"หงส์" สยบเรือใบลิ่วชิงลีกคัพ

เครก เบลลามี ยิงประตูสำคัญช่วย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-2 ในเกมรอบตัดเชือก นัดสอง รวมผลสองนัดเอาชนะไป 3-2 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลคาร์ลิง คัพ เมื่อคืนวันพุธที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา



ผลฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง
ลิเวอร์พูล 2 - 2 แมนฯ ซิตี (รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)

ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับมือ แมนฯ ซิตี โดยเจ้าถิ่นกุมความได้เปรียบจากการบุกชนะมาก่อน 1-0 ในนัดแรก สำหรับเกมนี้สภาพทีมไม่มีปัญหา สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลงมาคุมเกมตรงกลาง ส่วนคู่หน้าเป็น เครก เบลลามี และ เดิร์ก เคาท์ ทางฝั่งทีมเยือนหมดสิทธิ์ใช้งาน มาริโอ บาโลเตลลี หัวหอกจอมฉาวซึ่งถูกแบน 4 นัด โดยวาง ซาเมียร์ นาสรี และ ดาบิด ซิลบา ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง เอดิน เชโก ซึ่งยืนเป็นหน้าเป้า

เปิดฉากครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ทำเกมบุกใส่ทันที ผ่านมาเพียง 4 นาทีก็เกือบได้ประตูออกนำ สจวร์ต ดาวนิง เปิดบอลจากกราบซ้ายเข้าไปในเขตโทษ กองหลังสกัดไม่ดีบอลมาเข้าทาง โฆเซ เอ็นริเก ที่ยืนอยู่ในเขตโทษ แต่ฟูลแบ็กเลือดกระทิงยิงแบบเฉือนๆติดเซฟ โจ ฮาร์ท

เจ้าถิ่นควบคุมเกมดีกว่าจน แมนฯ ซิตี ต่อบอลกันขึ้นไปลุ้นประตูแบบจะแจ้งไม่ได้ เกมผ่านมาถึงนาที 20 เป็นโอกาสของ หงส์แดง อีกครั้ง เมื่อ เบลลามี ได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนแตะหลบ สเตฟาน ซาวิช หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาในกรอบ 18 หลา แต่ยังไม่ผ่านมือ ฮาร์ท

รูปเกมของ เรือใบสีฟ้า เป็นรองทำได้เพียงตั้งรับแล้วรอสวนกลับ อย่างไรก็ตาม เมื่อเกมผ่านครึ่งชั่วโมงแรกจากจังหวะธรรมดาที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ซิลบา เลี้ยงบอลขึ้นมาหน้าเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ ไนเจล เดอ ยอง เห็นไม่มีผู้เล่นเจ้าบ้านเข้ามาประกบ ก็ปั่นด้วยขวาระยะไกลกว่า 25 หลา บอลโค้งหนีมือ เปเป เรนา เสียบเสาเข้าไปให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0

หลังตกเป็นฝ่ายตามหลัง ลิเวอร์พูล ทำเกมบุกต่อเพื่อทวงประตูคืน จนผ่านมาถึงนาที 40 จึงได้จุดโทษ หลังจากลูกยิงของ ดาเนียล แอกเกอร์ ไปถูกแขนของ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ โดย เจอร์ราร์ด ซึ่งนัดแรกก็เป็นคนสังหารจุดโทษประตูชัย ก็รับหน้าที่ยิงอีกครั้ง มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษสังหารไม่พลาดให้เจ้าถิ่นตามตีเสมอ 1-1 หลังจากนั้นไม่มีจังหวะหวาดเสียวอีกจบครึ่งแรกไป

เกมครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี เติมเกมรุกด้วยการส่ง เซร์คิโอ อกูเอโร ลงมาแทนที่ เซวิช แต่ยังเป็น ลิเวอร์พูล ทำเกมบุกเหนือกว่า ในนาที 47 เบลลามี หลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนเปิดบอลมาหน้าประตู บอลติดแนวรับทีมเยือน แต่กระดอนเข้าทาง เคาท์ วิ่งมาอัดเต็มๆด้วยขวา บอลไปตรงตัว ฮาร์ท อีก

ในนาที 51เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกจากริมเส้นด้านซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ ฮาร์ท ทุบทิ้งออกมาเข้าทาง สเคอร์เทล ดีดด้วยขวา แต่นายด่านทีมชาติอังกฤษโชว์ซูเปอร์เซฟเหินปัดปลายมือ อีก 2 นาทีถัดมาจากจังหวะโต้กลับเร็ว เคาท์ กระชากบอลขึ้นมาทางขวา ก่อนวางบอลไปทางเสาสอง ดาวนิง วอลเลย์มุมแคบก็ยังติดขา ฮาร์ท อีกไม่ได้ประตู

เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง เรือใบสีฟ้า ค่อยๆตั้งเกมของตัวเองขึ้นมาจนต่อบอลมากขึ้น กระทั่งนาที 68 ก็ทำประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 อเลกซานเดอร์ โคลารอฟ ได้บอลทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนกระชากหนี เจอร์ราร์ด แล้วเปิดเข้าไปในเขตโทษ กองหลังเจ้าบ้านสกัดไม่โดน บอลเลยไปถึง เชโก ชาร์จจ่อๆตุงตาข่ายหมดสิทธิ์ที่ เรนา ป้องกัน

หงส์แดง ไม่ยอมแพ้เดินเกมรุกสู้อีกครั้ง ผ่านมาถึงนาที 74 เคาท์ ได้บอลจากลูกทุ่มของ เกลน จอห์นสัน ก่อนจ่ายเข้าในเขตโทษให้ เบลลามี ทำชิ่ง 1-2 กับ จอห์นสัน ได้บอลกลับคืนมา ก่อนยิงเร็วด้วยซ้ายผ่านมือ ฮาร์ท ซุกก้นตาข่ายให้เจ้าถิ่นตามตีเสมอ 2-2 แบบทันควัน

ม้านั่งสำรองทีมเยือนขยับอีกครั้ง อดัม จอห์นสัน ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน เดอ ยอง ในนาที 78 หลังจากนั้น 2 นาที ปีกเท้าหนักได้บอลหลุดเข้าไปสับไกยิงในเขตโทษ แต่ก็เบาเกินไป เรนา ล้มตัวรับสบาย ช่วงท้ายเกม แมนฯ ซิตี ฮึดทำเกมบุกต่อเนื่อง แต่แนวรับของเจ้าถิ่นก็ช่วยกันได้ดี กระทั่งจบเกมจึงเสมอกันไป รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล ชนะ 3-2 ผ่านเข้าไปรอบชิงชนะเลิศกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี ที่สนามเวมบลีย์ ในวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์นี้

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล - เปเป เรนา, เกลน จอห์นสัน, ดาเนียล แอกเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โฆเซ เอนริเก, สตีเวน เจอร์ราร์ด, สจวร์ต ดาวนิง, ชาร์ลี อดัม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เครก เบลลามี, เดิร์ก เคาท์
แมนฯ ซิตี - โจ ฮาร์ท, โจเลียน เลสคอตต์, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, พาโบล ซาบาเลตา, อเลกซานเดอร์ โคลารอฟ, สเตฟาน ซาวิช, แกเรธ แบร์รี, ไนเจล เดอ ยอง, ซาเมียร์ นาสรี, ดาบิด ซิลบา, เอดิน เชโก