คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอล โตโยต้า ลีก คัพ เมื่อปีก่อน ระหว่าง การท่าเรือไทย เอฟซี กับ บุรีรัมย์ พีอีเอ ที่ สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553 หลายคนคงจำได้ว่า ขุมกำลังของทั้ง 2 ทีมไม่ห่างกันมาก ปราสาทสายฟ้า เป็นรองแชมป์ ไทย พรีเมียร์ ลีก ส่วน สิงห์เจ้าท่า คว้าอันดับ 4 แม้เซียนหลายสำนักจะยกให้ พีอีเอ เหนือกว่า แต่เอาเข้าจริงๆ การท่าเรือไทย กลับได้ฉลองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเอาชนะ บุรีรัมย์ พีอีเอ 2-1 ถือว่าพลิกล็อคเล็กๆ
ตอนนั้น น้าเตี้ย สะสม พบประเสริฐ ยังอยู่ และมีทั้ง จิรวัฒน์ มัครมย์ อาลีฟ เปาะจิ สมปอง สอเหลบ และ เอกชัย สำเร เป็นกำลังสำคัญ ผมจำได้ว่า ทั้ง 2 ประตูที่ การท่าเรือไทย ได้มานั้นเกิดจากการผ่านบอลจากทางขวาของ สมปอง ทั้งสิ้น แถมประตูชัย จิรวัฒน์ ก็เป็นคนยิง
ในปัจจุบัน นักเตะทั้ง 4 ที่ว่ามานี้ได้ย้ายตาม น้าเตี้ย ไปเล่นให้ นักรบลาวาเพลิง ทีมเล็กของถิ่นบุรีรัมย์ที่มี ซ้อต่าย เป็นประธานสโมสรกันหมดแล้ว ทำให้ การท่าเรือไทย ปีนี้อ่อนลงมาก และคงจำต้องลงเล่นด้วยนักเตะเท่าที่มีเหลือ ซึ่งตอนนี้ที่เห็นเด่นๆน่าจับตาเป็นพิเศษและ บุรีรัมย์ พีอีเอ คงต้องคอยระวังก็คือ เป้ เกียรติเจริญ เรืองปาน มิดฟีลด์จอมขยัน
ส่วน ทีมใหญ่ของ คุณเนวิน ปีที่แล้วมี สุริยา ดอมไธสง กับ ดั๊กลาส คาร์โดโซ่ เป็นความหวังในการทะลวงประตู มาปีนี้ ทั้ง 2 ถูกส่งลงไปเล่นให้ทีมเล็กก็ด้วยภารกิจในการนำทีมของ ซ้อต่าย ขึ้นมาในลีกสูงสุดอีกทีมหนึ่ง
แม้ พีอีเอ สูญเสียกำลังไปให้ทีมเล็ก แต่ก็ได้นักเตะใหม่มาทดแทนคือ ฟร๊องก์ โออ็องซ่า ( Frank Ohandza ) กองหน้าทีมชาติ กาเมอรูน ชุด U-20 ที่ยืมตัวมาจาก คลับ บรู๊จ ( Club Brugge K.V. ) ทีมดังใน เบลเจี่ยม และ ฟร๊องก์ อาเชอัมปง ( Frank Acheampong ) กองหน้าทีมชาติ กาน่า ที่เกือบจะได้เล่นใน กัลโช่ เซริเอ อา ของ อิตาลี กับ สโมสร ปาแลรโม่ และ ทีมดังแห่งเกาะอังกฤษ แมนเชสเต้อร์ ซิตี้ ก็ยังเคยเชิญไปทดสอบฝีเท้าด้วย
บุรีรัมย์ ได้ทั้ง 2 คนนี้มาก็ถือว่า ดีกว่าเก่ายิ่งขึ้นไปอีก ทั้งทักษะเยี่ยม เร็ว แกร่ง อึด แรงไม่มีตก เป็นเพชฌฆาตของแท้ ใครเจอก็เผลอไม่ได้ โดยเฉพาะ โออ็องซ่า การันตีด้วยตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุด ไทย พรีเมียร์ ลีก ประจำฤดูกาลนี้ค่อนข้างแน่นอน ถึงตอนนี้ยิงไปแล้ว 19 ประตู
บุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นทีมที่แบ่งรายได้จากการขายเสื้อให้นักเตะ จัดโบนัสคิดตามผลการแข่งขัน แต่ละนัดได้เป็นแสนเป็นล้าน แถมมีแช้มป์อยู่ในมือแล้ว 2 รายการ เงินรางวัลก็เอามาแบ่งกัน นี่มันทีมเศรษฐีชัดๆ ในขณะที่ การท่าเรือไทย มีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า ผู้สนับสนุนรายใหญ่ก็มี แต่เงินไม่ยักมา ทิ้งให้บรรดานักเตะและสต๊าฟโค้ชรับกรรม ติดค้างเงินเดือนกันเกือบครึ่งปีแล้ว
ระหว่างหยุดพักการแข่งขัน ไทย พรีเมียร์ ลีก ค่อนข้างยาว หลายสโมสรเตรียมจัดทัพ ซื้อนักเตะใหม่เข้ามาเตรียมสู้ศึกในฤดูกาล 2012 กันแล้ว แต่ สิงห์เจ้าท่า ของพี่ยุทธ ท่าเรือ ยังงงๆ สปิริทขอนักเตะนั้น ผมเชื่อว่ามีเกินร้อยแน่นอนครับ แต่ขวัญกำลังใจมันห่อเหี่ยว แล้วจะเอาอะไรไปชนะ
ล่าสุด ทางบุรีรัมย์ จัดรถ ไป-กลับ ฟรีๆ ให้แฟนบอลจาก บุรีรัมย์ เดินทางมาเชียร์ที่ สนามศุภชลาศัย ในวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ แต่ละคนจ่ายเพียง 100 บาทเป็นค่าตั๋วเข้าชมเท่านั้น นี่ถ้าผมเป็นพ่อค้าหมูปิ้งที่ตลาด ไน้ท์ บาซ่าร์ จ.บุรีรัมย์ ผมยังอยากมาเชียร์เลย นัดนี้กองเชียร์สีน้ำเงินแน่นสนามเช่นเคยแน่นอน
หันไปดูทาง โค้ชธง ธงชัย สุขโกกี น้องรักของผมยืนยันว่า นักเตะทุกคนลงเล่นอย่างเต็มที่แน่นอน แต่ท่านผู้อ่านลองคิดดู ทีมหนึ่ง อาวุธเหนือ หนักว่า กินอิ่ม พร้อมสมบูรณ์ รบชนะมีรางวัลเยอะด้วย ส่วนอีกทีม อาวุธด้อยกว่า เห็นชัดๆ อดมื้อกินมื้อ แล้วนี่ถ้ารบชนะ รางวัลที่ได้เขาจะแบ่งให้หรือไม่ ก็ยังไม่รู้ แล้วอย่างนี้ จะให้ผมฟันธงเอาดังว่า สิงห์เจ้าท่า จะพลิกล็อคคว้าแช้มป์ โตโยต้า ลีก คัพ 2 สมัยซ้อนได้อย่างไรครับ
คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอล โตโยต้า ลีก คัพ เมื่อปีก่อน ระหว่าง การท่าเรือไทย เอฟซี กับ บุรีรัมย์ พีอีเอ ที่ สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553 หลายคนคงจำได้ว่า ขุมกำลังของทั้ง 2 ทีมไม่ห่างกันมาก ปราสาทสายฟ้า เป็นรองแชมป์ ไทย พรีเมียร์ ลีก ส่วน สิงห์เจ้าท่า คว้าอันดับ 4 แม้เซียนหลายสำนักจะยกให้ พีอีเอ เหนือกว่า แต่เอาเข้าจริงๆ การท่าเรือไทย กลับได้ฉลองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเอาชนะ บุรีรัมย์ พีอีเอ 2-1 ถือว่าพลิกล็อคเล็กๆ
ตอนนั้น น้าเตี้ย สะสม พบประเสริฐ ยังอยู่ และมีทั้ง จิรวัฒน์ มัครมย์ อาลีฟ เปาะจิ สมปอง สอเหลบ และ เอกชัย สำเร เป็นกำลังสำคัญ ผมจำได้ว่า ทั้ง 2 ประตูที่ การท่าเรือไทย ได้มานั้นเกิดจากการผ่านบอลจากทางขวาของ สมปอง ทั้งสิ้น แถมประตูชัย จิรวัฒน์ ก็เป็นคนยิง
ในปัจจุบัน นักเตะทั้ง 4 ที่ว่ามานี้ได้ย้ายตาม น้าเตี้ย ไปเล่นให้ นักรบลาวาเพลิง ทีมเล็กของถิ่นบุรีรัมย์ที่มี ซ้อต่าย เป็นประธานสโมสรกันหมดแล้ว ทำให้ การท่าเรือไทย ปีนี้อ่อนลงมาก และคงจำต้องลงเล่นด้วยนักเตะเท่าที่มีเหลือ ซึ่งตอนนี้ที่เห็นเด่นๆน่าจับตาเป็นพิเศษและ บุรีรัมย์ พีอีเอ คงต้องคอยระวังก็คือ เป้ เกียรติเจริญ เรืองปาน มิดฟีลด์จอมขยัน
ส่วน ทีมใหญ่ของ คุณเนวิน ปีที่แล้วมี สุริยา ดอมไธสง กับ ดั๊กลาส คาร์โดโซ่ เป็นความหวังในการทะลวงประตู มาปีนี้ ทั้ง 2 ถูกส่งลงไปเล่นให้ทีมเล็กก็ด้วยภารกิจในการนำทีมของ ซ้อต่าย ขึ้นมาในลีกสูงสุดอีกทีมหนึ่ง
แม้ พีอีเอ สูญเสียกำลังไปให้ทีมเล็ก แต่ก็ได้นักเตะใหม่มาทดแทนคือ ฟร๊องก์ โออ็องซ่า ( Frank Ohandza ) กองหน้าทีมชาติ กาเมอรูน ชุด U-20 ที่ยืมตัวมาจาก คลับ บรู๊จ ( Club Brugge K.V. ) ทีมดังใน เบลเจี่ยม และ ฟร๊องก์ อาเชอัมปง ( Frank Acheampong ) กองหน้าทีมชาติ กาน่า ที่เกือบจะได้เล่นใน กัลโช่ เซริเอ อา ของ อิตาลี กับ สโมสร ปาแลรโม่ และ ทีมดังแห่งเกาะอังกฤษ แมนเชสเต้อร์ ซิตี้ ก็ยังเคยเชิญไปทดสอบฝีเท้าด้วย
บุรีรัมย์ ได้ทั้ง 2 คนนี้มาก็ถือว่า ดีกว่าเก่ายิ่งขึ้นไปอีก ทั้งทักษะเยี่ยม เร็ว แกร่ง อึด แรงไม่มีตก เป็นเพชฌฆาตของแท้ ใครเจอก็เผลอไม่ได้ โดยเฉพาะ โออ็องซ่า การันตีด้วยตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุด ไทย พรีเมียร์ ลีก ประจำฤดูกาลนี้ค่อนข้างแน่นอน ถึงตอนนี้ยิงไปแล้ว 19 ประตู
บุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นทีมที่แบ่งรายได้จากการขายเสื้อให้นักเตะ จัดโบนัสคิดตามผลการแข่งขัน แต่ละนัดได้เป็นแสนเป็นล้าน แถมมีแช้มป์อยู่ในมือแล้ว 2 รายการ เงินรางวัลก็เอามาแบ่งกัน นี่มันทีมเศรษฐีชัดๆ ในขณะที่ การท่าเรือไทย มีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า ผู้สนับสนุนรายใหญ่ก็มี แต่เงินไม่ยักมา ทิ้งให้บรรดานักเตะและสต๊าฟโค้ชรับกรรม ติดค้างเงินเดือนกันเกือบครึ่งปีแล้ว
ระหว่างหยุดพักการแข่งขัน ไทย พรีเมียร์ ลีก ค่อนข้างยาว หลายสโมสรเตรียมจัดทัพ ซื้อนักเตะใหม่เข้ามาเตรียมสู้ศึกในฤดูกาล 2012 กันแล้ว แต่ สิงห์เจ้าท่า ของพี่ยุทธ ท่าเรือ ยังงงๆ สปิริทขอนักเตะนั้น ผมเชื่อว่ามีเกินร้อยแน่นอนครับ แต่ขวัญกำลังใจมันห่อเหี่ยว แล้วจะเอาอะไรไปชนะ
ล่าสุด ทางบุรีรัมย์ จัดรถ ไป-กลับ ฟรีๆ ให้แฟนบอลจาก บุรีรัมย์ เดินทางมาเชียร์ที่ สนามศุภชลาศัย ในวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ แต่ละคนจ่ายเพียง 100 บาทเป็นค่าตั๋วเข้าชมเท่านั้น นี่ถ้าผมเป็นพ่อค้าหมูปิ้งที่ตลาด ไน้ท์ บาซ่าร์ จ.บุรีรัมย์ ผมยังอยากมาเชียร์เลย นัดนี้กองเชียร์สีน้ำเงินแน่นสนามเช่นเคยแน่นอน
หันไปดูทาง โค้ชธง ธงชัย สุขโกกี น้องรักของผมยืนยันว่า นักเตะทุกคนลงเล่นอย่างเต็มที่แน่นอน แต่ท่านผู้อ่านลองคิดดู ทีมหนึ่ง อาวุธเหนือ หนักว่า กินอิ่ม พร้อมสมบูรณ์ รบชนะมีรางวัลเยอะด้วย ส่วนอีกทีม อาวุธด้อยกว่า เห็นชัดๆ อดมื้อกินมื้อ แล้วนี่ถ้ารบชนะ รางวัลที่ได้เขาจะแบ่งให้หรือไม่ ก็ยังไม่รู้ แล้วอย่างนี้ จะให้ผมฟันธงเอาดังว่า สิงห์เจ้าท่า จะพลิกล็อคคว้าแช้มป์ โตโยต้า ลีก คัพ 2 สมัยซ้อนได้อย่างไรครับ