คอลัมน์ ON TRACK โดย เด็กปั๊ม
ห่ายหายในช่วงหยุดยาวปีใหม่ไปร่วมหนึ่งสัปดาห์ มาวันนี้ได้เวลา "เด็กปั๊ม" กลับมาประจำการบนพื้นที่ ON TRACK อีกครั้ง ซึ่งผมเองขออนุญาตประเดิมปี 2555 ด้วยการนำเรื่องที่เป็นประเด็นร้อนและเชื่อว่าน่าจะอยู่ในความสนใจของแฟนความชาวเร็วชาวไทย นั่นก็คือว่าที่ต้นสังกัดใหม่ของ "เจ้าฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ในการสู้ศึกโมโตทูฤดูกาล 2012
อย่างที่เป็นข่าวตามหน้าสื่อในช่วงปลายปีที่ผ่านมาครับกับอนาคตของรัฐภาคย์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ที่ได้แยกทางกับทีมสต็อป แอนด์ โก (SAG) ทีมต้นสังกัดในสเปน เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังร่วมงานกันมาถึง 5 ปีเต็ม โดยแบ่งเป็นรุ่น 250 ซีซี 3 ฤดูกาล และ 2 ฤดูกาลหลังในรุ่นโมโตทู
โดยผมเองมีโอกาสได้พูดคุยกับนายอารักษ์ พรประภา ผู้บริหารระดับสูงของเอ.พี.ฮอนด้า ต้นสังกัดทางเมืองไทยของฟีม ซึ่งเสี่ยอารักษ์เอง ยืนยันว่าฟีมกำลังจะได้เซ็นสัญญาร่วมทีมเกรซินี เรซซิง ทีมบิดดังของอิตาลี ทว่าข่าวการยืนยันอย่างเป็นทางการนั้นเจ้าตัวต้องการให้ออกมาจากปากของ จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหารเอ.พี.ฮอนด้า ภายในสัปดาห์นี้มากกว่า
แต่กระนั้นก็ต้องบอกว่ากว่า 99.99 เปอร์เซนต์แล้วครับที่นักบิดวัย 23 ปีจะได้ขยับก้าวไปอีกขั้นด้วยการร่วมทีมบิดระดับหัวแถวในโมโตจีพี ซึ่งนี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอาชีพนักบิดของฟีมก็ว่าได้ เพราะเจ้าตัวจะต้องเผชิญกับความถ้าทายใหม่ทั้งหมดที่จะเข้ามา แต่แน่นอนครับว่ามันจะเป็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
โดยฟีมจะต้องย้ายบ้านรวมถึงเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่ทั้งหมด ด้วยการย้ายจากการปักหลักในแถบคาตาลันของสเปน ไปอยู่ในอิตาลี ขณะเดียวกันก็ต้องทำงานร่วมกับทีมงานชุดใหม่ทั้งหมด ที่สำคัญจะต้องเร่งปรับตัวให้เข้ากับเฟรมรถโมริวากิ ของทีมเกรซินีให้ได้โดยเร็วตั้งแต่การทดสอบรถช่วงวินเตอร์เทสต์ในช่วงเดือน ก.พ.นี้
ก่อนหน้านี้ผมเองเคยแอบกระซิบถามฟีมว่า พวกทีมดังๆในโมโตทู อย่างพวกเกรซินี ,คีเฟอร์ เรซซิง ,คาตาลุนญาเรปโซ ว่าแท้จริงแล้วมันแตกต่างหรือห่างชั้นกับ สต็อป แอนด์ โก (SAG) มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเจ้าตัวกระซิบตอบแบบไม่ต้องเกรงใจต้นสังกัดเก่าเลยว่า ความแตกต่างของคุณภาพทีมงานและการเซ็ตอัพรถเทียบได้กับทีมระดับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับเลสเตอร์ ซิตี เลยทีเดียว
งานนี้ผมเองเชื่อว่า ด้วยทีมงานมืออาชีพในทีมเกรซินี รวมถึงตัวรถฮอนด้า-โมริวากิ น่าจะทำให้ฟีมขยับเวลาต่อรอบทั้งการควอลิฟาย และในวันแข่งขันขึ้นมาจากที่รั้งอยู่อันดับประมาณ 20 ถึง 35 ในฤดูกาลที่แล้ว ขึ้นมาอยู่ในท็อป 15 ได้แน่นอน
แต่เหนืออื่นใด ฟีมจะต้องพร้อมแบกรับความกดดันและความหวังที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว รวมถึงจะต้องพลาดให้น้อยที่สุด เพราะในเมื่อคุณมีรถที่ดีและทีมงานที่ยอดเยี่ยม ผลงานที่ออกมาก็จำเป็นต้องดีขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ