โจ-วิลฟรีด ซองกา นักหวดร่างยักษ์ชาวฝรั่งเศส ไม่พอใจที่แชร์ อัมไพร์ ตัดสินเอียงเข้าข้าง ราฟาเอล นาดาล แร็กเกตมือ 2 ของโลกชาวสแปนิช หลังเจ้าตัวแพ้ต่อ "เอล มาทาดอร์" ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกเทนนิสรายการ โซนี อีริคส์สัน โอเพน ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อวันพุธที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา
ซองกา ซึ่งแพ้ต่อ นาดาล ในแมตช์ดังกล่าว 1-2 เซต 2-6, 7-5, 4-6 กล่าวหาการทำหน้าที่ของ ดาเมียน สไตเนอร์ แชร์อัมไพร์ ที่หลายครั้งเปลี่ยนคำตัดสิน (Over rule) ในลูกที่ก่ำกึ่งของตนเอง แต่กลับปล่อยผ่านลูกที่จะเป็นประโยชน์ต่อนักหวดเลือดกระทิงจนทำให้ตนเล่นยากกว่าปกติ
"ผมบ่นเพราะมันเกิดขึ้นตลอดแมตช์เลย ผมต้องขอชาลเลนจ์และผมก็ถูกตลอดเช่นกัน แต่เขากลับไม่เคยขานลูกที่ส่งผลเสียต่อ ราฟาเอล เลย เป็นแบบนี้ตลอดแมตช์ ทำให้ผมต้องตั้งใจเป็นพิเศษว่าตีบอลออกหรือไม่ แต่ถ้าลูกของ นาดาล ก่ำกึ่ง เขาก็จะไม่ขานออก แต่เขาทำกับผม" แร็กเกตวัย 26 ปีกล่าวอย่างหัวเสีย
ซองกา กล่าวอีกว่าสาเหตุที่ สไตเนอร์ ตัดสินเข้าข้าง นาดาล ก็เพื่อจะได้ทำหน้าที่ตัดสินแมตช์ใหญ่ๆต่อไป "ถ้าหากเขาทำให้ นาดาล ไม่ชอบใจขึ้นมา เขาก็จะไม่ได้นั่งเก้าอี้อีกในแมตช์รอบชิงชนะเลิศ หรือ รอบรองชนะเลิศ บางครั้งผมว่ามันไม่ยุติธรรม เพราะผมต้องตัดสินใจเองตลอดเวลา แต่เขาไม่เคยตัดสินใจเลยเพียงแค่ขานสกอร์เท่านั้น นั้นคือเหตุว่าทำไมผมจึงรู้สึกเซ็ง ผมต้องตั้งใจมากขึ้นทั้งดูลูกและไลน์ในการตีทุกครั้ง"
ขณะที่ นาดาล เข้าใจดีถึงความรู้สึกของ ซองกา แต่ยืนยันว่าตนก็เคยถูกขานไม่เป็นใจจากกรรมการเช่นกัน "ผมเข้าใจความรู้สึกผิดหวังของเขา เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่การมีกรรมการกับกล้องฮอล์กอายทำให้การเปลี่ยนคำตัดสินน้อยลงกว่าแต่ก่อน ผมเองก็เคยพูดหลายครั้ง แต่นี้ไม่ใช่เพราะเขาเล่นกับผม เรื่องแบบนี้ก็เคยเกิดกับผม"
