สมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2554 ที่ห้องเอฟเวอร์กรีน ชั้น 5 โรงแรมอเล็กซานเดอร์ หัวหมาก เมื่อวันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา ด้าน สมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมฯ เผย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ยังค้างงบประมาณสนับสนุนอยู่ 7,781,500 บาท แต่ยืนยันว่ามีการประสานงานกันเพื่อติดตามให้มีการเบิกจ่ายย้อนหลังโดยตลอด
สาระสำคัญในการประชุมประกอบด้วยการสรุปผลงานในรอบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะวอลเลย์บอลในร่มทีมหญิงสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วยการคว้าอันดับ 6 ในศึกเวิลด์กรังปรีซ์ ที่มาเก๊า ระหว่างวันที่ 5-28 สิงหาคม พ.ศ.2554 รวมถึงได้อันดับ 4 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ไต้หวัน ระหว่างวันที่ 15-23 กันยายน พ.ศ.2554 ขณะที่ซีเกมส์ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ก็คว้ามาได้ 3 เหรียญทองจาก วอลเลย์บอลในร่มทีมชาย, วอลเลย์บอลในร่มทีมหญิง และ วอลเลย์บอลชายหาดทีมหญิง (ไทย 2) กับอีก 2 เหรียญทองแดงจาก วอลเลย์บอลชายหาดทีมชาย (ไทย 1) และทีมหญิง (ไทย 1)
จากนั้นก็มีการรายงานเรื่องรับรองงบดุลของสมาคมฯ ประจำปี 2554 แบ่งเป็นรายได้ 62,883993.17 บาท ค่าใช้จ่าย 65,644,315.99 บาท ขณะที่งบแสดงฐานะทางการเงินของสมาคมฯ ซึ่งรวมยอดในบัญชีธนาคาร, เงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องและครุภัณฑ์สำนักงาน โดยหักค่าเสื่อมราคาคิดเป็นมูลค่ารวมทรัพย์สินของสมาคมฯ ที่ 13,709,353.03 บาท
อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนที่เข้าร่วมประชุมตั้งข้อสังเกตว่าในตัวเลขมูลค่ารวมทรัพย์สินของสมาคมฯ ไม่ได้ระบุรายการงบประมาณสนับสนุนการเดินทางไปแข่งขันยังต่างประเทศและค่าอุปกรณ์กีฬาแสดงอยู่ ซึ่งมีรายการขอเบิกกับ กกท. ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2553 รวมทั้งสิ้น 10,368,544 บาท โดยสมาคมฯได้รับแล้ว 2,460,551.18 บาท แต่ กกท. ยังค้างอยู่ 7,781,500 บาทซึ่งส่วนนี้ทางสมาคมฯ ต้องสำรองจ่ายไปก่อน นอกจากนี้ ยังมีส่วนต่างที่ กกท. หักในระหว่างการเบิกจ่ายอีก 126,492.82 บาท
กระนั้น นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ออกมาชี้แจงว่า “เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องปกติของระบบราชการ แต่สมาคมได้มีการประสานงานกับ กกท. มาโดยตลอด ซึ่งเราก็ได้รับการชำระย้อนหลังให้ทีละก้อนๆ แต่อาจจะติดเรื่องขั้นตอนการทำเอกสาร รองวดเงินออกบ้าง อย่างไรก็ดี กกท. รับปากว่าจะชำระย้อนหลังให้จนกว่าจะครบ”
ส่วนเป้าหมายหลักของสมาคมฯ ปีนี้อยู่ที่การคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 12 สิงหาคม พ.ศ.2555 ซึ่งความหวังสำคัญอยู่ที่ทีมหญิงทั้ง 2 ทีม โดยวอลเลย์บอลในร่มทีมหญิงมีโปรแกรมชิงตั๋วไปลอนดอนในศึกควอลิฟาย โอลิมปิก 2012 ของทวีปเอเชียและของทั่วโลก ระหว่างวันที่ 19-27 พฤษภาคมนี้ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ส่วนวอลเลย์บอลชายหาดทีมหญิงต้องลุ้นแย่งโควตาในรายการควอลิฟาย โอลิมปิก 2012 ของทวีปเอเชีย ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายนนี้ ที่เมืองไห่หยาง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
สำหรับการแข่งขันระดับนานาชาติที่ ไทย ได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพในปีนี้ประกอบด้วย วอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย “ปริ๊นเซสคัพ ครั้งที่ 16” ที่จ.นครราชสีมา วันที่ 21-29 เมษายน, วอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 17 ที่จ.นครปฐม วันที่ 24-28 กันยายน และ วอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 16 (รอบคัดเลือกเยาวชนหญิงชิงแชมป์โลก ปี 2013) ที่จ.นครปฐม วันที่ 1-9 ตุลาคม
ขณะที่รายการที่ ไทย ได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพในปีหน้า ได้แก่ ศึกยุวชนชิงแชมป์โลก ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม พ.ศ.2556 และรายการสโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย ซึ่งเบื้องต้นมีการวางแผนว่าหากรายการใดรายการหนึ่งถูกกำหนดว่าจะจัดที่จ.นครราชสีมา อีกรายการหนึ่งก็จะไปจัดที่จ.นครปฐม
ทั้งนี้ นายสมพร ใช้บางยาง เผยถึงแผนการสร้างนักตบลูกยางสายเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ชุดปัจจุบันทั้งชายและหญิงว่า “ขณะนี้เราได้ส่งทีมงานไปเก็บข้อมูลผู้เล่นอายุน้อยที่เล่นอยู่ในทุกระดับของประเทศไทย ทั้งวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก และระดับเยาวชนตั้งแต่อายุ 12 ปี, 14 ปี, 16 ปี และ 18 ปีซึ่งเราเล็งคนที่มีแววเพื่อเรียกเข้ามาสู่แคมป์เอาไว้แล้ว โดยสมาคมฯ ได้รับความกรุณาจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ตั้งเป็นอะคาเดมีขึ้นมาสำหรับสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ เพื่อป้อนเข้าสู่ทีมชาติไทยรวมทั้งสโมสรในลีกอาชีพต่อไป ซึ่งโค้ชอ๊อด (เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร) กำหนดคุณสมบัติว่านอกจากจะมีฝีมือดีแล้ว ยังต้องมีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 180 เซนติเมตร หรือถ้าถึง 190 เซสนติเมตรก็ยิ่งดี”
