ราฟาเอล นาดาล แร็กเกตกล้ามโต เปิดศึกนอกสนามกับคู่ปรับเก่า โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ โดยตำหนิ "เฟดเอ็กซ์" ไม่ใช่อิทธิพลความเป็นนักเทนนิสที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ช่วยกดดันให้สมาคมนักเทนนิสอาชีพชาย (เอทีพี) และ สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) ลดโปรแกรมการแข่งขันที่มากเกินไปในแต่ละฤดูกาลลงเพื่อประโยชน์แก่เพื่อนร่วมอาชีพคนอื่น
นักเทนนิสชายแถวหน้าของวงการอย่าง นาดาล และ แอนดี เมอร์เรย์ มือ 4 ของโลกชาวสกอต เป็นต้น เคยมีแผนจะทำการสไตรก์เพื่อประท้วง เอทีพี และ ไอทีเอฟ เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากไม่พอใจตารางการแข่งขันที่มากเกินไปในแต่ละฤดูกาล
โดย เอทีพี ทัวร์ กำหนดให้ผู้เล่นต้องลงแข่งขันอย่างต่ำ 12 รายการในแต่ละปีรวมถึงแกรนด์สแลมทั้ง 4 รายการ อีกทั้งฤดูกาลกว่าจะจบก็ปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งช้ากว่า 1 เดือนเมื่อเทียบกับ ดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ ของนักหวดหญิง นอกจากนี้รอบชิงชนะเลิศ ศึกเทนนิสประเภททีม "เดวิส คัพ" ก็ตามมาอีกในช่วงเดือนธันวาคม
ด้าน เฟเดอเรอร์ เคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาโดยกล่าวแต่เพียงว่าให้ เอทีพี และ ไอทีเอฟ หาทางแก้ไข ซึ่ง นาดาล ก็ผิดหวังกับท่าทีของนักหวดชาวสวิสเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 16 รายการที่น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้
โดยแร็กเกตชาวสแปนิชกล่าวว่า "จุดยืนของเขามันง่าย นั้นคือไม่พูดอะไรยกเว้นแต่ในแง่ที่ดีๆแล้วปล่อยให้คนอื่นสู้กันไป เราต่างมีความคิดเห็นของเรา และบางที เฟเดอเรอร์ อาจชอบที่ทัวร์เป็นแบบนี้ ผมก็ชอบเช่นกันและคิดว่ามันดีกว่ากีฬาอีกหลายประเภท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถทำให้มันดีขึ้นอีก สิ่งไม่ดีสมควรถูกแก้ไข"
"ผมพูดหลายอย่างในแง่ที่ดีเกี่ยวกับเทนนิส เพราะกีฬาชนิดนี้ทำให้ผมมีประสบการณ์ในชีวิตซึ่งไม่เคยฝันถึง แต่การที่คุณจะต้องจบชีวิตการเล่นเทนนิสอาชีพโดยมีปัญหาเจ็บทั่วร่างกายไปหมดไม่ใช่เรื่องที่ดี เขาอาจจบการเล่นอาชีพด้วยความสดเหมือนอย่างดอกเดซี เพราะสภาพร่างกายของเขาดีกว่าคนอื่น แต่ไม่ใช่ผม หรือ เมอร์เรย์ หรือ โนวัค ยอโควิช ที่สภาพร่างกายจะดีแบบเขา" นาดาล กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ นาดาล แสดงความเห็นดังกล่าวก่อนหน้าลงแข่งขัน ออสเตรเลียน โอเพน แกรนด์สแลมแรกของปีที่แดนจิงโจ้ ซึ่งเริ่มดวลลูกสักหลาดในวันจันทร์ที่ 16 ม.ค.นี้