xs
xsm
sm
md
lg

"เดอ บรุยน์" ชูเสื้อฝันเป็นจริงซบเชลซี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เดอ บรุยน์ จะลากเลื้อยสะเด่าแค่ไหน
"เควิน เดอ บรุยน์" ปีกทีมชาติเบลเยี่ยมบอกว่าความฝันของตัวเองได้เป็นจริงแล้ว หลังจากที่เขาได้เซ็นสัญญาเข้าสู่ทีม "สิงโตน้ำเงินคำราม" เชลซี แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระยะเวลา 5 ปีครึ่ง ก่อนตลาดซื้อ-ขาย นักเตะ ปิดในวันอังคารที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา

โดยความฝันของดาวรุ่งชาวเบลเยี่ยมครั้งนี้จะเป็นจริงต้องรอให้จบฤดูกาลนี้เสียก่อนเนื่องจากต้องกลับไปเล่นให้กับสโมสร ราซิง เกงค์ ในลีกบ้านเกิด ด้วยการยืมตัวไปก่อน ตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาดังกล่าว จึงจะกลับมาสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ได้อีกครั้งหนึ่งในฤดูกาลหน้า

เว็บไซด์ของสโมสรเผยภายหลังที่ เดอ บรุยน์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมโดยกล่าวว่า "สมัยที่ผมอยู่ที่เกงค์ ลีกในบ้านเกิด ตอนนั้นเป็นเยาวชนของทีมและฝันอยากจะมาร่วมทีมเชลซีให้จงได้ แล้วตอนนี้ ความฝันของผมที่ได้เป็นจริง ของจริงเพิ่งเริ่มต้น เราต้องทำงานหนัก ยังมีหลายเกมที่ต้องเผชิญ ถ้าทีมผลงานไม่ดี ก็ต้องโชว์ศักยภาพของตัวเองที่มีอยู่ให้ทีมเห็นให้ได้ สมัยทีเล่นให้เกงค์ อยู่ในตำแหน่งปีกซ้าย แต่สมัยเยาวชนเล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง และถนัดเล่นได้ทั้งเท้าซ้ายและขวาโดยเฉพาะข้างขวา ซึ่งมีส่วนที่ทำให้ทีมเกงค์ คว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ"

ซึ่งดาวรุ่งวัย 20 ปี เผยถึงสาเหตุที่มาเชลซีว่า "สาเหตุที่ผมมาอยู่ที่นี่เพราะแม่มีเชื้ออังกฤษครึ่งหนึ่ง เมื่อตอนเด็ก ครอบครัวของผมเป็นแฟนบอลทีมลิเวอร์พูล แต่ในตอนนี้ผมเล่นให้กับเชลซีก็ต้องแสดงความเป็นมืออาชีพ ต้องแยกให้ออกระหว่างส่วนตัวกับงานให้ได้ โดยฤดูกาลหน้าจะย้ายมาอยู่ที่ลอนดอน คงจะพักแถบค็อปแฮม ถ้าอยู่แล้วดี ก็คงอยู่ที่นั่นถาวรเลย"

ทั้งนี้ปีกชาวเบลเยี่ยมได้คุยกับเพื่อนร่วมชาติอย่างโรเมลู ลูกากู เมื่อวันจันทร์ที่30 มกราคมก่อนที่เชลซีเสมอกับสวอนซี ซิตี้ที่สนาม ลิเบอร์ตี สเตเดียม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ธิโบต์ คูร์ตัวส์ ที่ตอนนี้ย้ายไปอยู่ที่ แอตเลติโก มาดริด ด้วยสัญญายืมตัว เรียบร้อยแล้ว

สำหรับผลงานของเดอ บรุยน์ สมัยเล่นที่ ราซิง เกงค์ ลีกแห่งเบลเยี่ยม โดยยิงได้ 5 ประตู และจ่ายให้เพื่อนทำประตูได้ 16 ครั้งช่วย ให้ ต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกมาครองได้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา รวมถึงฤดูกาลล่าสุดที่นำทีมต้นสังกัด เจอกับทีม เชลซี ในเกม ยูฟา แชมป์เปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ทั้งสองนัด โดยแพ้ เชลซี ค่าถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ไป 0-5 ก่อนจะกลับมาเสมอในบ้านตัวเอง 1-1 เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2011
กำลังโหลดความคิดเห็น