คอลัมน์ "Final Quarter" โดย "ลุงแซม"
นับถอยหลังกันแล้วสำหรับศึกซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 46 ที่เตรียมระเบิดความมันในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ "นักรบกู้ชาติ" นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ จะสร้างจักรวรรดิความยิ่งใหญ่ (ไดนาสตี้) สำเร็จหรือไม่ หลังจากเคยซิว "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" ช่วงต้นสหัสวรรษใหม่ (ปี 2001, 2003 และ 2004) หรือปล่อยให้ "ยักษ์ใหญ่" นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ย้ำแค้นขึ้นเถลิงแชมป์สมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ต่อจากปี 1986, 1990 และ 2007 ผู้เขียนคงได้มาพรีวิวเป็นการเรียกน้ำย่อยผ่านหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่ 3 ก.พ. 2555 รวมถึงเว็บไซต์ www.manager.co.th
แต่ในคอลัมน์ตอนนี้ผู้เขียนขอหยิบยกกระแสร้อนในแวดวงอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) มาเล่าสู่กันฟัง นั่นก็คือเรื่องราวของ "เพย์ตัน แมนนิง" ซึ่งอนาคตยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะออกหัวหรือก้อย นับตั้งแต่เข้ารับการผ่าตัดบริเวณต้นคอเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แมนนิง ใช้เวลาฟื้นตัวนานเกินคาด เหตุจากกล้ามเนื้อยังไม่สมาน 100 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งระบบเส้นประสาทถือเป็นเรื่องที่บอบบาง ถึงวันนี้ทีมแพทย์ยังไม่กล้าการันตีได้ว่าควอเตอร์แบ็กอัจฉริยะที่จะอายุครบ 36 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 24 มีนาคม สามารถคืนสนามได้เมื่อไหร่ อาจต้องใช้เวลาสัก 6 เดือน ซึ่งถ้าว่ากันด้วยเรื่องของธุรกิจ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส คงต้องยอมตัดใจปล่อยตำนานออกจากถิ่นลูคัส ออยล์ สเตเดียม ก่อน 8 มีนาคม วันที่ต้องจ่ายโบนัสติดทีมก้อนโตให้ แมนนิงผู้พี่ ถึง 28 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 840 ล้านบาท)
ณ วันนี้ จิม เออร์เซย์ เจ้าของทีม "เกือกม้า" พยายามรับมือกับสื่อทุกสำนักที่แห่แหนมาเยือน อินเดียนาโปลิส เจ้าภาพซูเปอร์โบว์ล ด้วยการโบ้ยทำนอง ครอบครัว "แมนนิง" ขอมุ่งมั่นเชียร์ อีลาย แมนนิง คว้าแหวนแชมป์วงที่สองในชีวิต ส่วนโคลต์สแบ่งรับแบ่งสู้ขอเช็คความเป็นไปได้ในการลงสนามฤดูกาล 2012/13 ของ แมนนิงผู้พี่ จนถึงวันสุดท้ายของเดดไลน์ (8 มี.ค.) และไม่ปิดโอกาสที่ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 4 สมัย จะอยู่ในทีมเดียวกันกับ แอนดรูว์ ลัก จอมทัพดาวโรจน์แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่คาดว่าคงถูกปักป้าย "นัมเบอร์วัน ดราฟท์" ใส่แน่อนในวันที่ 27 เมษายนนี้
โดยแหล่งข่าววงในยืนยัน แมนนิง มุ่งมั่นหวังคืนสนาม ซึ่งเจ้าตัวประกาศชัดยังไม่มีความคิดรีไทร์อยู่ในหัวแม้แต่น้อย ทว่าด้วยสังขารที่ร่วงโรย เออร์เซย์ ย่อมต้องคิดถึงการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่ เพราะก่อนหน้านี้เขาสั่งปลด บิลล์ โพเลียน พร้อมกับดึง ไรอัน กริกสัน ผู้จัดการทั่วไปคนหนุ่มมาช่วยบริหารจัดการ ส่วน จิม คัลด์เวลล์ สังเวยซีซันแห่งความชอกช้ำ (ชนะ 2 แพ้ 14 เกม) ถูกเขี่ยทิ้ง ต้องระเห็จไปเป็นโค้ชควอเตอร์แบ็ก บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ทว่า "เกือกม้า" ก็ไปโขยกรัง "อีกาพญายม" ซิวตัว ชัก ปากาโน โค้ชทีมรับวัย 51 ปี มานั่งแท่นหัวหน้าโค้ชแทนก่อนหน้านี้แล้ว ที่สำคัญถ้าประเมินสถานการณ์ แมนนิง ไปต่อไม่ไหวแน่ เงินโบนัสก้อนโตสามารถผันไปต่อสัญญาฟรีเอเยนต์อย่าง เรจจี เวย์น, ปิแอร์ การ์ซ็อง หรือ เจฟฟ์ ซัทเธอร์เดย์ นั่นคงเป็นการดำเนินธุรกิจที่ชาญฉลาดกว่า
เกิดวันนั้นมาถึงจริงต้องซื้อใจ แมนนิง ว่าอยากปิดฉากอาชีพกับโคลต์สเพียงทีมเดียว พร้อมสถิติขว้าง 54,828 หลา 399 ทัชดาวน์ ตลอดการเล่น 13 ฤดูกาล หรือขอเสี่ยงดวงอีกสักตั้ง เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวหนาหู นิวยอร์ก เจ็ตส์ เป็นทีมแรกๆ ที่พร้อมโดดใส่เพื่อมาทำหน้าที่แทน มาร์ค ซานเชซ ขณะที่ อริโซนา คาร์ดินัลส์ หรือแม้แต่ วอชิงตัน เรดสกินส์ อาจหันเหความสนใจมาที่ผู้เล่นหมายเลข 18 แทนที่ฝ่ายหลัง (อินเดียนแดง) จะเลือกหาทางถีบตัวเองจากอันดับ 6 ไปลุ้นดราฟท์ทีมที่ 2 เพื่อลุ้นซิวตัว โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ดีกรีไฮส์แมน โทรฟี ของมหาวิทยาลัยเบย์เลอร์
นี่เป็นสถานการณ์ปัจจุบันที่นำมาอัพเดทกัน แน่นอนว่าผู้เขียนยังอยากเห็นอดีตดราฟ์คนแรกของปี 1998 โลดแล่นในสนาม เปลี่ยนแผนตรงแนววางลูกคอยล่อหลอกทีมรับคู่แข่งอยู่ต่อไป หรือถ้า แมนนิง เลือกย้ายทีมก็ยังมีประเด็นให้น่าติดตาม เพียงแต่หากบุตรชายคนรองของ อาร์ชี แมนนิง อดีตควอเตอร์แบ็ก นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส เลือกรีไทร์จริง เชื่อเหลือเกินว่าไม่มีใครลืมตำนานผู้นี้ได้ลง "เพย์ตัน แมนนิง" จะคงอยู่ในใจสาวกโคลต์สตลอดไป
นับถอยหลังกันแล้วสำหรับศึกซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 46 ที่เตรียมระเบิดความมันในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ "นักรบกู้ชาติ" นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ จะสร้างจักรวรรดิความยิ่งใหญ่ (ไดนาสตี้) สำเร็จหรือไม่ หลังจากเคยซิว "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" ช่วงต้นสหัสวรรษใหม่ (ปี 2001, 2003 และ 2004) หรือปล่อยให้ "ยักษ์ใหญ่" นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ย้ำแค้นขึ้นเถลิงแชมป์สมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ต่อจากปี 1986, 1990 และ 2007 ผู้เขียนคงได้มาพรีวิวเป็นการเรียกน้ำย่อยผ่านหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่ 3 ก.พ. 2555 รวมถึงเว็บไซต์ www.manager.co.th
แต่ในคอลัมน์ตอนนี้ผู้เขียนขอหยิบยกกระแสร้อนในแวดวงอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) มาเล่าสู่กันฟัง นั่นก็คือเรื่องราวของ "เพย์ตัน แมนนิง" ซึ่งอนาคตยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะออกหัวหรือก้อย นับตั้งแต่เข้ารับการผ่าตัดบริเวณต้นคอเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แมนนิง ใช้เวลาฟื้นตัวนานเกินคาด เหตุจากกล้ามเนื้อยังไม่สมาน 100 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งระบบเส้นประสาทถือเป็นเรื่องที่บอบบาง ถึงวันนี้ทีมแพทย์ยังไม่กล้าการันตีได้ว่าควอเตอร์แบ็กอัจฉริยะที่จะอายุครบ 36 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 24 มีนาคม สามารถคืนสนามได้เมื่อไหร่ อาจต้องใช้เวลาสัก 6 เดือน ซึ่งถ้าว่ากันด้วยเรื่องของธุรกิจ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส คงต้องยอมตัดใจปล่อยตำนานออกจากถิ่นลูคัส ออยล์ สเตเดียม ก่อน 8 มีนาคม วันที่ต้องจ่ายโบนัสติดทีมก้อนโตให้ แมนนิงผู้พี่ ถึง 28 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 840 ล้านบาท)
ณ วันนี้ จิม เออร์เซย์ เจ้าของทีม "เกือกม้า" พยายามรับมือกับสื่อทุกสำนักที่แห่แหนมาเยือน อินเดียนาโปลิส เจ้าภาพซูเปอร์โบว์ล ด้วยการโบ้ยทำนอง ครอบครัว "แมนนิง" ขอมุ่งมั่นเชียร์ อีลาย แมนนิง คว้าแหวนแชมป์วงที่สองในชีวิต ส่วนโคลต์สแบ่งรับแบ่งสู้ขอเช็คความเป็นไปได้ในการลงสนามฤดูกาล 2012/13 ของ แมนนิงผู้พี่ จนถึงวันสุดท้ายของเดดไลน์ (8 มี.ค.) และไม่ปิดโอกาสที่ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 4 สมัย จะอยู่ในทีมเดียวกันกับ แอนดรูว์ ลัก จอมทัพดาวโรจน์แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่คาดว่าคงถูกปักป้าย "นัมเบอร์วัน ดราฟท์" ใส่แน่อนในวันที่ 27 เมษายนนี้
โดยแหล่งข่าววงในยืนยัน แมนนิง มุ่งมั่นหวังคืนสนาม ซึ่งเจ้าตัวประกาศชัดยังไม่มีความคิดรีไทร์อยู่ในหัวแม้แต่น้อย ทว่าด้วยสังขารที่ร่วงโรย เออร์เซย์ ย่อมต้องคิดถึงการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่ เพราะก่อนหน้านี้เขาสั่งปลด บิลล์ โพเลียน พร้อมกับดึง ไรอัน กริกสัน ผู้จัดการทั่วไปคนหนุ่มมาช่วยบริหารจัดการ ส่วน จิม คัลด์เวลล์ สังเวยซีซันแห่งความชอกช้ำ (ชนะ 2 แพ้ 14 เกม) ถูกเขี่ยทิ้ง ต้องระเห็จไปเป็นโค้ชควอเตอร์แบ็ก บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ทว่า "เกือกม้า" ก็ไปโขยกรัง "อีกาพญายม" ซิวตัว ชัก ปากาโน โค้ชทีมรับวัย 51 ปี มานั่งแท่นหัวหน้าโค้ชแทนก่อนหน้านี้แล้ว ที่สำคัญถ้าประเมินสถานการณ์ แมนนิง ไปต่อไม่ไหวแน่ เงินโบนัสก้อนโตสามารถผันไปต่อสัญญาฟรีเอเยนต์อย่าง เรจจี เวย์น, ปิแอร์ การ์ซ็อง หรือ เจฟฟ์ ซัทเธอร์เดย์ นั่นคงเป็นการดำเนินธุรกิจที่ชาญฉลาดกว่า
เกิดวันนั้นมาถึงจริงต้องซื้อใจ แมนนิง ว่าอยากปิดฉากอาชีพกับโคลต์สเพียงทีมเดียว พร้อมสถิติขว้าง 54,828 หลา 399 ทัชดาวน์ ตลอดการเล่น 13 ฤดูกาล หรือขอเสี่ยงดวงอีกสักตั้ง เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวหนาหู นิวยอร์ก เจ็ตส์ เป็นทีมแรกๆ ที่พร้อมโดดใส่เพื่อมาทำหน้าที่แทน มาร์ค ซานเชซ ขณะที่ อริโซนา คาร์ดินัลส์ หรือแม้แต่ วอชิงตัน เรดสกินส์ อาจหันเหความสนใจมาที่ผู้เล่นหมายเลข 18 แทนที่ฝ่ายหลัง (อินเดียนแดง) จะเลือกหาทางถีบตัวเองจากอันดับ 6 ไปลุ้นดราฟท์ทีมที่ 2 เพื่อลุ้นซิวตัว โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ดีกรีไฮส์แมน โทรฟี ของมหาวิทยาลัยเบย์เลอร์
นี่เป็นสถานการณ์ปัจจุบันที่นำมาอัพเดทกัน แน่นอนว่าผู้เขียนยังอยากเห็นอดีตดราฟ์คนแรกของปี 1998 โลดแล่นในสนาม เปลี่ยนแผนตรงแนววางลูกคอยล่อหลอกทีมรับคู่แข่งอยู่ต่อไป หรือถ้า แมนนิง เลือกย้ายทีมก็ยังมีประเด็นให้น่าติดตาม เพียงแต่หากบุตรชายคนรองของ อาร์ชี แมนนิง อดีตควอเตอร์แบ็ก นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส เลือกรีไทร์จริง เชื่อเหลือเกินว่าไม่มีใครลืมตำนานผู้นี้ได้ลง "เพย์ตัน แมนนิง" จะคงอยู่ในใจสาวกโคลต์สตลอดไป