โรแบร์โต มันชินี กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ตำหนิแนวรับของทีมที่ปล่อยให้ ซันเดอร์แลนด์ ยิงได้ถึง 3 ประตู ทำให้ไม่สามารถแซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นเป็นจ่าฝูงทั้งที่ลงเตะก่อน และต้องเหนื่อยช่วงท้ายกว่าจะไล่ตีเสมอเป็น 3-3 ในเกมพรีเมียร์ชิป เมื่อวันเสาร์ที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา
โอกาสลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดของทีม “เรือใบฟ้า” ในฤดูกาลนี้ดูจะยากขึ้นไปอีก เมื่อเกมล่าสุดทำได้แค่เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ โดยถูกทีมเยือนนำไปก่อนถึง 3-1 และต้องลุ้นเหนื่อยในช่วงท้ายเกมกว่าจะมาไล่ตีเสมอสำเร็จจากประตูของ มาริโอ บาโลเตลลี และ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ถือเป็นการเสียแต้มเกมแรกในถิ่น เอติฮัด สเตเดียม ของฤดูกาลนี้
โดย มันชินี ออกมาตำหนิแนวรับที่เล่นกันอย่างหละหลวมเสียถึง 3 ประตูในเกมนี้ ซึ่งเป็นสถิติเสียประตูสูงสุดนับตั้งแต่เกมคอมมูนิตี ชิลด์ เมื่อต้นซีซัน อย่างไรก็ตามยังมองโลกในแง่ดีว่าทีมยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ เพราะเหลือกการแข่งขันอีก 8 เกม
“มันเป็นเกมที่บ้ามาก มีหลากหลายอารมณ์ และกองหลังเราเล่นได้แย่เอามากๆ ผมไม่แฮปปี้กับฟอร์มของลูกทีม แต่ถึงอย่างไรเราก็สามารถกลับมาตีเสมอได้สำเร็จ หากถามว่ายังมีโอกาสจะคว้าแชมป์อยู่หรือไม่ ? คิดว่ายังมีอยู่เสมอ ยูไนเต็ด ยังเหลือเกมอีก 8 นัด และถ้าพวกเขาเสมอสัก 2 เกม โอกาสจะเป็นของเรา” นายใหญ่ชาวอิตาเลียน กล่าว
นอกจากนี้ มันชินี ยังบ่น บาโลเตลลี หัวหอกที่ทำ 2 ประตู ช่วยให้ทีมกลับมามี 1 แต้ม ว่า “เขาไม่ได้เล่นดีเท่าไหร่ ในเกมแบบนี้กองหน้าควรจะสร้างสิ่งที่แตกต่างได้ ซึ่งมันไม่ใช่ในช่วง 2-3 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา ผู้เล่นอย่าง มาริโอ หรือ เซโก น่าจะยิงได้ 2-3 ประตู ตอนนี้เราต้องการกองหน้าที่สามารถเปลี่ยนเกมได้”
สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงมีคิวออกไปเยือน แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ที่สนาม อีวู้ด พาร์ก ในวันจันทร์ที่ 3 เมษายน ซึ่งหากเก็บชัยชนะได้จะทำแต้มหนี “เรือใบสีฟ้า” ออกไปเป็น 5 แต้ม