ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - มิเชล วี นักกอล์ฟสาวคนดังชาวสหรัฐฯ กำลังจะเรียนจบที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในเดือนมีนาคมนี้แล้วและเธอจะมีสมาธิให้กับการเล่นกอล์ฟอาชีพอย่างเต็มที่ สิ่งที่น่าสนใจคืออดีตสาวน้อยมหัศจรรย์ของวงการก้านเหล็กรายนี้จะสามารถดึงพรสวรรค์ที่มีอยู่แสดงออกมาให้เราเห็นอย่างเต็มศักยภาพหรือไม่
ก่อนเริ่มลงแข่งขันรายการแรกของฤดูกาล 2012 ในศึกฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ที่ประเทศไทย เมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ที่แล้ว มิเชล วี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว "เอพี" ว่ามีความสุขที่ตัดสินใจเรียนปริญญาตรีควบคู่ไปกับการเล่นกอล์ฟอาชีพ เพราะประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัยเกือบ 5 ปีก็ทำให้เธอมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ความมีวุฒิภาวะของโปรวัย 22 ปีเห็นได้จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปโดยข่าวด้านลบเสียๆหายๆลดน้อยลงผิดจากชีวิตการเล่นกอล์ฟในช่วงแรก
สาวร่างโย่งสร้างชื่อเสียงมาตั้งแต่เด็กสมัยเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น จนอายุเพียง 12 ปีก็ได้รับเชิญลงเล่นกับโปรชายในศึกพีจีเอ ทัวร์ รายการโซนี โอเพน ซึ่งแข่งขันบนเกาะฮาวายบ้านเกิด ต่อมาปี 2003 คว้าแชมป์กอล์ฟระดับสมัครเล่นรายการ ยูเอส วีเมนส์ พับลิค ลิงค์ส ซึ่งไม่จำกัดอายุทำให้เธอกลายเป็นแชมป์ทัวร์นาเมนท์ของสมาคมกอล์ฟสมัครเล่นสหรัฐอเมริกาอายุน้อยที่สุดด้วยวัย 13 ปี หลังจากนั้นตอนอายุ 15 ปีเคยขึ้นเป็นผู้นำร่วมหลังจบการแข่งขัน 54 หลุมของเมเจอร์หญิงรายการ ยูเอส วีเมนส์ โอเพน ความเก่งกาจของหนูน้อยมิเชล วี นอกจากชื่อเสียงแล้วยังทำให้เงินทองไหลมาเทมาจากการสนับสนุนของสปอนเซอร์
"บิ๊กวีซีย์" เป็นฉายาที่ มิเชล วี ถูกคนในวงการตั้งให้จากวงสวิงที่เรียบง่ายดูสบายคล้ายกับ เออร์นี เอลส์ โปรชาวแอฟริกาใต้ โดยในเดือนตุลาคมปี 2005 หรือหนึ่งสัปดาห์ก่อนอายุครบ 16 ปี เธอตัดสินใจเทิร์นโปรและปีต่อมายังมีโอกาสคว้าแชมป์เมเจอร์ของแอลพีจีเอถึง 3 รายการ ตอนนั้นสาวเชื้อสายเกาหลีกลายเป็นนักกอล์ฟหญิงที่แฟนติดตามมากกว่า แอนนิกา โซเรนสตัม อดีตมือ 1 ของโลกชาวสวีดิชสมัยรุ่งๆเสียอีก
แต่หลายอย่างเปลี่ยนไปหลังจาก มิเชล วี ได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือจนเป็นปัญหาเรื้อรั้ง เธอเคยถอนตัวจากทัวร์นาเมนท์หนึ่งในปี 2007 โดยอ้างว่าเป็นเพราะอาการเจ็บ แต่สัปดาห์ถัดมากลับไปเล่นลงในรายการเมเจอร์จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเธอถอนตัวเพราะเล่นไม่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษจากกฎทำสกอร์เกิน 88 ซึ่งจะทำให้หมดสิทธิ์เล่นแอลพีจีเอ ทัวร์ เป็นเวลา 1 ปี ตลอดปีนั้นในการลงเล่นรายการต่างๆสาวหุ่นชะลูดไม่สามารถทำสกอร์ต่ำกว่าพาร์ได้เลย และยังถอนตัวจากเมเจอร์ รายการ บริติช วีเมนส์ โอเพน อีก ตอนนั้นชีวิตของโปรสาวหน้าหมวยเลวร้ายมาก แต่สิ่งที่ทำให้เกิดจุดพลิกพลันอีกครั้งคือการเริ่มต้นเข้าเรียนปีแรกที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กระทั่งสำเร็จการศึกษาและเตรียมเข้าพิธีรับปริญญาบัตรด้านสื่อสารมวลชนในเดือนมิถุนายนนี้
ตั้งแต่ผ่านการคัดเลือกคิว-สคูล ได้เป็นสมาชิกของแอลพีจีเอ ทัวร์ ในปี 2009 เราไม่ได้ยินข่าวพฤติกรรมแบบ “เด็กไม่ยอมโต” ของมิเชล วี อีก ดูเธอมีความรับผิดชอบมากขึ้นและเริ่มได้รับความเคารพจากเพื่อนร่วมวงการ อย่างกรณีล่าสุดโปรขวัญใจหนุ่มๆรีบออกมาขอโทษแฟนกอล์ฟแดนลอดช่องสำหรับการกระทำที่ไม่เหมาะสมระหว่างการเล่นรอบสุดท้าย ศึกกอล์ฟรายการ "เอชเอสบีซี วีเมนส์ แชมเปียนส์" ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเธอโมโหตัวเองหลังจากตีทีช็อตหลุม 17 ไปยังแนวต้นไม้จนเอาหัวไม้กอล์ฟฟาดพื้นและสบถคำหยาบ
ในบทสัมภาษณ์เดียวกัน จูลี อิงคสเตอร์ โปรสาวอเมริกันระดับตำนาน ซึ่งพบปะกับ มิเชล วี หลายครั้งเมื่อนักกอล์ฟรุ่นน้องมาฝึกซ้อมที่สนามลอส อัลตอส คันทรี คลับ ซึ่งสามีของเธอเป็นหัวหน้าโปรอยู่ เชื่อว่าก้านเหล็กเจ้าของส่วนสูง 185 ซม.มีพรสวรรค์ที่จะเป็นนักกอลฟที่ดีได้ โดยเฉพาะปีนี้ที่หมดภารกิจจากการเรียนแล้ว เช่นเดียวกับ ไมเคิล วาน ประธานบริหารของ แอลพีจีเอ ทัวร์ ที่สนับสนุนว่า มิเชล วี จะสามารถทำผลงานจนลบเสียงวิจารณ์
มิเชล วี เล่นแอลพีจีเอ ทัวร์ ในปีนี้เป็นฤดูกาลที่ 4 เคยคว้าแชมป์ 2 รายการ สิ่งที่ยังขาดอยู่คือการคว้าแชมป์เมเจอร์ นอกจากฝึกซ้อมเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายดังกล่าวแล้ว เธอบอกว่าตอนนี้กำลังควบคุมอาหารด้วยการงดกินอาหารจำพวกแป้งและธัญพืชซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดอาการแพ้ โดยหวังเลียนแบบความสำเร็จของ โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสชาวเซิร์บ ที่ใช้การไดเอทวิธีนี้จนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ก้าวขึ้นมาครองมือ 1 โลกวงการลูกสักหลาด
เรื่องโดย วุฒิวรรณ วิศาลวรรณ์
