คอลัมน์ "ลูกฟุตบอลสีชมพู" โดย "ไม้ขีดไฟ"
ก่อนพักครึ่งฤดูกาล ‘เยลโล่ซับมารีน’ บีร์ยารีลตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในสภาพบอบช้ำที่สุด เล่นรอบแบ่งกลุ่ม 6 เกมเหย้า-เยือนแพ้ 100 เปอร์เซ็นต์ ยิงได้ประตู 2 เสีย 14
ต่อมาตกรอบโกปา เดอ เรย์ ด้วยฝีเท้าของทีมมิรานเดสอย่างน่าอับอาย ส่วนในลีกลา ลิก้า ร่วงรูดไปอยู่ท้ายตาราง
ผู้บริหารขยับ โจเซ่ ฟรานซิสโก โมลิน่า อดีตผู้รักษาประตู ทีมเดปอร์ติโว่ ลา คอรุนญ่า วัย ซึ่งกำลังคุมทีมบียาร์รีล ซี ขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่แทนฮวน ฮาเวียร์ การิโด้
ทีมที่ดาวยิงอันดับ 1 จูเซปเป้ รอสซี่ บาดเจ็บเขาต้องพักยาว 6 เดือน มาร์กอส เซ็นน่า กองกลางกัปตันทีมบาดเจ็บในช่วงเดียวกัน แพ้บ่อย ๆ จนนักเตะหมดแรงจูงใจ มันยากที่จะเอาชนะคู่แข่ง
กุนซือวัย 41 ปี อาศัยช่วงพักครึ่งฤดูกาล ปรับจูนหัวใจนักเตะให้หันกลับมามองโลกในแง่ดี และโฟกัสไปที่เกมในลา ลิก้า ทำอย่างไรก็ได้ ขออย่าให้ทีมตกชั้นตามข้อตกลงกับผู้บริหาร
เกมแรกของครึ่งฤดูกาลหลัง บียาร์รีลโชคดีได้เล่นในบ้านกับสปอร์ติ้ง กิฆ่อน และเอาชนะอย่างสวยงาม 3 – 0 ประตู จากฝีเท้าของมาร์โก รูเบน, โบฆ่า บาเลโร่ และโซเรียโน่ กำลังใจกับความเชื่อมั่นกลับคืนมา
เมื่อคืนวันเสาร์บียาร์รีลเปิดบ้านรับบาร์เซโลน่า นักเตะทุกคนแม้มีความเชื่อมั่น แต่ยังผวาเกมกลางเมื่อเดือนสิงหาที่ถูกบาร์เซโลน่าถล่มแหลก 5 – 0 ประตู
‘เจ้าบุญทุ่ม’ ไม่มีอันเดรียส อีเนสต้า นักเตะกองกลางที่ยากประเมินค่า เมื่อเล่นร่วมกับชาบี้ เอร์นานเดซ และลีโอเนล เมสซี่ แต่เมื่อขาดเขาทีมจึงพอประเมินค่าได้
ไม่ทราบว่าบียาร์รีลเล่นได้ดีหรือบาร์เซโลน่าเล่นไม่ดี จบเกมเสมอกัน 0 – 0 ประตู ‘เยลโล่ซับมารีน’ ขึ้นมาอยู่อันดับ 17 อย่างฮึกเหิม ต่อจากนี้จะเร่งทำคะแนนหาทางไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรป
ทีมที่หดหู่กลายเป็นบาร์เซโลน่า ซึ่งถูกรีล มาดริด ทิ้งห่างออกไป 7 คะแนน การไล่ล่าจะยากยิ่งขึ้น
‘เจ้าบุญทุ่ม’ เล่นเกมเยือนไม่น่าประทับใจ -- ชนะ 4 เสมอ 5 แพ้ 1 เก็บได้ 17 คะแนน รีล มาดริด ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 1 เก็บได้ 25 คะแนน บวกลบกันแล้ว 7 คะแนนที่บาร์เซโลน่าแพ้รีล มาดริด คือความแตกต่างจากการเล่นเกมเยือนนั่นเอง
นักเตะบาร์เซโลน่าอาจรู้สึกว่าชัยชนะเหนือรีล มาดริด ในศึกกลาสสิโก้คือสูงสุดของชัยชนะ จึงทุ่มเทลงไปที่ความรู้สึกนั้นจนลืมศึกอื่นๆ ขณะผู้พ่ายแพ้ต้องอับอายขายหน้า จนไม่มีเหตุให้ต้องเฉลิมฉลอง แถมนักเตะกับผู้จัดการทีมบาดเกิดหมางใจกันอีก ทีมทำท่าจะแตกเอากลางฤดูกาล โฮเซ่ มูรินโญ่ ถูกกดดันจากบอร์ดบริหารโดยมีข่าวติดว่าทีมทาบทามอาร์แซน เวนเกอร์ จากอาร์เซนอล กับโยอัคคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมันมานั่งเก้าอี้แทนในฤดูกาลหน้า
อิเกร์ กาซิยาส กับเซร์คิโอ รามอส คงนึกออกว่าความพ่ายแพ้ต่ออริสำคัญตนเองก็มีส่วนร่วม และการศึกยังไม่จบ จึงหอบเค้กวันเกิดปีที่ 49 ไปอวยพรเจ้านายถึงสนามซ้อม ความเป็นปึกแผ่นจึงกลับคืนมาอีกครั้ง แม้ยังไม่แกร่งทั่วแผ่น คืนวันเสาร์ครึ่งแรกเสมอทีมท้ายตารางรีล ซาราโกซ่า 1 – 1 แทบตายกว่าจะได้ชัย 3 -1 ตื่นนอนทราบผลบียาร์รีลยัดเสมอบาร์เซโลน่า 0 – 0
ช่างเป็นเช้าที่สดใสเสียจริง ๆ สำหรับนักเตะ ‘ราชันชุดขาว’ เป้าต่อไปคือถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
มูรินโญ่ ถูกผู้บริหารกดดัน ถ้ายังจะอยู่กับทีมต่อไปต้องคว้าให้ได้ 2 ถ้วย นี่อาจเป็นจุดแตกหักลึกร้าว
บางที แม้คว้า 2 แชมป์ มูรินโญ่ อาจไม่อยากอยู่แล้วก็ได้
ก่อนพักครึ่งฤดูกาล ‘เยลโล่ซับมารีน’ บีร์ยารีลตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในสภาพบอบช้ำที่สุด เล่นรอบแบ่งกลุ่ม 6 เกมเหย้า-เยือนแพ้ 100 เปอร์เซ็นต์ ยิงได้ประตู 2 เสีย 14
ต่อมาตกรอบโกปา เดอ เรย์ ด้วยฝีเท้าของทีมมิรานเดสอย่างน่าอับอาย ส่วนในลีกลา ลิก้า ร่วงรูดไปอยู่ท้ายตาราง
ผู้บริหารขยับ โจเซ่ ฟรานซิสโก โมลิน่า อดีตผู้รักษาประตู ทีมเดปอร์ติโว่ ลา คอรุนญ่า วัย ซึ่งกำลังคุมทีมบียาร์รีล ซี ขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่แทนฮวน ฮาเวียร์ การิโด้
ทีมที่ดาวยิงอันดับ 1 จูเซปเป้ รอสซี่ บาดเจ็บเขาต้องพักยาว 6 เดือน มาร์กอส เซ็นน่า กองกลางกัปตันทีมบาดเจ็บในช่วงเดียวกัน แพ้บ่อย ๆ จนนักเตะหมดแรงจูงใจ มันยากที่จะเอาชนะคู่แข่ง
กุนซือวัย 41 ปี อาศัยช่วงพักครึ่งฤดูกาล ปรับจูนหัวใจนักเตะให้หันกลับมามองโลกในแง่ดี และโฟกัสไปที่เกมในลา ลิก้า ทำอย่างไรก็ได้ ขออย่าให้ทีมตกชั้นตามข้อตกลงกับผู้บริหาร
เกมแรกของครึ่งฤดูกาลหลัง บียาร์รีลโชคดีได้เล่นในบ้านกับสปอร์ติ้ง กิฆ่อน และเอาชนะอย่างสวยงาม 3 – 0 ประตู จากฝีเท้าของมาร์โก รูเบน, โบฆ่า บาเลโร่ และโซเรียโน่ กำลังใจกับความเชื่อมั่นกลับคืนมา
เมื่อคืนวันเสาร์บียาร์รีลเปิดบ้านรับบาร์เซโลน่า นักเตะทุกคนแม้มีความเชื่อมั่น แต่ยังผวาเกมกลางเมื่อเดือนสิงหาที่ถูกบาร์เซโลน่าถล่มแหลก 5 – 0 ประตู
‘เจ้าบุญทุ่ม’ ไม่มีอันเดรียส อีเนสต้า นักเตะกองกลางที่ยากประเมินค่า เมื่อเล่นร่วมกับชาบี้ เอร์นานเดซ และลีโอเนล เมสซี่ แต่เมื่อขาดเขาทีมจึงพอประเมินค่าได้
ไม่ทราบว่าบียาร์รีลเล่นได้ดีหรือบาร์เซโลน่าเล่นไม่ดี จบเกมเสมอกัน 0 – 0 ประตู ‘เยลโล่ซับมารีน’ ขึ้นมาอยู่อันดับ 17 อย่างฮึกเหิม ต่อจากนี้จะเร่งทำคะแนนหาทางไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรป
ทีมที่หดหู่กลายเป็นบาร์เซโลน่า ซึ่งถูกรีล มาดริด ทิ้งห่างออกไป 7 คะแนน การไล่ล่าจะยากยิ่งขึ้น
‘เจ้าบุญทุ่ม’ เล่นเกมเยือนไม่น่าประทับใจ -- ชนะ 4 เสมอ 5 แพ้ 1 เก็บได้ 17 คะแนน รีล มาดริด ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 1 เก็บได้ 25 คะแนน บวกลบกันแล้ว 7 คะแนนที่บาร์เซโลน่าแพ้รีล มาดริด คือความแตกต่างจากการเล่นเกมเยือนนั่นเอง
นักเตะบาร์เซโลน่าอาจรู้สึกว่าชัยชนะเหนือรีล มาดริด ในศึกกลาสสิโก้คือสูงสุดของชัยชนะ จึงทุ่มเทลงไปที่ความรู้สึกนั้นจนลืมศึกอื่นๆ ขณะผู้พ่ายแพ้ต้องอับอายขายหน้า จนไม่มีเหตุให้ต้องเฉลิมฉลอง แถมนักเตะกับผู้จัดการทีมบาดเกิดหมางใจกันอีก ทีมทำท่าจะแตกเอากลางฤดูกาล โฮเซ่ มูรินโญ่ ถูกกดดันจากบอร์ดบริหารโดยมีข่าวติดว่าทีมทาบทามอาร์แซน เวนเกอร์ จากอาร์เซนอล กับโยอัคคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมันมานั่งเก้าอี้แทนในฤดูกาลหน้า
อิเกร์ กาซิยาส กับเซร์คิโอ รามอส คงนึกออกว่าความพ่ายแพ้ต่ออริสำคัญตนเองก็มีส่วนร่วม และการศึกยังไม่จบ จึงหอบเค้กวันเกิดปีที่ 49 ไปอวยพรเจ้านายถึงสนามซ้อม ความเป็นปึกแผ่นจึงกลับคืนมาอีกครั้ง แม้ยังไม่แกร่งทั่วแผ่น คืนวันเสาร์ครึ่งแรกเสมอทีมท้ายตารางรีล ซาราโกซ่า 1 – 1 แทบตายกว่าจะได้ชัย 3 -1 ตื่นนอนทราบผลบียาร์รีลยัดเสมอบาร์เซโลน่า 0 – 0
ช่างเป็นเช้าที่สดใสเสียจริง ๆ สำหรับนักเตะ ‘ราชันชุดขาว’ เป้าต่อไปคือถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
มูรินโญ่ ถูกผู้บริหารกดดัน ถ้ายังจะอยู่กับทีมต่อไปต้องคว้าให้ได้ 2 ถ้วย นี่อาจเป็นจุดแตกหักลึกร้าว
บางที แม้คว้า 2 แชมป์ มูรินโญ่ อาจไม่อยากอยู่แล้วก็ได้