การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ชี้แจงสมาคมกีฬาที่มีนักกีฬาทั้งที่คว้าสิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2012 แล้วและยังมีลุ้นคว้าตั๋วเพิ่มเติมว่าจะพิจารณางบสนับสนุนให้กับสมาคมที่มีความหวังคว้าเหรียญรางวัลในอัตราส่วนที่มากกว่าสมาคมที่ไม่หวังเหรียญ
เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 มนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นประธานการประชุมแผนงานและงบประมาณในการเตรียมนักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน รอบสุดท้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเรียกสมาคมกีฬาที่อยู่ในข่ายเข้ามาชี้แจงแล้ว 11 สมาคม
โดย 7 สมาคมกีฬาชุดสุดท้ายที่มาเข้าร่วมประชุมในวันนี้ ประกอบด้วย ช่วงเช้า เริ่มตั้งแต่เวลา 9.00 น. สมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมมวยปล้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และ สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ส่วนช่วงบ่ายเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. มีสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย, สมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬายิงปืน และสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย
ด้าน มนตรี ไชยพันธุ์ สรุปภาพรวมของการประชุมว่า “เราเชิญสมาคมทั้งที่มีนักกีฬาได้ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแล้วและที่ยังลุ้นคว้าโควตาอยู่มาชี้แจงแผนงาน งบประมาณ เพื่อรับทราบถึงความต้องการของแต่ละสมาคม ก่อนที่ กกท.จะพิจารณาเรื่องการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนให้แต่ละสมาคม ซึ่งงบจะมาจาก 2 ส่วน คือ งบประจำปีของฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศฯ 30 ล้านบาท และงบกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติซึ่งจะต้องทำเรื่องเบิกไปในภายหลัง”
“รองมนตรี” กล่าวต่อไปว่า “ในส่วนของการเกณฑ์จัดสรรงบประมาณนั้น เบี้ยเลี้ยงนักกีฬาเราจะกำหนดให้เท่ากัน ส่วนงบสนับสนุนของสมาคมเราจะพิจารณาให้กับสมาคมที่มีความหวังลุ้นเหรียญในกีฬาโอลิมปิกมากกว่าสมาคมที่ไม่หวังเหรียญ ซึ่งสมาคมที่เราเรียกมาชี้แจงต่างยอมรับในหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติมาเป็นอันดับแรก และส่งเสริมให้คนไทยได้เหรียญจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งในภาวะที่มีงบประมาณจำกัด เมื่อพิจารณาแล้วเสร็จ เราก็จะชี้แจงให้ทุกสมาคมได้ทราบว่า กกท. มีเงินอยู่เท่าไร เสนอของบประจำปีเท่าไร และไปของบกองทุนฯ เท่าไร หลังจากที่ได้งบมาแล้วก็จะแจ้งทุกสมาคมว่าเราได้งบมาเท่าไรและจัดสรรให้สมาคมละเท่าไร”
ทั้งนี้ กกท. จะมีการประชุมเพื่อเสนอเรื่องการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 21 มกราคมนี้ เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทยหัวหมาก
เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 มนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นประธานการประชุมแผนงานและงบประมาณในการเตรียมนักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน รอบสุดท้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเรียกสมาคมกีฬาที่อยู่ในข่ายเข้ามาชี้แจงแล้ว 11 สมาคม
โดย 7 สมาคมกีฬาชุดสุดท้ายที่มาเข้าร่วมประชุมในวันนี้ ประกอบด้วย ช่วงเช้า เริ่มตั้งแต่เวลา 9.00 น. สมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมมวยปล้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และ สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ส่วนช่วงบ่ายเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. มีสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย, สมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬายิงปืน และสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย
ด้าน มนตรี ไชยพันธุ์ สรุปภาพรวมของการประชุมว่า “เราเชิญสมาคมทั้งที่มีนักกีฬาได้ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแล้วและที่ยังลุ้นคว้าโควตาอยู่มาชี้แจงแผนงาน งบประมาณ เพื่อรับทราบถึงความต้องการของแต่ละสมาคม ก่อนที่ กกท.จะพิจารณาเรื่องการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนให้แต่ละสมาคม ซึ่งงบจะมาจาก 2 ส่วน คือ งบประจำปีของฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศฯ 30 ล้านบาท และงบกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติซึ่งจะต้องทำเรื่องเบิกไปในภายหลัง”
“รองมนตรี” กล่าวต่อไปว่า “ในส่วนของการเกณฑ์จัดสรรงบประมาณนั้น เบี้ยเลี้ยงนักกีฬาเราจะกำหนดให้เท่ากัน ส่วนงบสนับสนุนของสมาคมเราจะพิจารณาให้กับสมาคมที่มีความหวังลุ้นเหรียญในกีฬาโอลิมปิกมากกว่าสมาคมที่ไม่หวังเหรียญ ซึ่งสมาคมที่เราเรียกมาชี้แจงต่างยอมรับในหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติมาเป็นอันดับแรก และส่งเสริมให้คนไทยได้เหรียญจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งในภาวะที่มีงบประมาณจำกัด เมื่อพิจารณาแล้วเสร็จ เราก็จะชี้แจงให้ทุกสมาคมได้ทราบว่า กกท. มีเงินอยู่เท่าไร เสนอของบประจำปีเท่าไร และไปของบกองทุนฯ เท่าไร หลังจากที่ได้งบมาแล้วก็จะแจ้งทุกสมาคมว่าเราได้งบมาเท่าไรและจัดสรรให้สมาคมละเท่าไร”
ทั้งนี้ กกท. จะมีการประชุมเพื่อเสนอเรื่องการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 21 มกราคมนี้ เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทยหัวหมาก
