โรซีย์ คาซัลส์ อดีตนักเทนนิสมือ 5 ของโลกชาวอเมริกัน และสมาชิกของสหภัณฑ์เทนนิสหญิง (WTA) ออกมาแนะแฟนเทนนิสทุกคนที่จะเข้าชมแมตซ์รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง วิคตอเรีย อซาเรนกา และ มาเรีย ชาราโปวา ในอินเดียนเวลส์ ให้เตรียมที่อุดหูเข้าสนามไปด้วย เพื่อรับมือกับเสียงกรี๊ดสนั่นของทั้งคู่
อซาเรนกา และ ชาราโปวา มีคิวเจอกันในรอบชิงชนะเลิศของศึกเทนนิส บีเอ็นพี พาริบาส์ โอเพน ที่สหรัฐอเมริกา วันที่ 19 มีนาคมนี้ ถือเป็นการพบกันของสองนักหวดมือท็อปของโลก ที่นอกเหนือจากฝีมือยอดเยี่ยมไม่แพ้กันแล้ว ยังขึ้นชื่อว่าเป็นสองสาวตัวท็อปที่ชอบแผดเสียงร้องรบกวนผู้ชมในสนามอีกด้วย
สำหรับเรื่องนี้ โรซีย์ คาซัลส์ หนึ่งในสมาชิกของดับเบิลยูทีเอ ให้ความเห็นว่า "มันรบกวนโสตประสาทของฉันเป็นอย่างมาก ซึ่งขอภาวนาให้พวกเธอหยุดทำเช่นนี้เสียที ถือเป็นเรื่องที่น่ารำคาญอย่างยิ่ง ผู้ชมบางส่วนเองก็รับไม่ได้ และพูดว่าฉันไม่อยากดูชาราโปวาลงแข่งเพราะไม่อยากได้ยินเสียงของเธอ"
แน่นอนว่าคาซัลส์ ไม่ใช่เพียงคนเดียวที่ออกมาเปิดประเด็น ฝ่ายจัดการแข่งขันแกรนด์สแลมวิมเบิลดันก็ยอมรับว่าเคยลุกออกจากสนามไปเพราะเรื่องเสียงร้องอันดังสนั่นของทั้งคู่ โดยล่าสุด ผู้ดำเนินรายการแข่งขันที่อินเดียน เวลส์ ได้พยายามซักถามอซาเรนกา หลังเก็บชัยเหนือ แองเจลิเก แคร์เบอร์ ในรอบตัดเชือกถึงเรื่องดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจาก "วิกา" แต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ อซาเรนกา เคยพูดถึงพฤติกรรมกรีดร้องในสนามของตัวเอง โดยเทียบว่าเหมือนกับอาการกรนเวลาหลับของคนปกติทั่วไป ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและไม่สามารถควบคุมได้ โดยเคยมีคนวัดความดังของเสียงร้องของ ชาราโปวา และ อซาเรนกามาแล้วในศึกวิมเบิลดัน 2009 ปรากฏว่าเสียงของ "วิกา" วัดได้ 92 เดซิเบล ส่วนของ "นางฟ้ามาเรีย" วัดได้ 101.2 เดซิเบล เทียบเท่าเสียงไซเรนรถตำรวจ
ทั้งนี้ คาซัลส์ ที่ตัดสินใจนั่งชมแมตซ์รอบชิงชนะเลิศหญิงเดี่ยวในบ้านพักของตนเอง ก็ออกมาแนะให้แฟนเทนนิสอย่าลืมหาที่อุดหูก่อนเข้าสนาม "คุณต้องการที่อุดหูอย่างแน่นอน เพราะเมื่อคุณชมอยู่ที่บ้าน คุณสามารถลดเสียงทีวีของตัวเองได้ แต่มันคงทำแบบนั้นไม่ได้แน่เมื่อคุณนั่งชมเกมในสนาม"
อซาเรนกา และ ชาราโปวา มีคิวเจอกันในรอบชิงชนะเลิศของศึกเทนนิส บีเอ็นพี พาริบาส์ โอเพน ที่สหรัฐอเมริกา วันที่ 19 มีนาคมนี้ ถือเป็นการพบกันของสองนักหวดมือท็อปของโลก ที่นอกเหนือจากฝีมือยอดเยี่ยมไม่แพ้กันแล้ว ยังขึ้นชื่อว่าเป็นสองสาวตัวท็อปที่ชอบแผดเสียงร้องรบกวนผู้ชมในสนามอีกด้วย
สำหรับเรื่องนี้ โรซีย์ คาซัลส์ หนึ่งในสมาชิกของดับเบิลยูทีเอ ให้ความเห็นว่า "มันรบกวนโสตประสาทของฉันเป็นอย่างมาก ซึ่งขอภาวนาให้พวกเธอหยุดทำเช่นนี้เสียที ถือเป็นเรื่องที่น่ารำคาญอย่างยิ่ง ผู้ชมบางส่วนเองก็รับไม่ได้ และพูดว่าฉันไม่อยากดูชาราโปวาลงแข่งเพราะไม่อยากได้ยินเสียงของเธอ"
แน่นอนว่าคาซัลส์ ไม่ใช่เพียงคนเดียวที่ออกมาเปิดประเด็น ฝ่ายจัดการแข่งขันแกรนด์สแลมวิมเบิลดันก็ยอมรับว่าเคยลุกออกจากสนามไปเพราะเรื่องเสียงร้องอันดังสนั่นของทั้งคู่ โดยล่าสุด ผู้ดำเนินรายการแข่งขันที่อินเดียน เวลส์ ได้พยายามซักถามอซาเรนกา หลังเก็บชัยเหนือ แองเจลิเก แคร์เบอร์ ในรอบตัดเชือกถึงเรื่องดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจาก "วิกา" แต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ อซาเรนกา เคยพูดถึงพฤติกรรมกรีดร้องในสนามของตัวเอง โดยเทียบว่าเหมือนกับอาการกรนเวลาหลับของคนปกติทั่วไป ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและไม่สามารถควบคุมได้ โดยเคยมีคนวัดความดังของเสียงร้องของ ชาราโปวา และ อซาเรนกามาแล้วในศึกวิมเบิลดัน 2009 ปรากฏว่าเสียงของ "วิกา" วัดได้ 92 เดซิเบล ส่วนของ "นางฟ้ามาเรีย" วัดได้ 101.2 เดซิเบล เทียบเท่าเสียงไซเรนรถตำรวจ
ทั้งนี้ คาซัลส์ ที่ตัดสินใจนั่งชมแมตซ์รอบชิงชนะเลิศหญิงเดี่ยวในบ้านพักของตนเอง ก็ออกมาแนะให้แฟนเทนนิสอย่าลืมหาที่อุดหูก่อนเข้าสนาม "คุณต้องการที่อุดหูอย่างแน่นอน เพราะเมื่อคุณชมอยู่ที่บ้าน คุณสามารถลดเสียงทีวีของตัวเองได้ แต่มันคงทำแบบนั้นไม่ได้แน่เมื่อคุณนั่งชมเกมในสนาม"
