สตีเวน เจอร์ราร์ด เผยด้วยความยินดีที่ ลิเวอร์พูล จะได้ชิงดำฟุตบอลถ้วยเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี ด้วยประตูรวม 3-2 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ศึกคาร์ลิง คัพ ได้สำเร็จ เมื่อคืนวันพุธที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้กัปตันทีม "หงส์แดง" ชื่นชมเพื่อนร่วมทีมอย่าง เครก เบลลามี ผู้ซึ่งสร้างความแตกต่างจนนำชัยชนะมาสู่ทีม
หลังจากบุกเอาชนะ แมนฯ ซิตี 1-0 ในรอบตัดเชือก นัดแรก เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ลิเวอร์พูล ก็สามารถยันเสมอ 2-2 ที่บ้านตัวเองในถิ่นแอนฟิลด์ โดย เจอร์ราร์ด ซัดจุดโทษให้ทีมตามตีเสมอ 1-1 หลังจากถูกทีมเยือนขึ้นนำก่อนจากการส่องไกลของ ไนเจล เดอ ยอง
แม้ เอดิน เชโก ชาร์จบอลจากลูกเปิดของ อเลกซานเดอร์ โคลารอฟ ให้ แมนฯ ซิตี ขึ้นนำ 2-1 อีกครั้ง แต่ เบลลามี ก็ยิงประตูสำคัญให้ ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ 2-2 รวมถึงสองนัดจึงเอาชนะไป 3-2 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี ที่สนามเวมบลีย์ ในวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์
ครั้งล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล เข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยภายในประเภทเกิดขึ้นเมื่อปี 2006 ซึ่งพวกเขาเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จนคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ที่สนามมิลเลนเนียม สเตเดียม แต่การเข้าชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1996
หลังจบการแข่งขัน เจอร์ราร์ด เปิดเผยด้วยความยินดีว่า "มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดมาก เพราะเป็นเวลานานทีเดียวสำหรับสโมสร นับแต่เล่นที่คาร์ดิฟฟ์เมื่อปี 2006 ผมยินดีด้วยกับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนๆ"
มิดฟิลด์วัย 31 ปีกล่าวอีกว่า เบลลามี คือพระเอกตัวจริงของทีม "เครก คือความแตกต่าง การลากเลื้อยของเขาสร้างอันตรายให้แก่ฝั่งตรงข้ามเสมอ และเรารู้ดีว่า ถ้าหากโอกาสมาถึงเขา เขาจะจบสกอร์ได้ ต้องขอบคุณเขาจริงๆ เราคิดในแง่บวกและเล่นเกมนี้ด้วยความกล้าหาญ แมนฯ ซิตีเป็นทีมที่มีคุณภาพและการที่เราตัดสินใจทำเกมบุกใส่พวกเขา ก็ส่งผลตอบแทนกลับคืนมา"
ขณะที่ เคนนี ดัลกลิช ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ก็ชื่นชมผลงานของลูกทีมทุกคน "ผมคิดว่ามันเป็นฟอร์มการเล่นที่สุดยอด แม้ว่าเกมจบลงด้วยผลเสมอ แต่เราก็สมควรกับการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ลูกทีมของผมสุดยอดมากในคืนนี้และสมควรได้รับคำยกย่อง ทุกคนในทีมต่างมีส่วนช่วยให้เราผ่านเข้ารอบไปได้ แฟนบอลก็ยอดเยี่ยมเช่นนัน และนี่คือรางวัลตอบแทนสำหรับความจงรักภักดีของพวกเขา ดังนั้นแล้วสำหรับทุกคนที่ลิเวอร์พูล มันเป็นคืนที่สุดยอด"