xs
xsm
sm
md
lg

“เนวิน” เอาจริง ตั้งภาคีสโมสร ยื่นหนังสือตรวจ “บังยี”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“บิ๊กเน” นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ร่วมกับสโมสรสมาชิก 18 สโมสร จัดตั้ง “ภาคีสโมสรไทยพรีเมียร์ลีก” พร้อมยื่นหนังสือขอสำเนาสัญญาและสอบถามนโยบายการบริหารบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ต่อ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในการประชุม 18 สโมสรไทยพรีเมียร์ลีก ครั้งที่ 3 เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2555 โดยมีสโมสรเข้าร่วมทั้งสิ้น 15 สโมสร ไร้เงา เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เชียงราย ยูไนเต็ด และ อีสาน ยูไนเต็ด เช่นเคย
เตรียมยื่นหนังสือขอดูหลักฐาน
เมื่อวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2555 เวลา 19.30 น.ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ได้มีการจัดประชุมหารือระหว่างสโมสรสมาชิกไทยพรีเมียร์ลีก 18 สโมสร ขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งในครั้งนี้ มีสโมสรพัทยา ยูไนเต็ด รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ภายใต้ชื่องาน “ฟุตบอลไทย... อยู่ที่ความตั้งใจ” โดยมีตัวแทนจากสโมสรเข้าร่วมทั้งสิ้น 15 สโมสร ขาดแต่เพียง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เชียงราย ยูไนเต็ด และ อีสาน ยูไนเต็ด

นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้กล่าวว่า “หลังจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ออกมาชี้แจงถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ และเปิดเผยรายรับ-รายจ่าย เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทาง นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคม ได้เผยว่า มีเอกสารสัญญาการมอบสิทธิประโยชน์ให้กับ บ.สยามสปอร์ตฯ พร้อมทั้งสัญญาการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดให้กับทาง บ.ทรู วิชั่นส์ ซึ่งผมได้ขอดูรายละเอียด แต่ทาง นายวรวีร์ ได้กล่าวว่า ยินดีที่จะเปิดเผยให้ทราบ แต่ต้องทำเอกสารมาอย่างเป็นทางการเสียก่อนจึงจะเปิดเผยได้”

“ในวันนี้พวกเราสมาชิกจึงจัดตั้ง “ภาคีสโมสรไทยพรีเมียร์ลีก” ขึ้น เพื่อที่จะทำหนังสือขอสำเนาสัญญาและสอบถามนโยบายการบริหารบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด อย่างเป็นทางการ โดยผ่านการยอมรับของทั้ง 18 สโมสร เพื่อยื่นต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตามที่ท่านนายกต้องการ โดยมีหัวข้อดังนี้ 1.เปิดเผยสัญญาระหว่าง บ.สยามสปอร์ตฯ กับผู้สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก และ ด.1 ประจำปี 2554-2555 ทั้งนี้ เพราะได้แจ้งว่าได้ตกลงสัญญาไว้กับทุกราย จึงขอทราบเพื่อความโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับ 2.เปิดเผยสัญญาระหว่าง บ.สยามสปอร์ตฯ กับผู้ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก และ ด.1 ประจำปี 2554-2555 เพราะอยากจะทราบว่าสัญญาที่ขายลิขสิทธิ์ให้กับทาง บ.ทรู วิชั่นส์ มีเงื่อนไขสัญญาอย่างไรบ้าง ผูกพันกับสโมสรอย่างไร เพราะเราเป็นผู้ที่จะต้องปฏิบัติตาม”

“และ 3.เปิดเผยสัญญาระหว่าง บ.สยามสปอร์ตฯ กับผู้สนับสนุนการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก และ ด.1 ประจำปี 2554-2555 เนื่องจากผมเห็นว่า มีรายได้จากสปอนเซอร์ที่นอกเหนือจากสปอนเซอร์สนับสนุนการแข่งขัน แต่เป็นสปอนเซอร์ที่มาจากการถ่ายทอดสด เช่น ป้ายที่ทางทีพีแอลให้เราไปตั้งตามจุดที่กำหนดในสนามแข่ง แสดงว่า ต้องเป็นป้ายจากสปอนเซอร์สนับสนุนการแข่งขัน ซึ่งถ้าใช่ผมก็ยอมตั้ง แต่ถ้าไม่ใช่ ถ้าเป็นป้ายที่มาจากการโฆษณาการถ่ายทอด ผมก็ไม่ยอม เพราะเขาไม่สามารถนำมาตั้งได้ อาทิเช่น ถ้าผมซื้อโฆษณาจากทรู วิชั่นส์ ซึ่งเป็นบริษัทถ่ายทอดการแข่งขัน ผมก็ไม่สามารถนำป้ายชื่อผมไปตั้งที่สโมสรอื่นได้ เพราะไม่ใช่ผู้สนับสนุน ผมจึงอยากจะขอดู” ประธานแดนอีสานร่ายยาว

บิ๊กเน ยังกล่าวต่ออีกว่า “นอกจากนี้ เนื่องจากทางสมาคมฟุตบอลฯได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า พร้อมที่จะรับข้อเสนอของสโมสรสมาชิก เรื่องการปรับโครงสร้างการบริหารงาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผมจึงอยากที่จะให้เปิดโอกาสให้สโมสรสมาชิกที่เข้าร่วมแข่งขัน เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่เหมาะสม มีส่วนร่วมบริหารงาน พิจารณากำหนดนโยบาย ตลอดจนการปรับปรุงกฎระเบียบการแข่งขัน เพื่อให้การดำเนินงานมีความโปร่งใส และเป็นที่น่าเชื่อถือของแฟนบอล”

ซึ่งหนังสือฉบับนี้ได้เซ็นรับรองโดยสโมสรสมาชิกทั้งสิ้นจำนวน 13 ทีม ขาดแต่เพียง ทีโอที เอสซี กับ บีบีซียู เอฟซี ที่ยังรอการตัดสินใจจากผู้มีอำนาจลงนาม และ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, เชียงราย ยูไนเต็ด, อีสาน ยูไนเต็ด 3 ทีม ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ และจะมีการยื่นต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในวันที่ 24 เมษายนนี้ทันที โดยการประชุมครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 เวลา 19.30 น.โดยมี บางกอกกล๊าส เอฟซี เป็นเจ้าภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น