นิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสร “วัวชนแดนใต้” สงขลา เอฟซี เผยกรณีปัญหาโอนสิทธิ์การทำทีม "ลาวาเพลิง" บุรีรัมย์ เอฟซี หลังยืดเยื้อมานานนี้น ตอนนี้สรุปเรียบร้อย ปีหน้าเตรียมคุมทั้ง 2 ทีม แย้มดัน "เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ คุมทัพลุยไทยฯลีก
เป็นเรื่องวุ่นวายมานานสำหรับสิทธิการทำทีมของ "ลาวาเพลิง" สโมสร บุรีรัมย์ เอฟซี ทีมแชมป์ในดิวิชัน1 ที่จะเลื่อนชั้นขึ้นสู่ศึก สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลหน้า หลังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยและบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกสั่งเบรกไม่ให้สิทธิ์ “วัวชนแดนใต้” สงขลา เอฟซี เข้ามาสวมสิทธิ์เลื่อนชั้นแทน โดยอ้างกฏว่า “โอนหุ้นได้แต่โอนสิทธิ์ไม่ได้”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2555 นิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสร “วัวชนแดนใต้” สงขลา เอฟซี ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าว MGR Sport ว่า “ตอนนี่ทางสงขลาได้ประชุมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อทางสมาคมบีบบังคับทางให้เราเดินเช่นนั้น เราก็คงจะต้องทำตาม โดยตอนนี้บริษัทสโมสรฟุตบอลสงขลา จำกัด ถือหุ้นในบุรีรัมย์ เอฟซี เต็ม 100% แล้ว และเราจะบริหารทั้ง 2 ทีมพร้อมกันในฤดูกาลหน้าทั้งบุรีรัมย์ เอฟซี และสงขลา เอฟซี และจะทำตามกฏทุกอย่างทั้งเรื่องสนามและชื่อทีม โดยตอนนี้เรายื่นอุทธรณ์ไปยังทางสมาคมฯเรื่องขอย้ายสนามเหย้ามาเล่นที่สงขลาได้ไหม แต่ถ้าไม่ได้เราก็คงต้องหาสนามในจังหวัดบุรีรัมย์แทน ชื่อทีมก็จะใช้ บุรีรัมย์ เอฟซี เหมือนเดิมตามที่สมาคมต้องการ เพื่อเป็นการจบปัญหา"
"และพวกเราสโมสรสงขลา เอฟซี ในฐานะผู้บริหารทีม บุรีรัมย์ เอฟซี ก็จะไปจับสลากแบ่งสายตามที่ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค. 55) แน่นอน แต่ในส่วนของประธานและคณะกรรมการนั้นคงต้องดูอีกทีว่าจะมีใครบ้าง แต่ทางด้านโค้ชนั้นเราจะให้ "เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ เข้ามาทำทีม บุรีรัมย์ เอฟซี สู้ศึกไทยฯลีกปีหน้าแทน" นายนิพนธ์ กล่าว
ส่วนเรื่องว่าถ้าหาก สงขลา เอฟซี ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยฯลีกในปีใดปีหนึ่งนั้นจะทำอย่างไร เพราะตามกฏห้ามไม่ให้ทีมที่มีผู้บริหารชุดเดียวกันทำ 2 ทีมในลีกเดียวกันพร้อมกันนั้น ประธานสโมสรเมืองใต้ได้กล่าวว่า "เมื่อถึงเวลานั้นก็ต้องตัดสินใจอีกทีว่าจะทำอย่างไร อาจจะต้องขายทีมใดทีมหนึ่งออกไปเหมือนสองทีมในบุรีรัมย์ตอนนี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องในอนาคต”