อาร์เยน ร็อบเบน กองกลางของฮอลแลนด์ สวมบทฮีโร่ยิงประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พา "อัศวินสีส้ม" บุกเชือด "สิงโตคำราม" อังกฤษ ไปแบบสุดระทึก 3-2 ในเกมอุ่นเครื่องทีมชาติ คืนวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่เยอรมนี พ่ายคารังต่อ ฝรั่งเศส 1-2
ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ
อังกฤษ 2-3 ฮอลแลนด์
เกมที่สนามเวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ของ สจวร์ต เพียร์ซ กุนซือขัดตาทัพ พบกับ ฮอลแลนด์ รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ของ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์ เกมนี้ เพียร์ซ มอบหมายปลอกแขนกัปตันทีมให้ สกอตต์ ปาร์คเกอร์ แข้งท็อตแนม ฮอทสเปอร์ส ด้านตัวผู้เล่นมี แดนนี เวลเบ็ค รอประสานงาน สตีเวน เจอร์ราร์ด ส่วนทีมเยือนจัดชุดใหญ่ส่ง อาร์เยน ร็อบเบน,เวสลีย์ สไนจ์เดอร์,โรบิน ฟาน เพอร์ซี และ เดิร์ค เคาท์ ป่วนเกมรับอังกฤษ
เริ่มเกม 6 นาที เจ้าบ้านเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะขึ้นโหม่งลูกเตะมุมของ เคฮิลล์ ที่สะบัดศรีษะเช็ดบอลไปเสาสอง แต่เฉี่ยวออกไปแค่นิดเดียว จากนั้นนาที 13 ฮอลแลนด์ ได้โอกาสยิงบ้าง ร็อบเบน เลี้ยงจี้เข้ามาจากฝั่งซ้าย ก่อนตัดสินใจยิงด้วยซ้าย แต่ฮาร์ทยังป้องกันไว้ได้
ฮอลแลนด์ เริ่มขึงเกมบุกได้ต่อเนื่องหลังผ่านไป 15 นาที แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคม ส่วนอังกฤษ นาที 24 หวุดหวิดได้ประตูนำ เคาท์ โหม่งสกัดพลาด บอลเข้าทาง เวลเบ็ค วิ่งควบขึ้นไปหน้าปากประตู แต่สเตเคเลนเบิร์ก ออกมาตัดบอลได้ทัน และนาที 25 จอห์นสัน ซัดด้วยขวาบริเวณเขตโทษด้านขวา แต่บอลออกหลังไป
นาที 30 สจวร์ต เพียร์ซ กุนซืออังกฤษ เปลี่ยนตัวส่ง ดาเนียล สเตอริดจ์ กองหน้าดาวรุ่งเชลซี เล่นแทน สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ดูมีปัญหาบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งรูปเกมอังกฤษ เริ่มบุกมาในแดนทีมเยือนบ่อยครั้ง และก่อนหมดเวลา จอห์นสัน บอมบ์ยาวจากกราบซ้าย เข้าหา แอชลีย์ ยัง โขกจ่อๆแต่บอลข้ามคาน จบครึ่งแรก เสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมเปิดเกมรุกแลกกันสนุกสูสี นาที 53 ฮุนเตลาร์ ที่ลงมาแทนฟาน เพอร์ซี เลี้ยงจี้ขึ้นมาก่อนสับไกนอกเขตโทษ ทว่าบอลกลิ้งหลุดเสาสองไปนิดเดียว และแล้วนาที 56 ฮอลแลนด์ ก็ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะผู้เล่นอังกฤษ ปล่อยให้ร็อบเบน ลากคนเดียวครึ่งสนามขึ้นมายิงผ่านมือ ฮาร์ท เข้าไปเป็น 1-0
คล้อยหลังไม่นาน "อัศวินสีส้ม" หนีห่างเป็น 2-0 ฮุนเตลาร์ แทงออกข้างให้เคาท์ เปิดบอลตัดเข้ามา และเป็นทางฮุนเตลาร์ ที่โหม่งซุกตาข่ายเข้าไป แต่เจ้าตัวกลับได้รับบาดเจ็บจากการปะทะบริเวณศรีษะของสมอลลิง นอนพับคาสนาม เล่นเอากุนซือทั้งสองทีมต้องเปลี่ยนตัวทั้งคู่ออกในทันที
ร็อบเบน ยังป่วนเกมรับอังกฤษได้ไม่เลิก นาที 68 แตะบอลล็อกหลบ ฟิล โจนส์ ก่อนยิงด้วยขวาในเขตโทษ แต่ไปติดบล็อกขาของ ริชาร์ดส ออกหลังไป นาที 73 อังกฤษ ได้โอกาสทอง ดาวนิง เปิดบอลตัดเข้ากลางให้เบนส์ สับไกแฉลบกองหลังฮอลแลนด์ สเตอริดจ์ โฉบเข้ามายิงแต่บอลแป้กเข้ามือสเตเคเลนเบิร์ก
ท้ายเกม อังกฤษ กู้หน้าคืนมาได้เป็น 1-2 เบนส์ แทงทะลุช่องให้ เคฮิลล์ ฉีกแนวรับฮอลแลนด์ ล็อกหลบหนึ่งจังหวะ และซัดผ่านมือสเตเคเลนเบิร์กเข้าไป และช่วงทดเจ็บ แอชลีย์ ยัง ก็มายิงอีกลูกให้อังกฤษตีเสมอเป็น 2-2 เล่นเอาแฟนเจ้าบ้านเฮลั่นสนาม
ทว่าสุดท้ายมีดราม่าเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที เมื่อ ร็อบเบน กดประตูที่สองตัวเองในเกมนี้ พาฮอลแลนด์ พลิกนำ 3-2 และจบเกมที่สนามเวมบลีย์ไปแบบสุดมันส์ด้วยชัยชนะของขุนพลฟลายอิง ดัตช์แมน
ส่วนผลอีกคู่ที่เตะไล่เลี่ยกัน "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี เสียท่าพ่ายบ้านต่อ "น้ำหอม" ฝรั่งเศส 1-2 โดยเกมนี้ทีมเยือนได้ประตูจาก โอลิวิเยร์ ชีรูด์ และ ฟลอร็องต์ มาลูดา ส่วนเจ้าบ้านยิงกู้หน้าในช่วงท้ายเกมจาก คาเคา
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท,คริส สมอลลิง,แกรี เคฮิลล์,เลห์ตัน เบนส์,ไมกาห์ ริชาร์ดส,แกเร็ธ แบร์รี,สกอตต์ ปาร์คเกอร์,อดัม จอห์นสัน,แอชลีย์ ยัง,สตีเวน เจอร์ราร์ด,แดนนี เวลเบ็ค
ฮอลแลนด์ : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก,โยริส มาไธจ์เซน,จอห์น ไฮทิงกา,เอริก เพียเตอร์ส,คาลิด บูลารูซ,มาร์ค ฟาน บอมเมล,ไนเจล เดอ ยองก์,อาร์เยน ร็อบเบน,เวสลีย์ สไนจ์เดอร์,เดิร์ก เคาท์,โรบิน ฟาน เพอร์ซี
ผลฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ วันที่ 29 ก.พ. 55
นิวซีแลนด์ 2-3 จาไมกา
ฟิลิปปินส์ 1-1 มาเลเซีย
ฮ่องกง 5-1 ไต้หวัน
อาเซอร์ไบจาน 0-2 ปาเลสไตน์
ลัตเวีย 0-0 คาซัคสถาน
ไซปรัส 0-0 เซอร์เบีย
จอร์เจีย 2-1 อัลบาเนีย
โมลโดวา 0-0 เบลารุส
อาร์เมเนีย 3-1 แคนาดา
ฮังการี 1-1 บัลแกเรีย
อิสราเอล 2-3 ยูเครน
มอนเตเนโกร 2-1 ไอซ์แลนด์
ตูนีเซีย 1-1 เปรู
ลักเซมเบิร์ก 2-1 มาซีโดเนีย
มัลตา 2-1 ลิคเทนสไตน์
ตุรกี 1-2 สโลวาเกีย
โรมาเนีย 1-1 อุรุกวัย
แอฟริกาใต้ 0-0 เซเนกัล
เดนมาร์ก 0-2 รัสเซีย
โมร็อคโค 2-0 บูร์กินา ฟาโซ
ออสเตรีย 3-1 ฟินแลนด์
โครเอเชีย 1-3 สวีเดน
กรีซ 1-1 เบลเยียม
สวิตเซอร์แลนด์ 1-3 อาร์เจนตินา
อิตาลี 0-1 สหรัฐอเมริกา
ไอร์แลนด์เหนีอ 0-3 นอร์เวย์
โปแลนด์ 0-0 โปรตุเกส
สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 1-1 สาธารณรัฐเช็ก
สโลวีเนีย 1-1 สกอตแลนด์
เวลส์ 0-1 คอสตา ริกา
เยอรมนี 1-2 ฝรั่งเศส
อังกฤษ 2-3 ฮอลแลนด์
สเปน 5-0 เวเนซูเอลา