คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
เหลืออีกแค่ 5 เกมในฤดูกาลปกติ เขยิบใกล้ 10 เมตร สุดท้ายในการชิงชัยตั๋วไปลุยต่อเพลย์ออฟศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ที่มีคิวเปิดฉากกัน 29 เมษายนนี้ ดังนั้น ผู้เขียนนำประเด็นจี้จุด “เด่น-ด้อย” ของแต่ละทีมมาแลกเปลี่ยนทรรศนะกัน เริ่มจากฝั่งตะวันออก
ณ วันต้นฉบับอยู่นั้น ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส รั้งที่ 8 จุดแข็งของทีมพลังหนุ่มที่น่าจับตา คือ เกมป้องกันเหนียวหนึบ เสียเฉลี่ยเกมละ 88.8 แต้ม ดีที่สุดในลีก หากต้องเจอ ชิคาโก บูลส์ เต็งหนึ่งคอนเฟอเรนซ์ เห็นทีแต้มต่ำแน่นอน (บูลส์ เสียเฉลี่ยแค่ 88.9 แต้ม) สิ่งที่น่าชมเชยของ ซิกเซอร์ส คือ การีบาวนด์เกมรับ อีแวน เทอร์เนอร์, เอลตัน แบรนด์, อังเดร อิกัวดาลา หรือว่า จรู ฮอลิเดย์ รับเครดิตกันไป แต่ปัญหาคือ การไม่มีแม่ทัพที่เชื่อมือได้ ยามสถานการณ์คับขันเบียดกัน 2-3 แต้ม ซิกเซอร์ส มักปราชัย ยิ่งหากเจอ “กระทิงเปลี่ยว” ด้วยแล้ว ซิกเซอร์ส สงสัยชักแหงก อย่าลืมว่า บูลส์ ช่วงชิงเกมวงในได้ดีไม่แพ้ใคร มีทั้ง โยอาคิม โนอาห์, คาร์ลอส บูเซอร์, ทาจ์ กิบสัน, โอเมอร์ อาซิค ที่สำคัญ ทอม ธีโบดัว เก็บตัว เดอร์ริค โรส ให้สมบูรณ์พร้อมสำหรับเพลย์ออฟ อย่างไรก็ตาม บูลส์ มีปัญหาเช่นกัน เนื่องจากชู้ตลูกโทษลงเพียง 72.3 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 27 ของลีก
มาดูทีมขวัญใจมหาชนอย่าง นิวยอร์ก นิกส์ อันดับ 7 ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า นิกส์ เกมรับอันดับ 10 ของลีก (เฉลี่ยโดนเจาะ 94.3 แต้ม) บอร์ดบริหารคิดไม่ผิดที่ตั้ง ไมค์ วูดสัน อดีตเฮดโค้ช แอตแลนตา ฮอว์คส คุมทัพชั่วคราว แก้ปัญหาจากยุคสมัย ไมค์ ดิแอนโทนี ได้ชัดเจน ทายสัน แชนด์เลอร์ จะมีบทบาทสำคัญในการชิงวงในกับ คริส บอช หากเจอ ไมอามี ฮีท ซึ่งรั้งที่ 2 คาร์เมโล แอนโธนีย์ ดวลแต้ม เลอบรอน เจมส์ สนั่น น่าเสียดาย เจเรมี หลิน ไม่น่าฟิตทันเผชิญหน้า ดีเวย์น เหว็ด แต่ปัญหาน่าห่วงของนิกส์ ที่แก้ไม่ตก คือ เทิร์นโอเวอร์ เกมๆ หนึ่งจ่ายพลาด 15 หน เจอกับ “บิ๊กทรี” ที่เฉลี่ย 67 แต้ม 21 รีบาวนด์ 13 แอสซิสต์ มีสิทธิล้มตรึง อย่างไรเสีย ฮีท ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน เมื่อขุมกำลังสำรองบทบาทเกมบุกแทบไม่มี มาริโอ ชาลเมอร์ส ช่วยได้บ้างครั้งคราว
ไปที่อันดับ 6 ออร์แลนโด แมจิก “งานเข้า” ปัญหาเจ็บหลังของ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ต้องพักรักษาตัวราว 2 สัปดาห์ การขาดหายไปของผู้นำการทำแต้มและรีบาวนด์ แทบจบเห่เหมือนกัน สแตน แวน กันดี อาจสบายใจกว่าเมื่อไม่มี “ซูเปอร์แมน” คอยเลื่อยขาเก้าอี้ แมจิก คงต้องหันไปเน้นจุดเด่นเรื่องสามแต้ม (อันดับ 3 ลีก ส่องไกลลงร้อยละ 38) การเล่นแบบ “สมอลบอล” เน้นการ์ดรุกเร็วน่าจะเป็นของถนัด จาเมียร์ เนลสัน และ เจ.เจ.เรดดิก แต่ต้องดูว่า ฮาวเวิร์ด จะฝืนลงได้แค่ไหน เพราะถ้าพึ่งพา เกล็น เดวิส ไปตลอดอาจไม่สัมฤทธิ์ผล โชคยังดีที่ส่อเจอ อินเดียนา เพเซอร์ส อันดับ 3 ของฝั่งที่ไม่เน้นการทะลุทะลวงวงในนัก แต่หาก แฟรงค์ โวเกิล เห็นช่องแล้วไม่เข้าทำก็บ้าแล้ว รอย ฮิบเบิร์ต กับ เดวิด เวสต์ พร้อมโดดใส่ห่วงทุกเมื่อ
ปิดท้ายที่ แอตแลนตา ฮอว์คส อันดับ 5 กับ บอสตัน เซลติกส์ ที่ 4 ฝ่ายแรกองค์ประกอบดี จอช สมิธ, แอล ฮอร์ฟอร์ด, โจ จอห์นสัน เข้าขั้นสตาร์ เจฟฟ์ ทรีก ดีวันดีคืน เพียงแต่ไม่มีใครฉายบทแม่ทัพประกายแสง “เหยี่ยวน้อย” พร้อมบินเข้าเพลย์ออฟทุกซีซัน แต่อย่าแปลกใจหากโดนส่องร่วงตั้งแต่รอบแรกหรือรอบสองในแต่ละปี ส่วนฝ่ายหลัง “เก๋าเรียกพี่” เซลติกส์ อุดมไปด้วยผู้เล่นที่มีโอกาสเข้าหอเกียรติยศ (ฮอล ออฟ เฟม) เควิน การ์เนตต์, เรย์ อัลเลน และ พอล เพียร์ซ ขณะที่ ราจอน รอนโด แก้ปัญหาชู้ตระยะกลางได้ดีขึ้น ทีเด็ดที่ช่วงหลังได้เห็น คือ การแอสซิสต์ให้เพื่อนเป็นว่าเล่น ทว่าจุดอ่อนที่เด่นชัดสุดของทีม คือ รีบาวนด์เกมบุกห่วยแตก เฉลี่ยเกมละ 7.9 ครั้ง บ๊วยของลีก ใน เอ็นบีเอ ถ้าโอกาสซ้ำดาบสองมีน้อย โอกาสที่ทีมคุณจะพลาดพลั้งมีมากเหลือเกินหากไม่แม่นดั่งจับวาง
เหลืออีกแค่ 5 เกมในฤดูกาลปกติ เขยิบใกล้ 10 เมตร สุดท้ายในการชิงชัยตั๋วไปลุยต่อเพลย์ออฟศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ที่มีคิวเปิดฉากกัน 29 เมษายนนี้ ดังนั้น ผู้เขียนนำประเด็นจี้จุด “เด่น-ด้อย” ของแต่ละทีมมาแลกเปลี่ยนทรรศนะกัน เริ่มจากฝั่งตะวันออก
ณ วันต้นฉบับอยู่นั้น ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส รั้งที่ 8 จุดแข็งของทีมพลังหนุ่มที่น่าจับตา คือ เกมป้องกันเหนียวหนึบ เสียเฉลี่ยเกมละ 88.8 แต้ม ดีที่สุดในลีก หากต้องเจอ ชิคาโก บูลส์ เต็งหนึ่งคอนเฟอเรนซ์ เห็นทีแต้มต่ำแน่นอน (บูลส์ เสียเฉลี่ยแค่ 88.9 แต้ม) สิ่งที่น่าชมเชยของ ซิกเซอร์ส คือ การีบาวนด์เกมรับ อีแวน เทอร์เนอร์, เอลตัน แบรนด์, อังเดร อิกัวดาลา หรือว่า จรู ฮอลิเดย์ รับเครดิตกันไป แต่ปัญหาคือ การไม่มีแม่ทัพที่เชื่อมือได้ ยามสถานการณ์คับขันเบียดกัน 2-3 แต้ม ซิกเซอร์ส มักปราชัย ยิ่งหากเจอ “กระทิงเปลี่ยว” ด้วยแล้ว ซิกเซอร์ส สงสัยชักแหงก อย่าลืมว่า บูลส์ ช่วงชิงเกมวงในได้ดีไม่แพ้ใคร มีทั้ง โยอาคิม โนอาห์, คาร์ลอส บูเซอร์, ทาจ์ กิบสัน, โอเมอร์ อาซิค ที่สำคัญ ทอม ธีโบดัว เก็บตัว เดอร์ริค โรส ให้สมบูรณ์พร้อมสำหรับเพลย์ออฟ อย่างไรก็ตาม บูลส์ มีปัญหาเช่นกัน เนื่องจากชู้ตลูกโทษลงเพียง 72.3 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 27 ของลีก
มาดูทีมขวัญใจมหาชนอย่าง นิวยอร์ก นิกส์ อันดับ 7 ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า นิกส์ เกมรับอันดับ 10 ของลีก (เฉลี่ยโดนเจาะ 94.3 แต้ม) บอร์ดบริหารคิดไม่ผิดที่ตั้ง ไมค์ วูดสัน อดีตเฮดโค้ช แอตแลนตา ฮอว์คส คุมทัพชั่วคราว แก้ปัญหาจากยุคสมัย ไมค์ ดิแอนโทนี ได้ชัดเจน ทายสัน แชนด์เลอร์ จะมีบทบาทสำคัญในการชิงวงในกับ คริส บอช หากเจอ ไมอามี ฮีท ซึ่งรั้งที่ 2 คาร์เมโล แอนโธนีย์ ดวลแต้ม เลอบรอน เจมส์ สนั่น น่าเสียดาย เจเรมี หลิน ไม่น่าฟิตทันเผชิญหน้า ดีเวย์น เหว็ด แต่ปัญหาน่าห่วงของนิกส์ ที่แก้ไม่ตก คือ เทิร์นโอเวอร์ เกมๆ หนึ่งจ่ายพลาด 15 หน เจอกับ “บิ๊กทรี” ที่เฉลี่ย 67 แต้ม 21 รีบาวนด์ 13 แอสซิสต์ มีสิทธิล้มตรึง อย่างไรเสีย ฮีท ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน เมื่อขุมกำลังสำรองบทบาทเกมบุกแทบไม่มี มาริโอ ชาลเมอร์ส ช่วยได้บ้างครั้งคราว
ไปที่อันดับ 6 ออร์แลนโด แมจิก “งานเข้า” ปัญหาเจ็บหลังของ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ต้องพักรักษาตัวราว 2 สัปดาห์ การขาดหายไปของผู้นำการทำแต้มและรีบาวนด์ แทบจบเห่เหมือนกัน สแตน แวน กันดี อาจสบายใจกว่าเมื่อไม่มี “ซูเปอร์แมน” คอยเลื่อยขาเก้าอี้ แมจิก คงต้องหันไปเน้นจุดเด่นเรื่องสามแต้ม (อันดับ 3 ลีก ส่องไกลลงร้อยละ 38) การเล่นแบบ “สมอลบอล” เน้นการ์ดรุกเร็วน่าจะเป็นของถนัด จาเมียร์ เนลสัน และ เจ.เจ.เรดดิก แต่ต้องดูว่า ฮาวเวิร์ด จะฝืนลงได้แค่ไหน เพราะถ้าพึ่งพา เกล็น เดวิส ไปตลอดอาจไม่สัมฤทธิ์ผล โชคยังดีที่ส่อเจอ อินเดียนา เพเซอร์ส อันดับ 3 ของฝั่งที่ไม่เน้นการทะลุทะลวงวงในนัก แต่หาก แฟรงค์ โวเกิล เห็นช่องแล้วไม่เข้าทำก็บ้าแล้ว รอย ฮิบเบิร์ต กับ เดวิด เวสต์ พร้อมโดดใส่ห่วงทุกเมื่อ
ปิดท้ายที่ แอตแลนตา ฮอว์คส อันดับ 5 กับ บอสตัน เซลติกส์ ที่ 4 ฝ่ายแรกองค์ประกอบดี จอช สมิธ, แอล ฮอร์ฟอร์ด, โจ จอห์นสัน เข้าขั้นสตาร์ เจฟฟ์ ทรีก ดีวันดีคืน เพียงแต่ไม่มีใครฉายบทแม่ทัพประกายแสง “เหยี่ยวน้อย” พร้อมบินเข้าเพลย์ออฟทุกซีซัน แต่อย่าแปลกใจหากโดนส่องร่วงตั้งแต่รอบแรกหรือรอบสองในแต่ละปี ส่วนฝ่ายหลัง “เก๋าเรียกพี่” เซลติกส์ อุดมไปด้วยผู้เล่นที่มีโอกาสเข้าหอเกียรติยศ (ฮอล ออฟ เฟม) เควิน การ์เนตต์, เรย์ อัลเลน และ พอล เพียร์ซ ขณะที่ ราจอน รอนโด แก้ปัญหาชู้ตระยะกลางได้ดีขึ้น ทีเด็ดที่ช่วงหลังได้เห็น คือ การแอสซิสต์ให้เพื่อนเป็นว่าเล่น ทว่าจุดอ่อนที่เด่นชัดสุดของทีม คือ รีบาวนด์เกมบุกห่วยแตก เฉลี่ยเกมละ 7.9 ครั้ง บ๊วยของลีก ใน เอ็นบีเอ ถ้าโอกาสซ้ำดาบสองมีน้อย โอกาสที่ทีมคุณจะพลาดพลั้งมีมากเหลือเกินหากไม่แม่นดั่งจับวาง