“สมปอง” โทษหนัก “วินนี” ตัดหางปล่อยวัด !!

วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมัน ตัดสินลงดาบสถานหนักสั่งแบน สมปอง สอเหลบ กองหน้า “ช้างศึก” ตลอดชีวิต โทษฐานประพฤติตนไม่เหมาะสมกับการเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ หลังก่อคดีเมาแล้วขับจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล

เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 17 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา สมปอง สอเหลบ สตาร์ “นักรบลาวาเพลิง” บุรีรัมย์ เอฟซี แชมป์ศึกฟุตบอลดิวิชัน 1 ของไทย เป็นข่าวซิ่งรถยนต์ส่วนตัวชนคู่กรณีแล้วหนี ก่อนมาโดนเรียกตรวจโดย สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบว่า “เจ้าปอง” มีอาการมึนเมา วัดระดับปริมาณแอลกอฮอล์ได้ถึง 105 มิลลิกรัม สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 50 มิลลิกรัม

ซึ่งในช่วงเย็นวันเดียวกัน สมปอง เดินทางไปที่ศาลแขวงสมุทรปราการ ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ดังนั้น ศาลฯ จึงพิพากษาสั่งปรับเงินตัวรุกกึ่งปีกทีมชาติไทย 5 พันบาท พร้อมจำคุกเป็นเวลา 1 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี

อย่างไรก็ตาม โทษทัณฑ์ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะล่าสุด วินฟรีด เชเฟอร์ จอมเฮี้ยบสั่งแบน สมปอง ตลอดชีพตราบเท่าที่กุนซือจากเมืองเบียร์ ยังรับผิดชอบกุมบังเหียน “ช้างศึก” พร้อมแจกแจงกับทีมข่าว MGR Sport ว่า “ที่ผ่านมาผมให้โอกาสเขามาโดยตลอด เนื่องจากเขาเป็นผู้เล่นฝีเท้าดี มีพรสวรรค์สูง แต่ปัญหาสำคัญอยู่ที่เรื่องความฟิต แต่ตอนนี้ผมได้ตัด สมปอง ออกจากการเป็นนักเตะทีมชาติไทยแล้ว พร้อมทั้งมีบทลงโทษขั้นสูงสุด คือ การแบนตลอดชีวิต”

“นี่ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยการตัดสินใจของผมมาจากเหตุผลหลัก 3 ประการ คือ การออกจากแคมป์ฝึกซ้อมทีมชาติโดยไม่มีการบอกกล่าว ทั้งยังไปดื่มสุรา จนมาก่อเรื่องทำทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย แม้บางข้ออาจดูไม่ร้ายแรงนัก แต่ในฐานะเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ จึงควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน การกระทำดังกล่าวจึงถือเป็นการทรยศต่อตัวเอง ทรยศต่อแฟนบอล ทรยศต่อสีเสื้อทีมชาติไทย ดังนั้น สมปอง จึงไม่สมควรที่จะได้สวมยูนิฟอร์มของทีมต่อไป” วินนี ทิ้งท้าย

โดยช่วงค่ำวันนี้ (พุธที่ 18 ม.ค.55) เชเฟอร์ มีคิวนำทีมชาติไทยลงทำศึกชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 41 เปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ปะทะแข้ง นอร์เวย์ หลังจากที่นัดแรก “ช้างศึก” พ่ายให้แก่ “โสมขาว” เกาหลีใต้ ชุดปรีโอลิมปิก ยู-23 ปี 1-3

ด้าน “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย รับเพิ่งทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแต่พร้อมช่วยเหลือ สมปอง อย่างเต็มที่ต่อไปถ้ามีเหตุจำเป็น อย่างไรก็ดี การกระทำของ สมปอง ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ จึงอยากฝากเตือนไปถึงนักฟุตบอลและรุ่นน้องๆ ทุกคนให้มีความประพฤติที่เหมาะสม