-9 เดือน มิแน่ใจว่าเจอปีชงหรือไม่ แต่ความซวยซ้ำซ้อนส่งให้เกิดผลกระทบไล่เรียงไปหมด
ไล่ตั้งแต่ โรส ทั้งที่ยังหนุ่มแน่น เคยได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ซีซันก่อน ทว่า อาการเจ็บครั้งนี้ส่อส่งผลต่อความก้าวหน้าในอาชีพ แต่เรื่องเจ็บถือเป็นของคู่กันกับนักกีฬาอาชีพ มองในแง่ดีด้วยวัย 23 ปี สภาพร่างกายย่อมมีโอกาสกลับมาฟิตปั๋ง ยังสามารถเรียกสัญญาก้อนโตได้จาก “กระทิงเปลี่ยว” บูลส์ หรือแม้แต่แฟรนไชส์อื่นๆ ขณะที่สปอนเซอร์เชื่อว่ายังไหลมาเทมา ในเมื่อ “ดี-โรส” ไม่เคยมีภาพพจน์ในทางลบ มิเช่นนั้น “อาดิดาส” คงไม่ยอมเซ็นยาว 10 ปี มูลค่า 250 ล้านเหรียญ (ประมาณ 7.5 พันล้านบาท) การันตีให้ อย่างไรก็ตาม คงมีหลายคนทวงถามถึงนวัตกรรมความเบาของรองเท้าที่ โรส สวมใส่ว่าเหมาะสมหรือต้องปรับอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
เมื่อแม่ทัพบาดเจ็บเสียขนาดนี้ ย่อมฟาดชิ่งมาโดนต้นสังกัดเต็มๆ ล่าสุด บูลส์ โดน ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส ทีมอันดับ 8 บุกมาฉกความได้เปรียบกลับบ้านไป ซี.เจ.วัตสัน ที่ขึ้นมาคุมบอลเต็มตัวยังไม่มีความเฉียบคม จอห์น ลูคัส สลับช่วยไม่ไหว ที่สำคัญฟรอนท์คอร์ตดูใจเสียไปเลย คาร์ลอส บูเซอร์ กับ ลูออล เดง ไม่มีคนปั้นแต่งให้ ดูเหมือน ทอม ธีโบดัว หัวหน้าโค้ชที่มีส่วนรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต้องกระตุ้นทีมให้ดี ตะโกนกรอกหูเข้าไปว่าช่วงเรคกูลา ซีซัน “พวกคุณยังอุตส่าห์ชนะ 18 แพ้ 9 เกม” ช่วงขาด โรส จากนั้นโด๊ปกำลังใจกันขึ้นมา เนื่องจากภารกิจครั้งนี้ต้องดีกว่าเมื่อปีก่อนที่พ่าย ไมอามี ฮีท ในรอบชิงแชมป์สายตะวันออก
การขาดหายไปของ “ดี-โรส” ยังทำให้ ไมค์ ชูเชฟสกี หัวหน้าโค้ช “ดรีมทีม” ต้องหาทางแก้ปัญหากันแต่เนิ่นๆ “โค้ชเค” ต้องเค้น คริส พอล, เดรอน วิลเลียมส์ หรือแม้แต่ รัสเซล เวสต์บรูก ช่วงเตรียมทีมสั้นๆ ก่อนลุยป้องกันแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 12 สิงหาคม อันนี้ก็ต้องดูสุขภาพของ “CP3” ที่กำลังฝืนเจ็บขาหนีบลุยโพสต์ซีซันกับ แอลเอ คลิปเปอร์ส ซึ่งการขาดหายไปของ โรส และ “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ตอนแรกไม่คิดว่าจะสะเทือน เนื่องจาก สหรัฐฯ อุดมไปด้วยสตาร์ NBA
ทว่า หากลงลึกในรายละเอียด “ดรีมทีม” เหลือเซ็นเตอร์ธรรมชาติเพียงคนเดียวคือ ทายสัน แชนด์เลอร์ ว่าที่ผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมแห่งปี แม้ คริส บอช เขยิบเข้าในได้ แต่ถ้ามี ฮาวเวิร์ด พื้นที่ใต้แป้นย่อมอุ่นใจกว่า ส่วนแบ็กคอร์ตโดยเฉพาะตัวคุมบอล การที่ ชอนซีย์ บิลอัพส์ เจ็บยาว และเกิดว่า พอล ไม่เต็มร้อย เท่ากับ “ดี-วิลล์” ต้องแบกภาระหนักเอาการ ดีเวย์น เหว็ด บัญชาการได้ก็จริง แต่ระดับ “โอลิมปิกเกมส์” ที่ต้องผจญกับการ์ดจ่ายมืออาชีพโดยเฉพาะแถบยุโรปที่ว่องไว แถมมีทีเด็ดเรื่องสามแต้ม งานนี้เห็นที ชูเชฟสกี ต้องติวให้เข้ม เพราะแค่รอบแรก อย่างน้อย สหรัฐฯ ก็ชนทั้ง มานู จิโนบิลี (อาร์เจนตินา) และ โทนี พาร์เกอร์ (ฝรั่งเศส) แถมมีสิทธิเจอพวก ลิทัวเนีย หรือ รัสเซีย อีกต่างหาก ถ้าการจัดอันดับในกลุ่มไม่เป็นไปตามคาด รีแมตช์ “กระทิงดุ” สเปน อาจเร็วกว่าที่คิดไว้ก็เป็นได้
