มาริโอ บาโลเตลลี สวมบทฮีโร่ซูเปอร์ซับ ลงมาซัดจุดโทษในช่วงทดเวลาพา "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี เฉือนชนะ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ส ไปแบบสุดระทึก 3-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก บิ๊กแมตซ์คืนวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-2 ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ส
บิ๊กแมตซ์คู่แรกคืนวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่กำลังลุ้นขับเคี่ยวแชมป์พรีเมียร์ลีกไปกับคู่ปรับร่วมเมือง "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ส เกมนี้เจ้าบ้านขนผู้เล่นเกมรุกลงสนามเต็มสูบ โดยมีมาริโอ บาโลเตลลี สตาร์ดาวรุ่งจากอิตาลี หายเจ็บกลับมานั่งสำรอง ส่วนทีมเยือนจัดเต็มส่ง แกเร็ธ เบล และ อารอน เลนนอน ทำเกมริมเส้นและมี เจอร์เมน เดโฟ กับ ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท คอยล่าตาข่ายในแดนหน้า
10 นาทีแรก ทั้งสองทีมครองบอลอยู่กลางสนาม โอกาสทำประตูยังมีน้อย จนกระทั่งนาที 17 ซิตี ได้ลุ้นครั้งแรก ซิลบา ตวัดบอลเข้าในให้อกูเอโร วิ่งมาแปด้วยขวาแต่บอลหลุดเสาแรกนิดเดียว ต่อมานาที 25 อกูเอโร กระชากบอลทะลุขึ้นเขตโทษ ก่อนป้ายให้ซิลบา ลากไปยิงต่อแต่บอลกลิ้งออกเสาสอง
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ซิตีทำเสียวอีกรอบ ไมกาห์ ริชาร์ดส ตะลุยขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ซิลบาที่รออยู่โล่งๆหน้าเขตโทษ สับไกสังหารแต่ฟรีเดลยังเหนียว เซฟช่วยทีมได้หวุดหวิด ส่วนสเปอร์ส พยายามต่อบอลบุกขึ้นมาแต่ยังหาจังหวะยิงไม่ได้
เกมรับของสเปอร์สทำหน้าที่ได้อย่างเหนียวแน่นไม่ปล่อยให้ อกูเอโร และ เซโก บุกขึ้นมายิงได้ในช่วงท้ายครึ่งแรก แต่กลับกันทีมเยือนก็หาจังหวะยิงเองไม่ได้เช่นกัน ทำให้จบครึ่งแรก เสมอกันไปอย่างจืดชืด 0-0
ครึ่งหลังทีมเยือนเริ่มทำเกมบุกสู้ นาที 51 เบลกระชากขึ้นมาเกือบถึงเขตโทษ แต่มิลเนอร์ยังสปีดตามมาสกัดบอลได้ทันเวลา แต่หลังจากนั้นนาที 55 ซิตี ก็พังประตูแรกของเกมได้สำเร็จ จังหวะซิลบา แทงทะลุช่องให้นาสรี สลัดหนีวอล์คเกอร์เข้ามายิงแสกหน้าฟรีเดล เข้าไปอย่างสวยงามเป็น 1-0
คล้อยหลังมา 3 นาที "เรือใบสีฟ้า" หนีห่างเป็น 2-0 จังหวะเปิดมุมฝั่งซ้ายของเจ้าบ้าน บอลลอยเข้ามาโดนตัวของเลสคอตต์ กลิ้งเข้าประตูไปแบบเหนือความคาดหมาย อย่างไรก็ตาม "ไก่เดือยทอง" ได้ประตูคืนมาอย่างรวดเร็ว จังหวะกาบูล สาดบอลสวนกลับ แต่ซาวิช แนวรับของซิตี โหม่งสกัดไปเข้าทางเดโฟ ก่อนล็อกหลบหนีฮาร์ทหนึ่งจังหวะและแปเข้าไปนิ่มๆ ทำให้สกอร์ไล่มาเป็น 1-2
เกมสนุกเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดนาที 64 สเปอร์สก็มาได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 เลนนอน ลากมาจากฝั่งซ้ายก่อนป้ายให้เบล ปั่นบอลไซด์โค้งไปด้านขวาสุดปัญญาที่โจ ฮาร์ท จะบินมาเซฟได้ บอลซุกตาข่ายสวยงาม เล่นเอากองเชียร์ทีมเยือน เฮลั่นสนาม แต่ แฮร์รี เรดแน็ปป์ กุนซือของทีมทำช็อคถอด ฟาน เดอ ฟาร์ท ตัวรุกชั้นดีออก แล้วเอา เจก ลิเวอร์มอร์ ลงมาแทน
แนวรับของซิตีชักเป๋ ปล่อยให้สเปอร์ส เดินเกมบุกเข้าใส่แบบไม่เกรงใจ และก่อนหมดเวลาทีมเยือนทำโอกาสยิงประตูเฉือนชัยหลุดลอยในพริบตา จังหวะทำเกมสวนกลับของเบล วิ่งหลุดขึ้นมาก่อนป้ายให้เดโฟ ชาร์จจ่อๆแต่บอลหลุดเสาสองแบบเหลือเชื่อ และดราม่าของเกมเริ่มขึ้นในช่วงทดเวลา เมื่อซิตีได้จุดโทษ จังหวะคิงไปเสียบบาโลเตลลีล้มในเขตโทษ ก่อนที่บาโลเตลลี สังหารไม่พลาดให้ทีมพลิกนำ 3-2 และจบเกมไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
ผลของนัดนี้ ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" เก็บ 3 แต้มในบ้านแบบสุดระทึกมี 54 แต้มในมือ ยึดจ่าฝูงต่อพร้อมฉีก "ผีแดง" หนีเป็น 6 แต้ม ส่วนไก่เดือยทองมี 46 แต้ม ยึดอันดับที่ 3 ต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี : โจ ฮาร์ท,โจลีออน เลสคอตต์,สเตฟาน ซาวิช,กาแอล กลีชี,ไมกาห์ ริชาร์ดส,แกเร็ธ แบร์รี,เจมส์ มิลเนอร์,ดาบิด ซิลบา,ซามีร์ นาสรี,เอดิน เซโก,เซร์คิโอ อกูเอโร
ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ส : แบรด ฟรีเดล,เลดลีย์ คิง,ยูเนส กาบูล,เบอนัวต์ อัซซู-เอก็อตโต,ไคล์ วอล์คเกอร์,สก็อต ปาร์คเกอร์,ลูกา โมดริช,แกเร็ธ เบล,อารอน เลนนอน,เจอร์เมน เดโฟ,ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท